“ราชินีมีเครา” แห่งอียิปต์
ฮัตเชปซุต “ราชินีมีเครา” แห่งอียิปต์ ในช่วงเวลาที่กินเวลากว่า 3,000 ปีของประวัติศาสตร์อียิปต์ มีฟาโรห์หญิงขึ้นครองบัลลังก์แห่งลุ่มแม่น้ำไนล์มาแล้วอย่างน้อย 5 พระองค์ อย่างไรก็ตาม ฟาโรห์หญิงที่ทิ้งผลงานและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ ฟาโรห์ฮัตเชปซุต (Hatshepsut)
ฟาโรห์ฮัตเชปซุตเป็นที่รู้จักในหมู่สาวกไอยคุปต์ทั่วโลกจากการที่พระองค์แต่งองค์ทรงเครื่องเยี่ยงบุรุษฟาโรห์ พระนางจึงได้รับสมญานามว่า “ราชินีมีเครา” ภาพสลักทั้งสองมิติบนผนังวิหารและภาพสลักแบบลอยตัวสามมิติของฮัตเชปซุตในบทบาทของฟาโรห์หญิงมักจะแสดงภาพของเคราปลอมสวมอยู่ที่คางของพระนางเสมอ แม้ว่าเรื่องราวส่วนตัวของพระนางฮัตเชปซุตจะมี "เรื่องฉาว" ให้กล่าวถึงมากมาย แต่ผลงานทางด้านกรณียกิจของพระองค์นั้นโดดเด่นไม่แพ้ฟาโรห์ชาย พระนางฮัตเชปซุตทรงส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งคณะสำรวจไปยังดินแดนปุนท์ (Punt) และเป็นผู้สร้างสิ่งก่อสร้างทางศาสนาและวิหารต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดของพระนางคือ วิหารเดียร์ เอล-บาฮารี (Deir el-Bahari) ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นที่ประทับของพระนางหลังสิ้นพระชนม์
วิหารนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ใกล้เมืองลักซอร์ โครงสร้างของวิหารนี้มีลักษณะเฉพาะตัวเป็นชั้นๆ และมีเสาค้ำยาว ภายในวิหารตกแต่งด้วยภาพสลักและภาพเขียนที่บอกเล่าเรื่องราวการครองราชย์และกิจกรรมต่างๆ ของฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต พระนางฮัตเชปซุตยังเป็นผู้ริเริ่มและฟื้นฟูโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่ถูกละเลยในยุคก่อนๆ ซึ่งได้ช่วยเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพให้กับอาณาจักรอียิปต์ในยุคนั้น ผลงานของพระองค์ได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่ประจักษ์ในด้านต่างๆ จนถึงทุกวันนี้ แม้พระนางฮัตเชปซุตจะเป็นฟาโรห์หญิงที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์อียิปต์ แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ราชวงศ์ถัดมาได้พยายามลบล้างความทรงจำเกี่ยวกับพระนาง หลายส่วนของสิ่งก่อสร้างและอนุสรณ์สถานของพระองค์ถูกทำลาย และชื่อของพระนางถูกลบออกจากประวัติศาสตร์ จนกระทั่งนักโบราณคดีในยุคปัจจุบันได้ทำการศึกษาค้นคว้าและคืนชื่อเสียงให้กับพระนางฮัตเชปซุตอีกครั้ง
ฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุตจึงเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของผู้นำหญิงที่ทิ้งร่องรอยที่สำคัญไว้ในประวัติศาสตร์อียิปต์ ทั้งในด้านกรณียกิจ การค้า และการก่อสร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่ยังคงยืนยาวจนถึงปัจจุบัน