ความเห็นต่อแนวคิดของ 18 สมาคมอสังหาฯ
ความเห็นต่อแนวคิดของ 18 สมาคมอสังหาฯ
AREA แถลง ฉบับที่ 594/2567: วันพุธที่ 03 กรกฎาคม 2567
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
![]()
คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ได้กรุณาส่งความเห็นของ 18 สมาคมอสังหาริมทรัพย์มาให้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) อ่านเพื่อให้ความเห็น ซึ่งนับเป็นความกรุณาของคุณประเสริฐ ดร.โสภณ จึงขอแสดงความเห็นดังนี้:
เรื่องเป้าหมายสำคัญการดำเนินการแก้กฎหมายให้ต่างชาติซื้อ/เช่าอสังหาริมทรัพย์ในไทยในครั้งนี้
1. เป็นการวางโครงสร้างระยะยาวรองรับการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติอย่างถูกต้อง โดยมีการเสียภาษีและค่าธรรมเนียมที่ถูกต้อง โปร่งใส ผ่านการเช่าระยะยาวเท่านั้น ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
ความเห็น ดร.โสภณ: ปัจจุบันนี้ไทยก็ให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินอยู่แล้ว เช่น นำเงินเข้ามา 40 ล้านก็ซื้อที่ดินได้ 1 ไร่ หรือซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม หรือหากได้รับการส่งเสริมการลงทุนก็สามารถซื้อที่ดิน 5 ไร่มาทำกิจการ อีก 10 ไร่มาเป็นที่อยู่อาศัย และอีก 20 ไร่มาสร้างบ้านให้คนงานอยู่ (ซึ่งเป็นระเบียบที่ไม่ดีต่อชาติ)
2. คนไทยตัวเล็กได้รับประโยชน์จากกองทุนสนับสนุนการมีบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางภายใน 3 ปี เกือบ 100,000 ครอบครัว
ความเห็น ดร.โสภณ: อันนี้ต้องดูรูปธรรมว่าจะทำอย่างไรจึงจะวิเคราะห์ได้ และอาจต้องประเมินถึงผลกระทบในเชิงลบต่อตลาดที่อยู่อาศัยว่ามีหรือไม่
3. เป็นการจัดระเบียบและกฎเกณฑ์การอยู่อาศัยของชาวต่างชาติ โดยการควบคุมของคนไทยในฐานะเจ้าของประเทศ ผ่านการสละสิทธิ์การโหวตส่วนเกิน 49% ของชาวต่างชาติอย่างถาวร และมีเสียงไม่เกินเสียงข้างน้อยของคนไทย
ความเห็น ดร.โสภณ: ถ้าให้ต่างชาติถือครองห้องชุดได้ 75% แต่มีสิทธิ์โหวดไม่เกิน 49% ก็มากกว่า 25% ของคนไทยอยู่แล้ว หรือจะลดสิทธิ์การโหวดของเขาเหลือ 24% ซึ่งคงแปลกมาก
เรื่อง สัดส่วนห้องชุดชาวต่างชาติเกิน 49% เฉพาะบางพื้นที่
1. กำหนดเฉพาะบางพื้นที่ที่ส่งเสริมการลงทุนหรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น กทม. (บางเขต) ภูเก็ต พัทยา
ความเห็น ดร.โสภณ: ในความเป็นจริง อาจมีบางโครงการที่เต็ม 49% ในพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น
2. โครงการซึ่งจะถือกรรมสิทธิ์เกิน 49% ต้องมีจำนวนที่ดินไม่เกิน 5 ไร่ ป้องกันการถือครองที่ดินทางอ้อม
ความเห็น ดร.โสภณ: เป็นความคิดที่ดี
3. สละสิทธิ์การโหวตของชาวต่างชาติส่วนที่เกิน 49% เป็นการถาวร และส่วนที่ไม่เกิน 49% กำหนดให้ไม่เกินเสียงส่วนน้อยของคนไทย
ความเห็น ดร.โสภณ: เช่นเดียวกับข้างต้น ถ้าให้ต่างชาติถือครองห้องชุดได้ 75% แต่มีสิทธิ์โหวดไม่เกิน 49% ก็มากกว่า 25% ของคนไทยอยู่แล้ว หรือจะลดสิทธิ์การโหวดของเขาเหลือ 24% ซึ่งคงแปลกมาก
4. กำหนดหลักเกณฑ์อื่นๆ ให้อยู่ในการควบคุมของคนไทย
4.1 ประธานและผู้จัดการนิติต้องเป็นสัญชาติไทย 4.2 ชาวต่างชาติเป็นกรรมการนิติไม่เกินกว่าครึ่งหนึ่ง 4.3 วางระเบียบรักษาสิทธิ์เสียงข้างน้อยของคนไทย
ความเห็น ดร.โสภณ: เป็นความคิดที่ดี แต่เป็นข้อปลีกย่อยเล็กน้อย ทุกวันนี้มีกรณีตัวอย่างบางอาคาร แม้ให้ต่างชาติครองอยู่เพียง 49% แต่ก็ถูกต่างชาติครอบงำไปแล้วเพราะคนไทยเองก็อาจไม่ได้ไปใช้สิทธิ์
4.4 อาคารชุดให้เช่าเป็นรายวันไม่ได้ผิดพรบโรงแรม
ความเห็น ดร.โสภณ: กรณีนี้มีการบังคับอยู่แล้วในปัจจุบัน
ประโยชน์ที่ประเทศไทยและคนไทยจะได้รับ
1. แก้ปัญหาถือครองกรรมสิทธิ์โดยผิดกฎหมาย (nominee) ทำให้เกิดความสุจริต โปร่งใส
ความเห็น ดร.โสภณ: มาตรการเพียงเท่านี้คงยังไม่สามารถแก้ปัญหา Nominee ได้ ต่างชาติยังซื้อบ้าน Nominee ทั้งที่ดิน บ้าน ห้องชุดอยู่เสมอโดยไม่มีการปราบปราม
2. เสียค่าธรรมเนียมและภาษีในการซื้อ-ขาย และเสียภาษีที่ดินประจำปีสูงกว่าอัตราที่คนไทยต้องเสีย
ความเห็น ดร.โสภณ: ข้างต้นไม่ได้เสนอไว้ชัดเจน แต่ ดร.โสภณ เสนอไว้ในจดหมายถึงนายกฯ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนแล้ว โดยเสนอให้เก็บภาษีซื้อ 10% ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1% ภาษีกำไร 20% และภาษีมรดก 10% ตามราคาตลาด เช่นที่คนไทยไปซื้อบ้านในต่างประเทศต้องเสียในอัตราที่สูงกว่านี้ด้วยซ้ำ
3. รายได้ที่เพิ่มขึ้นสามารถริเริ่มจัดตั้งกองทุนเพื่อที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้เช่น สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 0% 3 ปีแรก หรือเป็นกองทุนค้ำประกันสินเชื่อของผู้มีรายได้น้อยผ่านระบบ mortgage insurance
ความเห็น ดร.โสภณ: อันนี้ต้องดูรูปธรรมว่าจะทำอย่างไรจึงจะวิเคราะห์ได้ และอาจต้องประเมินถึงผลกระทบในเชิงลบต่อตลาดที่อยู่อาศัยว่ามีหรือไม่
การขยายระยะเวลาเช่า 99 ปี
ประโยชน์สำหรับคนไทยเมื่อขยายระยะเวลาเช่า
1. ผู้ให้เช่ายังคงเป็นเจ้าของที่ดินและมีรายได้ระยะยาว
ความเห็น ดร.โสภณ: ปกติเขาให้เช่า 30 ปีหรือ 50 ปีตามกฎหมายปัจจุบัน เจ้าของที่ดินก็มีรายได้ระยะยาวอยู่แล้ว การให้เช่า 99 ปี ได้ค่าเช่าน้อยนิดมาก ดูอย่างกรณีห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว หากให้เช่า 50 ปี แทน 30 ปีตามที่ให้เช่าจริง 20 ปีหลังก็คงไม่ได้ค่าเช่าอีก 20,000 ล้านบาท (แม้หักตัวอาคารออก ก็ยังได้ประโยชน์จากการเช่าที่ดินใน 20 ปีหลังสูงมาก)
2. ผู้เช่ามีระยะเวลาเพียงพอที่จะใช้เป็นหลักประกันฯ ได้
ความเห็น ดร.โสภณ: ผู้เช่าที่เช่าแค่ 30 ปี สถาบันการเงินก็ยินดีอำนวยสินเชื่ออยู่แล้ว
3. ผู้เช่าคนไทยทำประโยชน์ได้ทุกประเภท ทั้งการเกษตร ที่อยู่อาศัย พานิชยกรรม อุตสาหกรรม
ความเห็น ดร.โสภณ: ต่างชาติก็แสร้งตั้งบริษัท Nominee มาเป็นบริษัทคนไทย มาเช่าได้อยู่แล้ว ต่อไปต่างชาติอาจมาปลูกสวนทุเรียน ทำนา บนพื้นที่เช่านับพัน นับหมื่นไร่ที่เช่าต่อจากเจ้าสัว-นายหัวใหญ่ๆ
4. ผู้ให้เช่า-ผู้เช่ายืดหยุ่นเวลาการได้ ตามขนาดการลงทุน
ความเห็น ดร.โสภณ: อันนี้ไม่มีประเด็น
สำหรับชาวต่างชาติ
1. จำกัดเนื้อที่ เช่น ไม่เกิน 1 ไร่
ความเห็น ดร.โสภณ: เช่นเดียวกับข้างต้น ต่างชาติก็แสร้งตั้งบริษัท Nominee มาเป็นบริษัทคนไทย มาเช่าได้อยู่แล้ว ต่อไปต่างชาติอาจมาปลูกสวนทุเรียน ทำนา บนพื้นที่เช่านับพัน นับหมื่นไร่ที่เช่าต่อจากเจ้าสัว-นายหัวใหญ่ๆ
2. ใช้เพื่อที่อยู่อาศัยเท่านั้น หากไม่สร้าง หรืออยู่อาศัยใน 3 ปี จัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในอัตรารกร้างสูงสุด 3% ต่อปี (ป้องกันการเก็งกำไร)
ความเห็น ดร.โสภณ: เช่นเดียวกับข้างต้น ต่างชาติก็แสร้งตั้งบริษัท Nominee มาเป็นบริษัทคนไทย มาเช่าได้อยู่แล้ว ต่อไปต่างชาติอาจมาปลูกสวนทุเรียน ทำนา บนพื้นที่เช่านับพัน นับหมื่นไร่ที่เช่าต่อจากเจ้าสัว-นายหัวใหญ่ๆ
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. แก้ไขปัญหาการถือกรรมสิทธิ์หรือการเช่าโดยผิดกฎหมาย (nominee) ทำให้เกิดความสุจริตโปร่งใส
ความเห็น ดร.โสภณ: ตามที่เสนอความเห็นไปข้างต้นแล้ว มาตรการเพียงเท่านี้คงยังไม่สามารถแก้ปัญหา Nominee ได้ ต่างชาติยังซื้อบ้าน Nominee ทั้งที่ดิน บ้าน ห้องชุดอยู่เสมอโดยไม่มีการปราบปราม
2. ชาวต่างชาติต้องเสียค่าธรรมเนียมการเช่า และภาษีที่ดินสูงกว่าคนไทย
ความเห็น ดร.โสภณ: พึงเสนอให้ชัดเจนเช่นที่ ดร.โสภณ เสนอไว้ในจดหมายถึงนายกฯ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนแล้วว่าให้เก็บภาษีซื้อ/เช่าระยะยาว 99 ปี (ถ้ามี) 10% ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1% ภาษีกำไร 20% และภาษีมรดก 10% ตามราคาตลาด เช่นที่คนไทยไปซื้อบ้านในต่างประเทศต้องเสียในอัตราที่สูงกว่านี้ด้วยซ้ำ
3. รายได้ที่เพิ่มขึ้น สามารถริเริ่มจัดตั้งกองทุนเพื่อที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้เช่น สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 0% 3 ปีแรก สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท หรือเป็นกองทุนค้ำประกันสินเชื่อของผู้มีรายได้น้อยผ่านระบบ mortgage insurance
ความเห็น ดร.โสภณ: ภาษีที่เก็บได้ (ตามที่ ดร.โสภณ เสนอ ซึ่งประมาณการไว้ 135,000 ล้านต่อปี) ควรเอามาพัฒนาประเทศ ไม่ใช่ส่งเสริมให้ชาวบ้านไปซื้อบ้านกับนักพัฒนาที่ดินเป็นหลัก
คุณประเสริฐท่านยืนยันว่า “ข้อเสนอของสมาคมทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนคนไทย” ดร.โสภณก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย เพียงแต่ต้องมีมาตรการที่แท้คือการเก็บภาษีกับชาวต่างชาติ เช่น
1. การเก็บภาษีซื้อ 10% ของราคาซื้อขายจริงตามราคาตลาด (อินโดนีเซียประมาณ 10-15%, ยุโรป 10-20%, ฮ่องกง 30% สิงคโปร์ 60%)
2. การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1% ของราคาตลาด (สหรัฐอเมริกา ประมาณ 1-3% ของราคาประเมิน ซึ่งใกล้เคียงราคาตลาด แต่ที่ประเทศไทย ราคาประเมินราชการอาจเป็นเพียง 10%-30% ของราคาตลาด
3. การเก็บภาษีกำไรจากการขายต่อ โดยคิด 20% ของกำไรตามราคาตลาด (ในสหรัฐอเมริกา 20% ไต้หวัน 30-40%)
4. ภาษีมรดกเก็บ 10% ตามราคาของกองมรดก (หลายประเทศเก็บสูงกว่านี้มาก เช่น ญี่ปุ่น เก็บถึง 55% หากทรัพย์สินส่วนที่มีมูลค่าเกิน 150 ล้านบาทตามราคาตลาด)
ดร.โสภณ ประมาณการไว้ว่าในกรณีภูเก็ต น่าจะเก็บภาษีได้ปีละ 13,500 ล้านบาท ทั่วประเทศอาจเป็น 135,000 ล้านบาท และหากนิรโทษกรรมพวกที่ซื้อเทาๆ แต่เดิมเพื่อจะได้ทำให้ถูกต้อง ก็อาจได้ภาษีปีละ 2-3 แสนล้านบาทต่อปี เงินเหล่านี้ต่างหากที่เราจะได้นำมาพัฒนาประเทศและพัฒนาประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปรามการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์สีเทาๆ หรือสีดำในประเทศไทย
ยิ่งกว่านั้นรัฐบาลยังควรห้ามการซื้อขายห้องชุดที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้าน (มาเลเซียประมาณ 15 ล้านบาท อินโดนีเซีย 10 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ) เพื่อป้องกันไม่ให้ต่างชาติมาซื้อเก็งกำไรหรือขายต่อหรือให้เช่ากับคนไทยอีกต่อหนึ่ง รวมทั้งห้ามการขายต่อภายในเวลา 3 ปีเพื่อป้องกันการเก็งกำไรอีกด้วย และอนุญาตให้ต่างชาติกู้เงินซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้แต่วงเงินสินเชื่อต้องไม่เกิน 50% ของราคาตลาด
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
เปิดเงื่อนไขพนักงาน "ไดกิ้น" ที่จะได้รับทอง ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย


