รีวิวหนังดัง THE PRESTIGE ศึกมายากลหยุดโลก
เรื่องราวของนักมายากลที่ดูเหมือนไม่น่าจะมีอะไร แต่กลับกลายเป็นเรื่องการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น เป็นคู่แค้นที่ตอบโต้กันแรงขึ้นเรื่อยๆจนเอาถึงแก่ชีวิต ผลงานการกำกับของ Christopher Nolan อัจฉริยภาพแห่งวงการ Holywood ที่ไม่ชอบเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง
การแสดงมายากลจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ช่วง เพื่อล่อคนดูให้สนใจในมายากล THE PRESTIGE คือส่วนสุดท้ายที่สำคัญที่สุด มันจะทำให้คนดูทึ่งกับมายากลหรือไม่ก็อยู่ที่จุดนี้
เรื่องย่อ
ปี 1890 คู่แค้นนักมายากลทั้งสองคน Robert Angier และ Alfred Borden พวกเขามีเรื่องแค้นเคืองที่ผิดใจแล้วกล่าวโทษต่อกันในเรื่องที่ทำให้หญิงสาวคนหนึ่งต้องตายจากการโชว์มายากล
แต่ทั้งคู่ต่างก็มีฝีมือแสดงมายากลทัดเทียมกัน ต่างคนต่างจะทำให้อีกฝั่งต้องลงเอยกับการแสดงที่จบไม่สวย บาดเจ็บ หรือเกือบตายก็เกิดขึ้นมาแล้ว Robert Angier ใช้แผนสุดโต่งโดยการส่งคนรักของตนอย่าง Olivia Wenscombe เป็นไปไส้ศึกล้วงความลับของ Alfred Borden โดยแสร้งทำเป็นว่าตนถูก Angier ขับไล่ออกจากคณะ
ทว่า Alfred ก็รู้ทันก่อน แต่ก็สวมรอยแกล้งทำเป็นไม่รู้ แต่นานวันเข้า ความสัมพันธ์ของ Alfred กับ Olivia ก็เรื่องจริงจังมากขึ้นทุกที ทำให้ Sarah ภรรยาหลวง เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่นั่นก็ทำให้ Angier ได้ข้อมูลเท็จจาก Olivia แต่นั่นก็ทำให้เขาได้ทริกมายากลชุดใหม่ขึ้นมาแทน การตอบโต้ของทั้ง Angier และ Alfred ยังคงทวีความรุนแรงจนนำไปสู่การใส่ร้ายและเจตนาให้ถึงแก่ชีวิต
นักแสดงนำ
- Hugh Jackman รับบทเป็น Robert Angier
- Christian Bale รับบทเป็น Alfred Borden
- Michael Caine รับบทเป็น Cutter
- Scarlett Johansson รับบทเป็น Olivia Wenscombe
- Rebecca Hall รับบทเป็น Sarah
- David Bowie รับบทเป็น Tesla
- Andy Serkis รับบทเป็น Alley
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.หนังทำในสิ่งที่เป็นเรื่องธรรมดาให้ดูมีความเข้มข้นและเชือดเฉือนได้อย่างลงตัว มันทำให้หนังดูสมจริง ถึงบริบทจะเป็นยุค 1890 แต่ความแค้นเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับมนุษยชาติไม่เคยจางหาย เราจะอินกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยากเลย
2.ด้วยการถ่ายทอดเนื้อเรื่องแบบ Christopher Nolan หนังจึงไม่เล่าเรื่องเป็นเส้นตรง แต่มีการเล่าย้อนระหว่างฉากที่กำลังโต้แย้งกันในศาล แล้วกลับมาเล่าเหตุการณ์ในอดีตของสองนักมายากล แล้ววกกลับมาที่ปัจจุบันอีกครั้ง เพื่อสรุปปิดจบเรื่อง คนที่ดูครั้งแรกอาจจะงงได้บ้าง หากตามเนื้อเรื่องไม่ทัน แต่ก็ถือว่าหนังไม่ได้ดูยากจนเกินไป
3.การแสดงของ Hugh Jackman ที่รับบทเป็น Robert Angier ปะทะกับ Christian Bale ที่รับบทเป็น Alfred Borden ถือว่าเป็นคู่เดือดที่เข้ากันได้ดี นอกจากนี้ Michael Caine ที่รับบทเป็น Cutter ก็ถือว่าเป็นนักแสดงสมทบที่ช่วยให้หนังสนุกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าขาดเขาไป บทบาทของ Robert Angier คงไร้รสชาติ
4.หนังได้เผยไต๋ บอกทริกมายากลบางอย่างให้คนดูได้ล่วงรู้ด้วย มันทำให้เราเข้าใจเลยว่าขอให้รู้เคล็ดลับของมายากลนั่นเถอะ เราจะรู้สึกทันทีเลยว่ามันแค่นี้เองเหรอ ? และนี่คือสิ่งที่นักมายากลอยากปกปิดวิธีการแสดงมาโดยตลอด
5.หนังให้ข้อคิดเรื่องของความไว้ใจ บางครั้งการฝากปลาย่างไว้กับแมวอาจเป็นเรื่องไม่ฉลาดนัก โดยเฉพาะเรื่องของผู้หญิง หนังมีความยาวพอเหมาะที่ 130 นาที บอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การรับชม และไม่เสียดายเวลาอย่างแน่นอนครับ