รัสปูติน นักบุญหรือคนบาป ในสมัยราชวงศ์โรมานอฟ
เชื่อว่าเมื่อมีคนพูดถึงราชงศ์โรมานอฟ คนมักจะนึกถึงชื่อรัสปูตินด้วยเสมอ รัสปูตินเป็นใครกันนั้น มาดูกันครับ โดย เกรกอรี่ รัสปูติน (Grigori Rasputin) นั้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในรัสเซีย เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักบุญปีศาจและเป็นผู้มีอิทธิพลในราชสำนักของซาร์ นิโคลัส ที่ 2 แห่งรัสเซีย แม้จะมีบทบาทที่ไม่เป็นทางการ แต่เขามีผลกระทบต่อการเมืองและเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซียอย่างมาก รัสปูตินเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1869 ในหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ Pokrovskoye ในไซบีเรีย
เขามีชื่อเสียงในท้องถิ่นว่าเป็นผู้มีพลังพิเศษและสามารถรักษาโรคได้ ในช่วงปี ค.ศ. 1905 เขาเดินทางมายังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัสเซียในขณะนั้น และเริ่มมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์โรมานอฟ
รัสปูตินกลายเป็นที่ปรึกษาและมีอิทธิพลต่อซาร์ นิโคลัส ที่ 2 และจักรพรรดินีอเล็กซานดรา เขามีบทบาทสำคัญในการรักษาเจ้าชายอเล็กซี ผู้เป็นบุตรของซาร์ ที่มีโรคฮีโมฟีเลีย รัสปูตินมีวิธีการรักษาที่แปลกประหลาดและถูกมองว่าเป็นปาฏิหาริย์ ความสามารถนี้ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดินีอเล็กซานดราและเป็นที่เคารพของราชวงศ์โรมานอฟ เขายังมีศรัทธาแรงกล้าในศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์และใช้ชีวิตแบบสมถะ ทำให้มีภาพลักษณ์ของนักบุญที่มีความสามารถทางจิตวิญญาณสูงส่ง
ในขณะเดียวกันรัสปูตินก็มีพฤติกรรมที่ถูกมองว่าไม่เหมาะสม เช่น การดื่มสุรา การมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงหลายคน และการแสดงท่าทางหยาบคาย การกระทำเหล่านี้ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นบุคคลที่ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของนักบุญ นอกจากนี้ รัสปูตินยังถูกกล่าวหาว่าใช้ความใกล้ชิดกับราชวงศ์ในการแทรกแซงการเมืองและการบริหารประเทศ ซึ่งเป็นที่เกลียดชังของขุนนางและประชาชนหลายคน เขาถูกมองว่าเป็นตัวการที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในราชสำนักและประเทศชาติ
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1916กลุ่มขุนนางรัสเซียที่ไม่พอใจกับอิทธิพลของรัสปูตินในราชสำนัก ได้วางแผนลอบสังหารเขา กลุ่มนี้นำโดยเจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ ตามเรื่องเล่าว่ารัสปูตินถูกเชิญไปยังบ้านของเจ้าชายยูซูปอฟ ที่นั่นเขาถูกนำไปยังห้องใต้ดินและได้รับการเสิร์ฟเค้กและไวน์ที่ถูกผสมด้วยไซยาไนด์ในปริมาณมาก แต่รัสปูตินกลับไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ
ทำให้กลุ่มลอบสังหารต้องตัดสินใจใช้วิธีการอื่น เมื่อสารพิษไม่ได้ผล เจ้าชายยูซูปอฟจึงใช้ปืนยิงรัสปูตินที่หน้าอก แต่รัสปูตินยังไม่ตายและพยายามหนีออกจากบ้าน เจ้าชายยูซูปอฟและกลุ่มของเขาจึงยิงรัสปูตินอีกหลายครั้ง ทั้งที่หลังและศีรษะ แต่รัสปูตินก็ยังคงมีชีวิตและพยายามหนีต่อไป ในที่สุด กลุ่มลอบสังหารได้จับตัวรัสปูตินมัดและโยนลงไปในแม่น้ำนีวา ร่างของเขาถูกพบในวันต่อมาและพบว่ามีน้ำในปอด ซึ่งบ่งบอกว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ขณะถูกโยนลงน้ำนั่นเอง . . . เรื่องการตายยากแบบ Die Hard นี้ก็ยากที่จะเชื่ออยู่เหมือนกัน