ขุนโจรที่รัก (ลำธารแสนหวาน)
นิยายเรื่อง ขุนโจรที่รัก (นามปากกา มาศอุไร) นิยายแนวโรมานซ์
วางจำหน่าย ในรูปแบบนิยายออนไลน์ (ebook)
แพลตฟอร์มที่วางจำหน่าย : Meb ธัญวลัย นายอินทร์ Ookbee
สามารถ เข้าอ่านเนื้อหา ฉบับเต็มได้ตาม แพลตฟอร์มนิยายชั้นนำทั่วไป อาทิเช่น...
( Dek-d , readAwrite , ธัญวลัย , Hongsamut , fictionlog )
------------------------------
ถ้าไม่อยากเสียเวลารออ่านนานๆเชิญโหลดซื้อ ebook มาอ่านกันตรงนี้เลยนะคะ
*ลิงค์สำหรับดาวน์โหลด Ebook ฉบับเต็ม ขุนโจรที่รัก ได้ที่ (Meb) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ* -
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjIyOTI1NyI7fQ
--------------------------------------------
*สามารถเข้าอ่านนิยาย ขุนโจรที่รัก ฉบับเต็มได้ที่ (ธัญวลัย) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ
- https://www.tunwalai.com/story/692684
----------------------------------------------
*แฟนเพจ: กนกรส* https://www.facebook.com/กนกรส-1742298989361370/
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1551249
--------------------------------------------------
(ลำธารแสนหวาน)
คำหวานควานมือสะเปะสะปะไปทั่วบนพื้นฟูกนอน ทั้งที่ตาทั้งสองข้างของคำหวานยังปิดสนิท ข้างกายคำหวานว่างเปล่า สัมผัสไม่ถูกร่างหนาของผัวโจรอย่างเคย เปลือกตาหนักอึ้งจึงค่อยๆขยุกขยิก
เอ...มากอยาหายไปไหนแต่เช้านะ?
นึกแปลกใจ...เพราะโดยปกติมากอยาต้องรอเธอตื่นถึงจะลุกออกจากที่นอนพร้อมกันนี่นา
หรือว่า...เขาจะหนีออกไปปล้น
จำได้ว่าหลายวันก่อนเขาเปรยกับคำหวานไว้เช่นนั้น คำหวานยังไม่ลืม ครั้นพอนึกถึงเรื่องออกปล้นของผู้เป็นผัว ร่างเปลือยเปล่าก็ผวาลุกขึ้นนั่งตาลีตาเหลือก ในโพรงอกชักเริ่มร้อนรน สีหน้าไม่สู้ดี เพราะคำหวานไม่ต้องการให้ผัวเอาชีวิตไปเสี่ยงในการออกปล้นใครอีกแล้วในชาตินี้...
เสียงนกกาด้านนอกเรือน ต่างแข่งกันส่งเสียงร้อง ทำให้คำหวานรู้ว่าเวลานี้คงเป็นเวลาสายกว่าทุกวัน
เจ้าตัวกวาดนัยน์ตากลมโตมองไปรอบห้อง เห็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม้จำพวกตู้และโต๊ะที่เพิ่งถูกขนเข้ามาวางประดับหลังจากคำหวานยอมตกปากรับคำเป็นเมียมากอยา...
เหนือด้านบนตู้ขนาดแค่เอว คือหน้าต่าง มันถูกดันเปิดอ้าทิ้งไว้ทุกบานคอยต้อนรับแสงจากรุ่งอรุณ กลิ่นดอกไม้ป่าลอยอวลเข้ามากระทบปลายจมูกโด่งรั้น คำหวานสูดกลิ่นหอมนั้นไว้ ทั้งที่ภายในใจกำลังกังวล กลัวว่ามากอยาจะหนีเธอออกไปปล้นจริงๆ
สาวเจ้าจึงส่งเสียงเรียกผัวหมาดๆ ลั่นห้อง
“พี่มากอยา...พี่อยู่ที่ไหนจ๊ะ”
สรรพนามแปรเปลี่ยนไปตามความรู้สึก ถึงตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นรักใคร่มากมาย ทว่าความสัมพันธ์ทางกายทุกค่ำคืน ผูกติดให้คำหวานยอมศิโรราบต่อผัวหนุ่ม ไม่นึกรังเกียจเขาเหมือนแต่ก่อนสักนิด
เสียงเรียกไม่ได้รับการขานตอบรับ พาทำเอาหัวใจคนเป็นเมียตกลงตาตุ่ม คำหวานจึงเร่งนุ่งผ้าปกปิดผิวเนื้อขาวผุดผาด เดินหน้ามุ่ยออกจากห้องนอน เป็นห้องที่มากอยาเพิ่งสั่งลูกน้องให้มากั้นเป็นสัดส่วน เพิ่มเติมจากแต่ก่อนซึ่งเป็นเพียงห้องเปิดโล่ง ที่ใครจะเดินเข้าเดินออกก็ได้ตามอำเภอใจ ด้วยตอนนั้นมากอยายังโสดไม่มีกิจกรรมพิศวาสให้อับอาย...
แต่ว่าตอนนี้...หัวหน้ากลุ่มโจรประกาศว่าตนนั้นมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ว บ้านหลังนี้จึงกลายเป็นเขตหวงห้าม แบ่งแยกอาณาเขตส่วนตัวชัดแจน
คำหวานเดินออกมาชะโงกหน้า สอดส่ายสายตามองหาผัวตรงระเบียงไม้ ลานกว้างหน้าเรือนว่างเปล่า ตรงแคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นหูกวาง ที่เคยเป็นที่นั่งประจำของมากอยาก็ไม่เห็นร่างกำยำของเขานั่งอยู่อย่างเคย
คำหวานชักรู้สึกว่ามันแปลกๆ หนักขึ้นทุกที...
“พี่มากอยา...พี่อยู่แถวนี้หรือเปล่า”
เมียขุนโจรนิ่วหน้าคอยตะแคงหูฟังคำขานรับ เพียงชั่วอึดใจเมื่อไม่มีเสียงขานรับจากผัว คำหวานเลยเดินลงบันไดมาด้านล่างด้วยอารมณ์ที่พวยพุ่งขึ้นเรื่อยๆ
คำหวานหันซ้ายหันขวาเผื่อจะเจอใครบ้างจะได้เรียกมาซักถามหาความจริง
หากกลับไม่พบใครเลย...อย่างกับหมู่บ้านร้าง
คำหวานจึงตัดสินใจเดินเลี้ยวมายังหลังเรือนไม้ บริเวณนี้เป็นทางเชื่อมไปจนถึงลำธาร สายน้ำนี้ไหลตรงมาจากภูเขาสูงสุดลูกหูลูกตาและยังเป็นสายน้ำเส้นหลักที่ไหลแยกเป็นเส้นเล็กเส้นน้อยอีกหลายสิบเส้นมุ่งสู่อีกหลายหมู่บ้านได้ใช้สอย
น้ำนั้นใสสะอาดจนแลเห็นตัวปลา มากอยาเคยพาเธอลงเล่นน้ำที่นี่ ก่อนจะลงเอยด้วยการถูกเขาจับปล้ำอยู่นานสองนาน...
สองเท้าเดินมาเรื่อยๆ แต่ภายในใจนั้นเดือดระอุ โมโหที่เขาใจดำคิดจะทิ้งเธอไว้ลำพังโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ แล้วไหนจะอารมณ์น้อยใจ เขาไม่สนใจคำขอร้องของเธอเลยสักนิด เธอไม่อยากให้เขาออกปล้นใครอีก แต่เขากลับไม่ฟังเธอ...
พอดีกับมะยอเดินฮัมเพลงสวนมาอีกฟาก คำหวานจึงส่งเสียงเรียก
“นี่นายมะยอ...”
เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงหยุดเท้าที่จะกำลังจะก้าวต่อทันที มะยอเงยหน้ามองเมียของนาย แววตานั้นไหวระริก หัวใจเต้นระส่ำ แอบเสียวสันหลังวาบแทนผู้เป็นนายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ตายห่า!มีนายมาได้ยังไงวะ!
สีหน้าของคำหวานเลยดีขึ้นมานิดหน่อยตอนเห็นลูกน้องคนสนิทของผัวยังอยู่ในหมู่บ้าน เพราะถ้าลูกน้องคนสนิทยังอยู่ แสดงว่ามากอยาไม่ได้กำลังออกปล้นใครอย่างที่เธอคิด และคำหวานไม่ถูกผัวทิ้ง ให้ต้องเฝ้าหมู่บ้านร้างตามลำพัง
อารมณ์โมโหปนน้อยใจหน่อยๆ จึงลดทอนลงมาเกินครึ่ง...
ด้านลูกน้องขุนโจรแอบทำสีหน้าคิดหนัก ใจนึกหวั่นต่อปัญหาของผู้เป็นนายที่กำลังต้องเผชิญ ด้านหนึ่งเป็นถึงลูกสาวผู้มีพระคุณ ส่วนอีกด้านคือเมีย ที่มะยอรู้ดีว่านายเหนือหัวได้มอบหัวใจรักให้อย่างหมดหน้าตักเลยในเวลานี้...
มะยอกลืนน้ำลายลงคอ กำลังคิดหาทางช่วยผู้เป็นนายไม่ให้ต้องรับศึกหนักทั้งสองด้าน ศึกแรกนั้นมากอยาคงหาทางหลบเลี่ยงได้อย่างเหมือนเคย อย่างมากก็แค่ถูกลวนลามนิดๆหน่อยๆ คงไม่ถึงกับสึกหรอสักเท่าไร
ส่วนศึกหลังนี่สิ ต้องเรียกว่าเป็นความฉิบหายดีๆนี่เอง
ก็ความน่ากลัวระดับแม่เสือ ขนาดมากอยาขึ้นชื่อลือชาเรื่องความโหดเหี้ยม สุดท้ายยังต้องยอมสยบให้กับสาวเจ้า ถ้าจะพูดกันตามตรง นับตั้งแต่ไปฉุดเขามาจากเรือน ไอ้มะยอก็ไม่ค่อยเห็นหน้าผู้เป็นนายออกจากเรือนมาไกลเกินหลังลำธาร วันๆเอาแต่หาเรื่องขลุกตัวเองอยู่กับเมีย...
ยิ่งขืนถ้ามะยอปล่อยให้เมียนายได้เห็นภาพความสนิทสนมของคนคู่นั้นแล้วละก็ เมียนายคงได้อาละวาดจนเอื้องฟ้าวิ่งตูดแน่บหนีกลับหมู่บ้านไปฟ้องพ่อของเจ้าหล่อนเป็นแน่แท้
แล้วทีนี้ความสัมพันธ์ระหว่างยาโพกับมากอยาคงได้เกิดปัญหา รายนั้นยิ่งรักลูกสาวไม่ลืมหูลืมตา ชนิดเอื้องฟ้าชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้เสียด้วยสิ...
มะยอนิ่วหน้าขนแขนลุกซู่ เพราะมะยอไม่อยากให้มากอยาสร้างศัตรูเพิ่ม ยิ่งเป็นคนกันเอง มะยอยิ่งไม่อยากให้เกิดเรื่องขัดใจกัน ไม่อย่างนั้นคนในหมู่บ้านสีดอกคงต้องเดือดร้อนตามกันเป็นแถบ...
ถ้าจะย้อนกลับไปช่วงมากอยาเพิ่งขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มโจรใหม่ๆ ช่วงเวลานั้นมากอยาต้องการพิสูจน์ฝีมือของตัวเองให้ประจักษ์แก่สายตาลูกน้องทุกคน
ดังนั้นในค่ำคืนอันมืดมิด มากอยาจึงระดมลูกน้องออกปล้นครั้งใหญ่
ทว่าระหว่างทางดันเกิดการปะทะของกลุ่มดักซุ่ม เป็นกลุ่มแอบแฝงของนายพรานร่วมมือกับพวกทหารในเมืองใหญ่
วินาทีเป็นวินาทีตายนั้น เกิดมีหนึ่งในลูกน้องเพี้ยงพล้ำพลาดท่าจะถูกอีกฝ่ายยิงหัวเอา มากอยาที่อยู่ใกล้จึงกระโจนเข้าหา ผลักร่างของลูกน้องคนดังกล่าวกระเด็นหลบมาอีกทาง เม็ดกระสุนจึงเปลี่ยนวิถีถูกเข้ากลางอกของมากอยา ร่างหนาถึงกับทรุดกองกับพื้นหากยังฝืนใจยกปืนเล็งยิงถูกไอ้คนดักซุ่มตายคาที่...
ตอนนั้นได้ยาโพซึ่งเป็นหมอเก่งด้านยาสมุนไพรประจำหมู่บ้านวะโร้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านระหว่างทางจะเคลื่อนย้ายคนเจ็บกลับเข้าหมู่บ้านสีดอก หมอยาคนนี้ยื่นมือเข้าช่วยรักษามากอยาเอาไว้ได้ทันเวลา จนเมื่อมากอยารอดตาย ขุนโจรหนุ่มจึงถือเอาว่ายาโพคือผู้มีพระคุณ โดยขุนโจรหนุ่มให้ความเคารพนับถือหมอยา ยกย่องให้เป็นเสมือนญาติแท้ๆคนหนึ่งก็ไม่ปาน
ยาโพแกมีลูกสาว ชื่อว่าเอื้องฟ้า สวยสมกับชื่อนั่นแหละ อายุอ่อนกว่ามากอยาราวห้าหกปี เป็นสาวสวยนิสัยอ่อนหวานแต่ก็มีความมั่นใจในตัวเองสูง สาวเจ้าดันเกิดหลงรักนายของมะยอชนิดหัวปักหัวปำ ตามตื๊อมาได้สักระยะ ก่อนมากอยาจะเจอกับนายหญิงตรงหน้ามะยอนี่ ถึงขั้นวางแผนขึ้นปล้นบ้านเขา ฉุดเขามาเป็นเมียอย่างหน้าด้านๆ
แล้วเมื่อกี้มันก็เห็นเอื้องฟ้า ลากแขนเจ้านายเดินตรงลิ่วไปยังลำธารเสียด้วย สังเกตจากสายตา เหมือนจะลากไปปลุกปล้ำอย่างไรอย่างนั้น...
“มะยอ...ไม่ได้ยินที่ฉันเรียกหรือไง?” คำหวานเรียกซ้ำพร้อมกับกวักมือยิกๆ มะยอกำลังหวนคิดเรื่องเก่าเลยสะดุ้ง รีบขานรับคำทันที
“คร้าบ...มะยอได้ยินแล้วครับนายหญิง”
มะยอขานรับเสียงสูงลิบ ตามนิสัยกะล่อนปากไว คำหวานไม่นึกถือสาเพราะในบรรดาลูกน้องของผัว นายคนนี้ดูหน้าตาท่าทางจะเป็นมิตรกับเธอมากที่สุดแล้ว
“ได้ยินแล้วก็มานี่หน่อยสิ...”
ลูกน้องขุนโจรรีบเดินก้มหน้างุดๆ ลากขามาหาเมียนายด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ คำหวานหรี่แววตามองลูกน้องของผัว สีหน้าดูมีพิรุธชัดเจน แสดงว่ากลุ่มโจรตัวแสบพวกนี้ต้องมีเรื่องปกปิดเธออยู่...
แล้วคำหวานก็ไม่ผิดหวังกับความคิดของตัวเอง...
“มะยอไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วยทั้งนั้นนะครับ นายหญิงอย่ามาถามอะไรมะยอเลย มะยอไม่รู้เรื่อง...” คนร้อนตัวรีบบอกปัด แววตาดูหลุกหลิก ล่อกแล่ก ทำเอาคำหวานชวนให้สงสัยหนักขึ้นกว่าเดิม
แต่คำหวานเป็นคนฉลาด จึงไม่คิดแหวกหญ้าให้งูตื่น
“อืม...นายไปเถอะ แค่เรียกมาหาเฉยๆน่ะ ไม่คิดจะถามอะไรสักหน่อย...” คำหวานรับคำง่ายดาย ปกปิดสีหน้าไว้ด้วยรอยยิ้มละไม แล้วเดินผ่านหน้ามะยอมายังทางที่เห็นชายหนุ่มเดินจากมา
พ้นมาจากลูกน้องคนโปรดของมากอยา สีหน้าของคำหวานก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที...
------------------------------
เสียงเดินย่ำเท้าลงบนกองใบไม้แห้งพาทำให้มากอยาที่หูดีสะดุ้งโหยง แผ่นหลังเขาหนาวเยือกคล้ายกับกำลังถูกจับจ้องด้วยดวงตาใครสักคน
จังหวะการเดินคล้ายคลึงกับเสียงลงน้ำหนักของคำหวาน
ขนาดเสียงเท้าเขายังจำได้ขึ้นใจ ต่อให้ปฏิเสธไอ้ลูกน้องปากสว่างทั้งหลาย...เขาไม่ใช่คนหลงเมียขนาดนั้นสักหน่อย หากการกระทำกลับสวนทางกับคำพูดโดยสิ้นเชิง...
มากอยานิ่วหน้า นึกขวางกับความรู้สึกตัวเอง แต่ก็เอาเถอะ ก็นั่นเมียของเขาทั้งคน จำได้ก็ไม่เห็นจะแปลกนี่นา ...
แต่ว่าคำหวานตื่นนอนแล้วหรือนี่ มากอยาเงยหน้ามองดวงตะวันบนขอบฟ้า ดวงตาคมกล้าหยี่ลงตอนสู้แสง สายโด่งขนาดนี้ คำหวานคงจะหิวข้าว...
ใบหน้าคมเข้มเตรียมจะหันกลับไปมองยังเสียงเท้าเดิน ทันใดนั้นหญิงสาวที่เขาจำต้องฝืนใจเดินตามมาถึงลำธารก็เข้าประชิดตัว เจ้าหล่อนโผเข้ากอดเอวสอบเข้าไว้แน่น เอนใบหน้าเปียกชื้นซบลงบนต้นแขนกำยำที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม
เจ้าตัวเพิ่มเสียงสะอึกสะอื้นให้ดังกว่าเก่า ทำราวกับมีญาติพี่น้องสักคนตายจาก มากอยาทำหน้าเซ็งสุดชีวิต แต่จะให้ผลักไสสาวเจ้าอย่างที่ใจคิดก็ไม่ได้เสียด้วย ยังไงซะเอื้องฟ้าก็เป็นลูกสาวของผู้มีพระคุณของตัวเอง
แต่ใจยังแอบหวั่นวิตก กลัวเหลือเกินว่าภาพนี้ จะไปกระแทกตาของเมียตัวเองเข้า จะพานทำเอาคำหวานเข้าใจเขาผิดเสียเปล่าๆ ยิ่งตอนนี้เขากับเมียอยู่ในช่วงหวานชื่น เขาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว
“ปล่อยพี่เถอะ เอื้องฟ้า จะพูดอีกกี่ครั้ง พี่ก็ยังยืนยันคำเดิมนั่นแหละ...ตอนนี้พี่มีเมียเป็นตัวเป็นตน และกำลังจะเข้าพิธีไหว้ผีป่าเร็วๆนี้ด้วย”
“ฮือ...ไม่จริง...พี่โกหก ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าพี่มากอยาจะกล้าไปคว้าอีหน้าไหนมาเป็นเมีย ทั้งที่พี่ก็มีฉันอยู่ทั้งคน” เอื้องฟ้าส่ายศีรษะ เกลือกกลิ้งใบหน้ามอมแมมจนแขนของขุนโจรเปียกชุ่มเป็นด่างดวง
“พี่มองเอ็งเป็นเพียงน้องสาว ไม่เคยคิดเกินเลยด้วยสักหน”
“แต่ฉันไม่ใช่น้องพี่...”
“พี่รักเอ็งแบบชู้สาวไม่ลงหลอกนะเอื้องฟ้า”
มากอยายังคงพยายามอธิบายเพิ่มเติม ยืนยันในความรู้สึกของตัวเอง สำหรับเขาตรงจุดนี้มันชัดเจนมาตั้งแต่เจอหน้าเอื้องฟ้าครั้งแรก
ในเมื่อความรู้สึกของเขาไม่เคยวูบวาบกับเอื้องฟ้าตามประสาชายหนุ่มกับหญิงสาวสักครั้ง
“ทำไมพี่มากอยาทำร้ายจิตใจฉันได้ลงคอ ทั้งที่พี่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าฉันรักพี่เพียงคนเดียวมาตั้งนาน รักพี่คนเดียวมาตลอดด้วย...”
แล้วหล่อนก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่นป่า ยังคงคร่ำครวญกับประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา ไม่ยอมรับฟังเหตุและผลท่าเดียว
“ก็เพราะพี่รู้ไง ถึงได้ไม่เคยยอมปล่อยให้เรื่องอย่างว่ามันเกิดขึ้น พี่ไม่ต้องการทำร้ายเอ็งให้ต้องมาเสียใจภายหลัง”
“แต่ฉันอยากให้มันเกิดขึ้นนี่ ฉันโตเป็นสาวเต็มตัวมาตั้งหลายปีแล้วนะ พี่ไม่สังเกตเห็นบ้างหรือไง? ...”
เอื้องฟ้ากระเง้ากระงอด จงใจเบียดหน้าอกทรงโตถูไถไปตามลำแขนกำยำมีมัดกล้ามน่ามอง เคลื่อนไหวฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามสีข้างชายหนุ่ม หวังให้เขาเกิดอารมณ์รักใคร่
เธอยอมเป็นผู้หญิงหน้าด้านเพราะหัวใจมันไม่ยอมสูญเสียชายในฝัน ไม่ยอมให้อีหน้าไหนมันมาฉกพี่มากอยาจากอกเอื้องฟ้าเอาไปครอบครองเพียงลำพัง ต่อให้ต้องใช้เล่ห์กลในภายภาคหน้า เอื้องฟ้าก็จะทำ
ก็เพราะเอื้องฟ้าจับจองพี่มากอยามาตั้งหลายปี ประกาศบอกคนทั้งหมู่บ้านด้วยซ้ำ...เอื้องฟ้าจะแต่งงานเป็นเมียของพี่มากอยาแต่เพียงผู้เดียว ไม่คิดจะเอาใครมาเป็นผัว แต่แล้วจู่ๆพี่มากอยากลับไปคว้าเอาอีผู้หญิงบ้านราหูยกย่องมันเป็นเมียออกหน้าออกตา...แล้วจะให้เอื้องฟ้าทำยังไง?
นอกจากจะต้องแย่งคืนกลับมาสถานเดียว...
เอื้องฟ้าขบกลีบปากก่อนจะแหวกหน้าอกทรงมะพร้าว โชว์หราต่อหน้าขุนโจรหนุ่ม “นี่เห็นไหม? ฉันมีตรงไหนที่ไม่เหมือนอีผู้หญิงคนนั้นบ้าง”
“เฮ้ย!เอ็งจะบ้าไปกันใหญ่ แล้วทีหลังอย่ามาเรียกเมียของพี่ว่าอี...”
มากอยาเตือนเสียงเข้มดุ เบือนสายตาหลบสิ่งอะร้าอร่ามตรงหน้า สองมือใหญ่จัดการดันร่างของเอื้องฟ้าถอยห่างราวกับมากอยากำลังต้องของร้อน หากก็ยากเย็นเหลือเกิน
“ก็ฉันจะเรียก พี่จะทำไม...หรือพี่กล้าตีฉันหรือ? ดี...ฉันจะได้ฟ้องพ่อ ว่าพี่ลวนลามฉัน” เอื้องฟ้าสูดน้ำมูก ออกแรงฉีกคอเสื้อให้กว้างกว่าเดิม เบียดร่างนุ่มเข้าหา เคลื่อนใบหน้าเปื้อนน้ำตามายังด้านหน้า กดปลายจมูกเล็กฝั่งลึกเข้าหาแผงอก สูดกลิ่นกายหนุ่มเข้าไว้เต็มปอด
“พี่มากอยาตัวห้อม...หอม...”
ชมพร้อมเลื่อนฝ่ามือน้อยลงต่ำ หมายจะจับกุมดุ้นโตมาเป็นของประกันให้เขายอมโอนอ่อนผ่อนตาม ดีที่มากอยาไหวตัวทัน เขารีบคว้ามือสาวเจ้าไว้หมับ บีบกระชับไว้แน่น โดยไม่ยอมให้เอื้องฟ้าขยับข้อมือลงต่ำกว่านั้น
“เอ็งอย่าหัวดื้อนักเลย? ถ้าพี่หมดความอดทนเมื่อไร เอ็งจะต้องเสียใจภายหลัง”
“ตอนนี้ฉันก็เสียใจจะตายอยู่แล้ว พี่ใจร้าย พี่ใจดำเหลือเกิน” เอื้องฟ้าตัดพ้อเสียงเครือ
“หรือต่อให้เอ็งลวนลามพี่มากกว่านี้ พี่ก็ไม่มีวันยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นแน่ๆ พี่ยอมเป็นคนเนรคุณ ดีกว่าได้ขึ้นชื่อเป็นผู้ชายหลายใจ”
มากอยายืนยันเสียงหนักแน่น สีหน้าขุ่นใจกับการกระทำของลูกสาวผู้มีพระคุณ “พ่อเอ็งก็คงไม่ชอบใจนัก ที่เห็นเอ็งทำตัวง่ายดายเช่นนี้”
“พ่ออยากได้พี่เป็นลูกเขย ต่อให้ฉันทำยิ่งกว่านี้พ่อก็ไม่ด่าฉันสักคำหรอก มีแต่จะยิ่งชอบใจน่ะสิไม่ว่า...”
ถ้างั้นก็...พอกันทั้งพ่อทั้งลูก
มากอยาคิดพร้อมกับถอนหายใจเหนื่อยหน่าย เขาเบี่ยงสายตาคมมองไปยังราวป่าซึ่งเป็นเขตทางเดินเชื่อมต่อมาจนถึงบริเวณกลางลำธาร ตอนนี้ที่มาของเสียงเดินนั้นเงียบกริบ แต่กลับแทนที่ด้วยร่างกลมกลึงยืนจังก้าท่าทางราวกับแม่เสือร้ายเตรียมกระโจนขย้ำเหยื่อ
ขุนโจรใจกล้าได้แต่เบิกตาโต หัวใจเต้นกระชั้นถี่รัว
กูว่าแล้วเชียว!ว่าต้องเกิดเรื่องซวย มากอยานึกในใจ
แล้วรีบปล่อยมือออกจากร่างอรชรของเอื้องฟ้า ก่อนจะยกทั้งสองข้างขึ้นสูงอย่างยอมศิโรราบแต่โดยดี ปล่อยให้ตัวเองถูกกอดแต่เพียงฝ่ายเดียว
เอื้องฟ้าเองยังรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ เจ้าตัวจึงเอียงตัวผินใบหน้ามอมแมมมองยังจุดปะทะสายตาเดียวกันกับชายหนุ่ม ทำให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนใบหน้าบิดเบี้ยวอยู่ตรงนั้น
คำหวานยืนเท้าสะเอว สีหน้าเจ้าตัวคล้ายกำลังกินยาขมปี๋ นัยน์ตากลมโตแดงระเรื่อ กระบอกตาร้อนผ่าว เจ้าตัวกำลังพยายามไม่ให้หยดน้ำตาเอ่อท่วม ไม่อยากทำตัวอ่อนแอ แต่ก็รู้สึกว่าหน้าอกด้านซ้ายมันหน่วงเจ็บชอบกล
ภาพชายหญิงเบื้องหน้าที่กำลังยืนกอดกันกลมดิก ตรงคอเสื้อของฝ่ายหญิงเปิดกว้าง มันช่างสั่นคลอนความรู้สึกของคำหวานได้ชะงักงันเหลือเกิน
เจ้าตัวทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทว่าอารมณ์น้อยใจกลับตีรวนชนะทุกความรู้สึก...
คำหวานเชิดใบหน้าขึ้นสูง ริมฝีปากอิ่มธรรมชาติคลี่ออกเป็นเส้นตรง ระงับความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลไว้ด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว พลางสะบัดหน้าหนีคนทั้งคู่ เตรียมเดินย้อนกลับเข้าเรือน แล้วปล่อยให้คนทั้งคู่สมสู่กันตามสะดวก
“คำหวาน...” มากอยารีบตะโกนเรียกเสียงร้อนรน มือไม้เขาชักอ่อนแปลกๆ ความรู้สึกเขาไม่ดีเอาเสียเลย
“เอื้องฟ้า...เอ็งปล่อยพี่ก่อน” สั่งพร้อมดันร่างนุ่มให้ออกห่าง แต่เอื้องคำก็เหนียวยังกับปลิงตัวเมีย เกาะเขาไม่ยอมปล่อย
“นั่นใครน่ะพี่? ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลย หรือว่าจะเป็นเมียของพวกพี่ๆในหมู่บ้านสีดอก”
เอื้องฟ้าขมวดคิ้วถาม สองมือยังเกาะร่างหนาไว้ไม่ยอมปล่อย เคลียร์ตรงนี้สำเร็จเมื่อไร ต่อไปเธอกะจะไปอาละวาดใส่อีสาวบ้านราหูให้มันกระเจิงหนีออกจากหมู่บ้านโจรแทบไม่ทันเป็นรายต่อไป มีอย่างที่ไหนมาให้ท่าผู้ชายของเอื้องฟ้า ทำให้พี่มากอยาตาบอด ยอมรับมันเป็นเมียตบเมียแต่งแล้วมาเฉดหัวเอื้องฟ้าทิ้ง
สาวเจ้าจอมวางแผนการมีอันต้องอ้าปากเหวอ รีบหันขวับมองตรงไปยังจุดที่ผู้หญิงคนเมื่อกี้ยืนอยู่ ตอนได้ยินคำเฉลย...
“นั่นคำหวาน...เมียของพี่เอง” มากอยาเฉลย ออกแรงดันร่างปลิงให้ถอยห่างแต่เหมือนยิ่งดันเจ้าหล่อนก็ยิ่งเกาะเขาแน่นหนาเข้าไปอีก
“อะไรนะ!”
สายตาเอื้องฟ้ามีแต่ริ้วรอยของความอิจฉา ให้ตายยังไงเธอจะไม่ยอมปล่อยให้มากอยาไปหาอีนั่นเพื่ออธิบายหรือแก้ตัวอะไรทั้งนั้น...ปล่อยให้เข้าใจผิดกันแบบนี้แหละดีแล้ว มันจะได้ง่ายต่อการจัดการขั้นเด็ดขาด
เอื้องฟ้าเกลียดมัน เอื้องฟ้าจะทำให้มันเลิกกับผู้ชายที่เอื้องฟ้ารักให้จงได้ เอื้องฟ้าไม่ยอมหรอก เอื้องฟ้าต้องได้พี่มากอยาเป็นผัว...
ส่วนคนเป็นผัวก็เอาแต่ตะโกนเรียก ฝ่ายนั้นเปิดตูดแน่บไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ
“เดี๋ยวคำหวาน อย่าเพิ่งไป...รอพี่ก่อน โธ่!พี่อธิบายให้ฟังได้นะ อย่าเพิ่งเข้าใจพี่ผิดสิ”
มากอยาโก่งคอตะโกนเรียกซ้ำอีกหลายหน คำหวานก็ไม่ยอมหันกลับมา เจ้าตัวยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินหนีไปพร้อมกับพยายามสกัดกั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาให้เห็น
ก็แค่ผัวเฮ็งซวยคนเดียว จะไปเสียน้ำตาให้มันทำไม?
คำหวานคิดในใจ...ต่อให้ตัวเองต้องรู้สึกเจ็บปวดหรือเกิดอารมณ์คับแค้นใจหนักหนาสาหัสสักแค่ไหน ทว่าลูกสาวของเศรษฐีหม่านคนนี้ จะไม่มีวันยอมลดตัวลงไปตบตีแย่งชิงผู้ชายกับใครทั้งนั้น
ที่ผ่านมาชีวิตครอบครัวระหว่างพ่อกับแม่คำหวาน ก็คอยเอาแต่ตามราวีตบตีหึงหวงกันมาโดยตลอด มันจึงเป็นภาพจำซ้ำซาก จนกลายเป็นความรู้สึกชินชาในหัวใจของคนเป็นลูก
ภาพแม่ที่คอยเอาแต่ตามอาละวาดตบตีผู้หญิงของพ่อไม่เว้นแต่ละวัน จวบจนจนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย แม่ของคำหวานท่านยังหาความสุขแท้จริงไม่เจอ อารมณ์หึงหวงมีแต่สร้างความทุกข์เวทนา คำหวานเลยไม่อยากลงเอยเหมือนอย่างแม่...คำหวานอยากมีความสุข คำหวานไม่อยากเป็นทุกข์เพราะจิตใจโลเลของผู้ชาย...
เรื่องของแม่ที่ชอบไปเอะอะอาละวาดผัวกับผู้หญิงของผัว จึงกลายเป็นเรื่องที่พวกชาวบ้านราหูเอามาเล่าในวงสำหรับกันอย่างตลกขบขัน พวกคนเหล่านั้นต่อหน้าก็พูดอย่าง พอลับหลังก็พูดจาอีกอย่าง คำหวานจึงไม่คิดพาตัวเองเข้าไปสุงสิงให้เสียความรู้สึก บางทีคำหวานอดปากไม่ไหว ก็มีเผลอตัวด่ากลับไปบ้างทั้งหัวหงอกหัวดำ คำหวานเลยถูกเกลียดมากกว่าถูกรักเหมือนกับคำแก้ว...
-----------------------
ลำธารใสเส้นนี้เชื่อมโยงมาจนถึงหมู่บ้านราหู คำแก้วดึงผ้าคลุมศีรษะลง เปิดเผยดวงหน้าแฉล้มสวยใส เธอส่งสัญญาณเสียงนกร้อง ไม่นานร่างหนาของลูกสมุนขุนโจรก็กระโจนออกมาจากจุดซ่อนตัว
“กว่าจะออกมาพบข้าได้นะเอ็ง ปล่อยให้ข้ารอตั้งนานสองนาน...”
สีสมานถุยเปลือกไม้ที่เคี้ยวแก้เซ็งทิ้ง รวบเอาเอวบางเข้ามาสวมกอดอย่างหื่นกระหาย ลมหายใจเหม็นหืนพาทำเอาคำแก้วต้องเบือนใบหน้าหนี
สองมือยกดันใบหน้าคมเข้มออกห่าง ภายในใจนั้นนึกรังเกียจเหลือจะทน หากเป็นเพราะไอ้โจรหน้าหม้อนี่ยังสร้างประโยชน์ให้เธอ จึงจำต้องฝืนทนยอมให้มันเอามาหลายครั้ง
“ใจเย็นก่อนสิพี่ ไหนล่ะข่าวที่พี่ว่าจะบอก” คำแก้วทวงในสิ่งที่ตกลงกันเอาไว้ สีสมานดึงเอาแผ่นกระดาษเล็กออกมาโชว์ตรงหน้า
คำแก้วรีบคว้าจะหยิบกระดาษแผ่นนั้น แต่สีสมานกลับดึงหลบยังไม่ยอมมอบให้ง่ายๆ
ลูกสมุนโจรเก่งฉกาจจุ๊ปาก “เอากันก่อนสิ เดี๋ยวข้าจะยกให้หลังจากข้าหายเสี้ยน...เพราะตอนนี้ข้าอยากมากเหลือเกิน คำแก้วเอ็งต้องช่วยข้าก่อน”
สีสมานขอกันแบบโต้งๆ ตอนนี้มือทั้งทั้งสองข้างของสีสมานป้วนเปี้ยนอยู่ไม่เป็นสุข เอาแต่คอยบีบเคล้น ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างงดงาม
คำแก้วนิ่วหน้า หงุดหงิดที่ถูกเล่นแง่ใส่ โมโหด้วยที่ตนเองนั้นกลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หากก็ต้องยินยอมผ่อนตาม เพราะคำแก้วต้องการรู้ข่าวคราว ความเคลื่อนไหวของผู้เป็นพี่สาวในหมู่บ้านของกลุ่มโจร
เปล่า...คำแก้วไม่ได้นึกห่วงใยหรือหวังดีอะไรนักหนาหรอก เพียงแต่ถ้าอีคำหวานมันอยู่ดีมีความสุข เธอจะได้หาหนทางเข้าไปทำลายความสุขของมันซะต่างหาก
“ไปตรงนู้นกันดีกว่า ข้าอยากลองเอาเอ็งในน้ำดู ว่ามันจะเสียวสักแค่ไหนตอนข้าตะบันบั้นท้ายใส่ในร่องสาวของเอ็ง” แล้วร่างงามก็ถูกช้อนขึ้นจนลอยเหนือพื้น “อุ๊ย!” คำแก้วอุทานตกใจ เพราะมัวแต่ใช้ความคิดเพลินๆ
ด้วยกิริยากักขฬะของไอ้โจรจอมหื่น คำแก้วกลัวพลัดตกเลยรีบเบียดกายเข้าหาพร้อมโอบสองแขนเกลี้ยงเกลาไปรอบลำคอแข็งแกร่ง
สีสมานอุ้มคำแก้วเดินมาจนถึงริมลำธาร น้ำใสสะอาดตา สามารถมองเห็นฝูงปลาได้อย่างสบาย เขาวางร่างอวบอิ่มลงกับพื้นดินเหนียว จัดการดึงรั้งอาภรณ์ของสาวเจ้าอย่างคนใจร้อน คำหวานนึกหวั่นใจหากเพราะของเคยค้าม้าเคยขี่กันมาหลายครั้ง เธอจึงรู้วิธีรับมือกับไอ้โจรนิสัยหื่นกาม และเพียงไม่นานอาภรณ์ของทั้งสอง ก็ถูกปลดทิ้งในเวลาอันรวดเร็ว
ตอนนี้คำแก้วยืนตัวเปลือยเปล่า อวดความเป็นสาวประจักษ์แก่สายตาคนมอง ผิวแก้มร้อนผ่าว ผิวพรรณนั้นกลายเป็นสีแดงระเรื่อคล้ายสีมะเขือเทศสุก เพราะให้ถึงอย่างไรคำแก้วก็ยังมีความเขินอายติดตัว ถูกมองด้วยสายตาหยาบโลนไม่ปกปิดถึงอารมณ์ปรารถนา เป็นใครก็ต้องรู้สึกประหม่า
สีสมานดวงตาลุกวาว เขาแลบลิ้นยาวเลียรอบปากแห้งแตกเป็นขุย
กึ่งกลางล่างปวดหนึบ ตอนนี้มันตั้งชี้โด่เด่เรียกสายตากลมโตให้จับจ้อง
โอ้โฮ!ดูเหมือนขนาดจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่านะ...
คำแก้วกลืนน้ำลาย รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมาโดยทันที
แม้นใบหน้าของสีสมานจะไม่หล่อเหลาชวนมอง อีกทั้งยังปรกคุมด้วยหนวดเคราน่าขยะแขยง ดีที่ยังมีอาวุธประจำกายใหญ่โตมาทดแทนในส่วนอื่น เลยพอทนฝืนหลับหูหลับตาสร้างความสุขให้ผุดในใจเธอได้บ้าง
ดังนั้นคำแก้วจึงเป็นฝ่ายเคลื่อนย้ายร่างกลมกลึงเข้าหาโจรหนุ่ม
เจ้าตัวนั่งคุกเข่า เอื้อมมือบางสัมผัสพวงสวรรค์ไว้อย่างโหยหา เลื่อนฝ่ามือนุ่มขึ้นลงบนเปลือกหนังขรุขระ สีสมานครางเสียงแหบโหยเกร็งสั่นสะท้าน ยิ่งสาวเจ้าขยับปลายนิ้วด้วยจังหวะเนิบนาบ แต่ก็เน้นหนักจนปลายหัวหยักปริ่มด้วยน้ำเมือกสวาทสีสมานยิ่งรู้สึกรวดร้าวไปทั่วทั้งกาย
กลีบปากอิ่มเผยอเปิดกว้างแล้วครอบเข้าหาดุ้นเนื้อเป็นๆ
อ๊อก อ๊อก อ๊อก
เสียงดูดเลียดุ้นเนื้อชวนพาทำให้อารมณ์เตลิดไปไกลสุดกู่ สีสมานหรี่ตามองด้วยความเสียวซ่าน การกระทำของคำแก้วช่างเร้าอารมณ์เขาอย่างที่สุด ได้หญิงสาวหัวไวมาร่วมรักมักก็ดีไปอย่าง มันสร้างความรัญจวนให้เขาแทบบ้าคลั่งได้ทุกครั้งที่เอากัน ครั้นพอถูกหลอกใช้งาน สีสมานเพียงแค่แสร้งทำเป็นลู่ตามลม ทั้งที่จริงแล้วนั้น ตัวของสีสมานเองก็รู้เท่าทันอีนางคนสวยใจหยาบทุกครั้งนั่นแหละ...
ฝ่ามือใหญ่รวบเส้นผมนุ่มมากำไว้มั่น แล้วเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะโยกกระเด้าบั้นท้ายสวมสอดเสียเอง พอถูกดุ้นเท่าข้อมือกระทุ้งถูกคอหอย คำแก้วก็ถึงกับน้ำหูน้ำตาไหลปริ่ม ดีที่ตัวเองยังพอรู้จักวิธีผ่อนปรน เลยไม่เกิดความทรมานมาก จนกระทั่งสีสมานเกือบพาตัวเองแตะขอบสวรรค์ได้สำเร็จ...
แต่ยังก่อน...เขายังไม่อยากให้น้ำแตกตอนนี้หรอก อย่างน้อยๆคงต้องรั้งเวลาไว้เล่นสนุกกับอีนี่สักครึ่งชั่วโมง
โจรหนุ่มจึงรีบดึงไหล่มนขึ้นมาด้านบน ประกบปิดปากที่เลอะด้วยน้ำลายผสมกับน้ำรัก พลอยทำให้เขาได้ลิ้มรสชาติของตัวเองด้วย
สีสมานจูบปากคำแก้วอยู่สักพักเขาก็จัดการขยุ้มฝ่ามือเข้าหาเนินสาว จัดการสอดเสียดปลายนิ้วมือเข้าไปทักทายความอ่อนนุ่ม เลื่อนใบหน้ารุงรังคลอเคลียผ่านลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดสาละวนกับนมเต้างาม ดูดเลียทั้งสองฐานนุ่มสลับสับเปลี่ยนทั้งซ้ายและขวา คำแก้วซ่านสยิวจนต้องผวากอดรัดร่างบึกบึนแล้วปล่อยเสียงร้องครวญคราง “อ๊า...อืม...”
ร่างงามนั้นอ่อนระทวยแทบยืนไม่ไหว สีสมานต้องช่วยโอบเอวคอดกิ่วไม่ให้คำแก้วทรุดลงกับพื้น ก่อนตั้งหน้าตั้งตากัดกินนมสีขาวลออด้วยอารมณ์ตะกละตะกลาม
“อะ...อะ...อะ...อืม...”
ส่วนด้านล่างสีสมานใช้นิ้วทรมานคำแก้วอยู่สักพัก ก็ชักออก เพราะรับรู้ถึงการบีบรัดภายในโพรงอันคับแคบ
สีสมานดันร่างงามออกห่าง พร้อมกันนั้นเขาก็ยืดตัวตรง นัยน์ตาดำมืดมนกวาดมองเรือนร่างอวบอิ่มด้วยความรู้สึกชื่นชอบ
“เอ็งนี่มันสวยไปทุกส่วนจริงๆนะ อีคำแก้ว มาเถอะ...ข้าอยากเข้าไปข้างในตัวเอ็งเต็มแก่แล้วตอนนี้”
สีสมานรีบฉุดข้อมือเล็กที่สองขายังอ่อนปวกเปียกลากพาลงมายังลำธาร น้ำในช่วงเวลานี้ไม่ถึงกับเย็นจัดนักทว่าคำแก้วก็ยังมีสะดุ้ง เรือนร่างเธอค่อยๆสัมผัสกับสายน้ำจนกระทั่งเลยมาถึงเอว
สีสมานกวาดตามองหามุมที่พอจะร่วมรักได้อย่างไม่ยากลำบาก แล้วดันให้คำแก้วเข้าไปยืนอยู่ตรงนั้น...
----------------------------
กว่ามากอยาจะสลัดลูกสาวของหมอยาโพได้สำเร็จ เล่นเอาเขาเกือบสติหลุดหมดการควบคุมอยู่รอมร่อ เอื้องฟ้าหัวดื้อเหลือเกิน ไม่เพียงจะมุ่งมั่นปลุกปล้ำเขาทำผัวท่าเดียว เจ้าหล่อนยังปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับความจริงที่ว่าเขามีเมียเป็นตัวเป็นตน และคำหวานพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยมีไว้เพียงเพื่อระบายกำหนัด
เขาไม่อยากกลายเป็นคนเนรคุณคน ไม่อยากผิดใจกับคนที่เคยช่วยชีวิต ถึงแม้นจิตใจเขาจะโหดเหี้ยมสักแค่ไหน ส่วนตัวแล้วนั้นมากอยาถือเรื่องการตอบแทนน้ำบุญคุณเป็นเรื่องสำคัญเท่าชีวิต
ตอนนี้เขาสั่งลูกน้องคนสนิทให้เฝ้าเอื้องฟ้าไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง สั่งห้ามหญิงสาวเดินเพ่นพ่าน สั่งลูกน้องให้จับตาดูไว้ทุกฝีก้าว กะเอาไว้ว่าพอถึงรุ่งเช้าเมื่อไร เขาจะให้คนพาตัวเจ้าหล่อนส่งกลับหมู่บ้านทันที
แล้วถ้าเขาจัดการเคลียร์ปัญหากับคำหวานเรียบร้อย เขาจะพาเมียหมาดๆเดินทางไปไหว้ยาโพให้เป็นเรื่องเป็นราว ถือเป็นการตัดปัญหาเรื่องเอื้องฟ้าไปในตัวด้วย
แต่ปัญหามันติดอยู่ตอนนี้ เมียของเขาจะยอมรับฟังคำอธิบายจากปากเขาหรือไม่...
ตอนมากอยาเดินขึ้นบันไดเรือนมาจนถึงระเบียงไม้ ความเงียบงันยังคงควบคุมไปทั่วทั้งบริเวณ มากอยาเดินขึ้นเรือนมาจนเกือบถึงประตูไม้ที่ปิดสนิท พอดีกับที่คำหวานเดินกระเตงตะกร้าผ้า ดันประตูเปิดสวนออกมาจากด้านใน
ขุนโจรหนุ่มชะงัก ปรายตามองเมียอย่างขลาดๆ รอให้คำหวานด่าหรืออาละวาดใส่ ทว่าใบหน้าคำหวานกลับราบเรียบ เจ้าหล่อนเหลือบมองหน้าเขาเล็กน้อย แล้วคำหวานก็พูดขึ้นมาโดยมิใช่คำด่าทอ
“นายหม่านเพิ่งเอาสำรับขึ้นมาให้ ถ้าพี่หิวก็กินก่อนได้เลยไม่ต้องรอฉัน” พอไม่มีคำด่าทอหลุดออกจากปากเมียสักคำ และก็ไม่มีสิ่งใดผิดปกติใดทั้งนั้น มีเพียงสายตาทั้งสองดวงเท่านั้นที่มันแสดงออกถึงความว่างเปล่า
พาทำให้หัวใจของมากอยาหายวาบ เริ่มไม่แน่ใจต่อความเงียบสงบที่เมียเขาแสดงออกมา...
นี่คำหวานไม่คิดจะหึงหวงเขาสักนิดนึงหรือไง?
มันแปลออกได้สองทาง คำหวานใจกว้าง หรือไม่ก็ เพราะเจ้าหล่อนไม่ได้รักเขาสักนิด...
พอนึกถึงประเด็นตรงนี้ พลอยทำเอามากอยาเริ่มรู้สึกวูบโหวงในโพลงอกอย่างช่วยไม่ได้ แต่ไม่รักแล้วยังไง เขาเองก็ใช่จะรักเจ้าหล่อนนี่นา...
ที่เอ่ยปากขอเป็นเมียไปนั้นก็เพราะว่า...มากอยาย่นหน้า หัวคิ้วขมวดเป็นปม แล้วปัดคำตอบที่ผุดขึ้นมากลางใจทิ้งซะ แล้วทำเป็นกลบเกลื่อนอารมณ์น้อยอกน้อยใจว่าเมียไม่รัก ไว้ด้วยความคิดตรงกันข้ามกับความรู้สึกแท้จริง
เหอะ!ไม่อาละวาดก็ดี เขาจะได้ไม่ต้องปวดหัว แล้วคนปลอบใจตัวเองก็คลี่ยิ้มหวานหยดส่งให้เมียที่ยังไม่รัก แล้วเข้าประชิดตัวทันที
สองมือกางออกกว้างก่อนจะดึงร่างอรชรมาสวมกอดหลวมๆ กดปลายจมูกโด่งลงบนแก้มนวล สูดกลิ่นสาวไว้เสียงดังฟอด คำหวานยืนนิ่งให้ผัวได้กอดได้หอมจนสมใจ
“คำหวานจะออกไปซักผ้าหรือ...งั้นให้พี่ช่วยถือตะกร้าให้จะดีกว่านะ ซักผ้าเสร็จแล้วค่อยกลับมากินข้าวพร้อมกัน” ผัวรีบเสนอตัว คำหวานไม่ตอบ เจ้าหล่อนยังคงเก็บปากเก็บคำแล้วตั้งท่าจะเดินต่อ
แต่ถึงแม้นคำหวานจะไม่อาละวาด สำหรับมากอยาก็ยังรู้สึกว่าอากาศรอบตัวมันค่อนข้างอึดอัดชอบกล
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ประเดี๋ยวพี่จะซักผ้าให้น้องเอง มือสวยๆนิ่มๆจะได้ไม่ด้าน” ตะกร้าผ้าถูกยื้อมาถือไว้ คำหวานไม่ขัดขืน เธอยอมส่งตะกร้าให้เขา ผ้าถูกแย้งไปซักแล้วคำหวานจึงเตรียมหมุนตัวจะเดินกลับเข้าด้านใน
ตอนนี้คำหวานไม่อยากเห็นหน้าผัว กลัวตัวเองจะทนไม่ไหว แล้วเปลี่ยนใจลุกขึ้นอาละวาดราวกับผู้หญิงเสียสติอย่างที่เธอเคยเห็นแม่ทำประจำ
เดือดร้อนขุนโจรต้องรีบรั้งไว้ “เดี๋ยวสิคำหวาน!แล้วน้องไม่ไปด้วยกันหรอกหรือ”
“ฉันปวดขา อยากนอนพักสักประเดี๋ยว”
“ถ้างั้นพี่จะเข้าไปช่วยนวดขาให้เอาไหม น้องจะได้หายปวด”
“ตามใจ...แล้วผ้าล่ะ ตกลงพี่จะซักหรือไม่ซัก”
“ซักจ้ะ แต่หลังจากพี่นวดขาให้น้องก่อนก็แล้วกัน”
คำหวานไม่ตอบโต้อะไรอีก เขาอยากทำสิ่งใดก็ปล่อยให้เขาทำ เธอเดินกลับเข้าบ้านทันที ก่อนน้ำตาจะร่วงแหมะประจานว่าแท้ที่จริงแล้วนั้น คำหวานกำลังซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน...
************************