วานรเดอะลอยด์: ลิงปีศาจ จริงหรือเท็จ
ในปี ค.ศ. 1920 ดร. ฟรานสิส เดอะลอยด์ (Louis François Fernand Hector de Loys) นักธรณวิทยาชาวสวิสเดินทางมายังดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งจะเป็นประเทศเวเนซูเอลาในปัจจุบัน เขาเดินทางเข้ามาพร้อมกับทีมวิจัยและไกด์ชาวพื้นเมืองเข้ามายังป่าดงดิบขนาดใหญ่อันเป็นส่วนหนึ่งของอณาเขตแถบทะเลสาบมาราไคโบ การเดินทางในป่าดิบชื้นอะเมซอนนั้นอันตรายยิ่งนัก ทั้งฟ้าฝนที่พร้อมจะตกสร้างความเหนอะหนะในพื้นดินเป็นอย่างดี รวมถึงแมลงและสัตว์มีพิษมากมาย แต่การค้นพบของเขาเองก็นำไปสู่การบุกเบิกเส้นทางในทวีปอเมริกาใต้เขตร้อนไม่น้อย และถึงแม้ทุกวันนี้เดอะลอยด์จะไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว เขาก็ได้ทิ้งสิ่งทรงคุณค่าเอาไว้มากมาย และนี่ คือเรื่องราวสุดระทึก สยอง และน่าฉงนที่เขาได้พบเจอ
ในตอนนั้นเอง เดอะลอยด์และทีมสำรวจมาตามหาแหล่งน้ำมันในอเมริกาใต้เพื่อบุกเบิกอุตสาหกรรมในยุโรป ขณะที่เขาล่องเรือขึ้นไปตามแม่น้ำคาตาตุมโบ (Catatumbo river) เขาได้แวะพักในจุดหนึ่งของป่าดิบชื้น เสียงกรีดร้องแผดดังเหนือหัวของเขาทำให้เดอะลอยด์และทีมสำรวจสะดุ้งเฮือกตกใจ พวกเขาทั้งหมดหันลีหันเหลือกตามเสียงและได้ไปหยุดที่ต้นไม้ใหญ่ในป่าด้านหลังต้นหนึ่ง มีสัตว์คล้ายลิงขนาดใหญ่น่ากลัวสองตัวที่ไม่มีหาง มันมีหน้าตาคล้ายลิง ยืนสองขาได้แบบมนุษย์และดูท่าจะจับกิ่งไม้ไว้ในมือแน่น ทั้งสองตัวขว้างปาทั้งกิ่งไม้และอุจจาระใส่คณะของเขา จึงทำให้พวกเขาสู้กับ ทีมสำรวจตั้งท่ายิงอสูรกายเบื้องหน้าโดยเล็งที่ตัวผู้ที่ดุร้ายที่สุด ทว่า เจ้าตัวผู้หลบหนีไปได้ แต่พวกเขายิงถูกลิงยักษ์ตัวเมียแทน
เมื่อทั้งทีมเข้ามาตรวจสอบ เดอะลอยด์นับจำนวนฟันของมันก็พบว่ามีถึง 32 ซึ่ ไม่มีหาง ยืนสองขา คล้ายกับลิงเอปที่เจอในเอเชียและแอฟริกา แต่ว่า ไม่มีเอปชนิดไหนที่เคยอาศัยในอเมริกาใต้มาก่อนเลย และทีมสำรวจของพวกเขาไม่เคยเห็นลิงที่ขนาดตัวสูงถึง 1.7 เมตรมาก่อนเลยในอเมริกาใต้นับตั้งแต่เข้ามาสำรวจ จึงเชื่อว่าเดอะลอยด์เจอสายพันธุ์ใหม่แล้ว เดอะลอยด์จึงตั้งชื่อมันว่า อเมรันโธพอยด์เดส ลอยด์สิ (Ameranthopoides loysi)
เดอะลอยด์ถ่ายรูปของมันและทิ้งซากเอาไว้ในอเมริกาใต้และกลับมาที่ยุโรป เขารายงานการค้นพบนี้ลงในหนังสือพิมพ์ the Illustrated London News ในยุคนั้นและได้นำรูปไปยื่นส่งให้กับคณะวิจัยวิทยาศาตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส ผู้เชี่ยวชาญที่นั่นและเดอะลอยด์ลงความเห็นและตั้งทฏษีที่ได้รับการยอมรับในสมัยนั้นว่า ครั้งหนึ่งสายพันธุ์มนุษย์ไม่ได้กำเนิดในจุดเดียวกันแล้วแยกย้ายไปวิวัฒนาการต่างสถานที่ พวกเขาวิวัฒนาการจากสายพันธุ์เอปที่มีในท้องถิ่นนั้น และเดอะลอย์ดตั้งสมมุติฐานว่า นี่คือบรรพบุรุษในสายวิวัฒนาการของชนพื้นเมืองอเมริกันอย่างแน่นอน
ทว่า ทฏษีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดและได้รับการยืนยันนี้ก็โดนโต้แย้งมาจนถึงปัจจุบัน โดยผู้เห็นต่างคนแรกอย่างนักมานุษยวิทยา จอร์จ มอนทาดอน (George Montadon) จอร์จมองว่าเดอะลอยด์เป็นพวกเหยียดเชื้อชาติและมีความคิดล้าหลัง เขาจึงตั้งสมมุติฐานว่าในแง่นั้นแล้ว ฟันของมันมีถึง 32 ซี่ ก็ไม่ได้แปลว่ามันคือเอปชนิดใหม่ อีกทั้งพิจรณนาจากในภาพแล้ว บริเวณที่เดอะลอยด์ถ่ายได้มีต้นกล้วยที่พบในเอเชียเขตร้อนและไม่น่าจะอยู่ในป่าของอเมริกาใต้ แปลว่าเดอะลอยด์ถ่ายภาพนี้ในพื้นที่การเกษตรที่ชาวสวนนำกล้วยจากต่างถิ่นมาปลูก และไม้ค้ำกับกล่องไม้ที่เขาใช้วางซากสัตว์ตัวนี้ก็สูงจึงทำให้ตัวของมันเชิดออกดูสูงผิดปกติ และถึงเดอะลอยด์อ้างว่ามันไม่มีหาง เขาจึงคิดว่าคณะสำรวจจัดฉากตัดหางของมัน จอร์จสรุปว่าสิ่งที่เดอะลอยด์เจอนั้น คือลิงแมงมุมหน้าขาว (White Faced Spidermonkey) ลิงโลกใหม่จากทวีปอเมริกาใต้ที่แขนขายาวและสามารถยืนตัวตรงได้ ทั้งนี้เพราะจอร์จเคยเจอตัวอย่างลิงแมงมุมทั้งในธรรมชาติและในสวนสัตว์มาแล้ว เขาจึงได้ศึกษาพฤติกรรมและเห็นว่ามันใกล้เคียงกับที่เดอะลอยด์พูดมา
https://neprimateconservancy.org/wp-content/uploads/2022/01/white-bellied-spider-monkey-Fabio-Manfredini-flickr-cc-resize.jpg" />
ทั้งนี้ทั้งนั้น ลิงแมงมุมหน้าขาว เป็นลิงที่พบในทวีปอเมริกาใต้ มีความสูงอยู่ที่ 1 เมตร มีหางยาวใช้ห้อยโหนปีนป่ายได้ดีจึงคล้ายแมงมุมที่มีใยห้อยจากก้น พวกมันกินพืชและแมลงเป็นอาหาร และมักมีพฤติกรรมขว้างปาสิ่งของใส่ผู้บุกรุก อีกทั้งใบหน้าท่าทางก็คล้ายมนุษย์อยู่ไม่น้อย ปัจจุบันลิงชนิดนี้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างดี
https://neprimateconservancy.org/wp-content/uploads/2022/07/white-cheeked-spider-monkey-shutterstock_1959328996-r.jpg" />
ตำนานของวานรเดอะลอยด์ถึงแม้จะกลายเป็นเรื่องหลอกลวงไป แต่การค้นพบนี้ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญของการตั้งข้อสมมุติฐานอย่างเป็นกลางไม่ลำเอียงต่อแนวคิดส่วนบุคคลที่อาจจะเผยแพร่เรื่องผิดๆ ต่อสาธารณะได้ เพราะฉะนั้น หากคุณเห็นภาพของเจ้าสิ่งนี้ถูกแชร์ไปที่ไหน จงพิจรณาอย่างระมัดระวังด้วยนะครับ