ประเทศที่เวลากลางวันสั้นที่สุดในโลก
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Postjung ทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกคนไปสำรวจดินแดนสุดขั้วโลก ที่ที่แสงตะวันเป็นของหายาก และกลางคืนยาวนานกว่าที่ไหนๆ บนโลกใบนี้! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปผจญภัยในดินแดนที่ดวงอาทิตย์หลับใหลกันเลย!
ทำไมบางประเทศถึงมีเวลากลางวันน้อยกว่าที่อื่น?
สาเหตุหลักมาจากแกนโลกที่เอียงประมาณ 23.5 องศา ทำให้พื้นที่ต่างๆ ได้รับแสงอาทิตย์ไม่เท่ากันตลอดทั้งปี ยิ่งใกล้ขั้วโลกมากเท่าไหร่ ความแตกต่างของเวลากลางวันและกลางคืนในแต่ละฤดูก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ในฤดูหนาว ซีกโลกที่อยู่ใกล้ขั้วโลกจะเอียงออกจากดวงอาทิตย์ ทำให้ได้รับแสงอาทิตย์น้อยลง และมีเวลากลางวันสั้นลงตามไปด้วย ในทางกลับกัน ฤดูร้อนซีกโลกนั้นจะเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์ ทำให้ได้รับแสงอาทิตย์มากขึ้น และมีเวลากลางวันยาวนานขึ้น
ประเทศที่เวลากลางวันสั้นที่สุดในโลก:
-
นอร์เวย์ (Svalbard): หมู่เกาะสวาลบาร์ด ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแผ่นดินใหญ่นอร์เวย์ เป็นประตูสู่ขั้วโลกเหนือ เมืองลองเยียร์เบียนในหมู่เกาะนี้ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีช่วงเวลากลางคืนยาวนานที่สุดในโลก โดยในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้นเลยเป็นเวลานานถึง 4 เดือน! ลองนึกภาพดูสิครับ ว่าการใช้ชีวิตในความมืดมิดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลาหลายเดือนจะเป็นอย่างไร
-
ฟินแลนด์ (Utsjoki): เมืองอุตสโยกิ ทางตอนเหนือสุดของฟินแลนด์ เป็นอีกหนึ่งดินแดนที่สัมผัสได้ถึงความสุดขั้วของฤดูกาล ในฤดูหนาว ดวงอาทิตย์จะไม่ปรากฏให้เห็นเลย เหมือนกับลองเยียร์เบียน แต่ในฤดูร้อน จะกลายเป็นดินแดนแห่งอาทิตย์เที่ยงคืน ที่ดวงอาทิตย์ไม่ตกดินนานถึง 73 วัน! นั่นหมายความว่าคุณสามารถเล่นกอล์ฟตอนเที่ยงคืน หรือปิกนิกยามดึกได้อย่างสบายๆ
-
แคนาดา (Alert): เมืองอะเลิร์ต ในเขตปกครองนูนาวุตของแคนาดา เป็นชุมชนที่อยู่ทางเหนือสุดของโลก มีประชากรถาวรเพียงไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นนักวิทยาศาสตร์และทหาร ในฤดูหนาว ที่นี่จะปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง และดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้นเลยเป็นเวลานานถึง 5 เดือน!
ชีวิตในดินแดนแห่งความมืด
การใช้ชีวิตในที่ที่แทบไม่มีแสงอาทิตย์นั้นไม่ง่ายเลย ผู้คนต้องปรับตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ การขาดแสงแดดอาจส่งผลต่อระดับวิตามินดี และอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาลได้ เพื่อทดแทนแสงอาทิตย์ ผู้คนจึงใช้แสงไฟจำลอง และบางคนอาจใช้การบำบัดด้วยแสงเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย กิจกรรมต่างๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศและแสงสว่างที่มีจำกัด เช่น การทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงกลางวัน (ที่มีแสงสว่างจากดวงจันทร์และแสงเหนือ) และการพักผ่อนในช่วงที่มืดสนิท
ความสวยงามของดินแดนแห่งความมืด
แม้จะมีความท้าทาย แต่ดินแดนเหล่านี้ก็มีความสวยงามและน่าค้นหาเป็นอย่างยิ่ง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างแสงเหนือ (Aurora Borealis) ที่เต้นระบำบนท้องฟ้ายามค่ำคืน เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ นอกจากนี้ ภูมิประเทศที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง ก็งดงามราวกับภาพวาด
สรุป
ดินแดนที่เวลากลางวันสั้นที่สุดในโลก เป็นสถานที่ที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความท้าทาย หากคุณเป็นนักผจญภัยที่ชอบความแปลกใหม่และไม่กลัวความมืด ลองหาโอกาสไปเยือนดินแดนเหล่านี้ดูสักครั้ง แล้วคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน!
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ นะครับ 😊