มัมมี่ Frankenstein แห่ง สกอตแลนด์
การค้นพบซากมัมมี่ในยุคต่างๆนั้น ได้บอกเราถึงชีวิตความเป็นอยู่ในยุคนั้นๆ โดยดูจากสิ่งของหรือเครื่องมือที่ถูกค้นพบในบริเวณเดียวกัน หรือบอกรายละเอียดของมัมมี่ตนนั้น แต่บางครั้งการค้นพบที่ดูเหมือนจะปกติทั่วไปนั้น กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่ปกติขึ้นมา โดยย้อนกลับไปในปี 2001 ทีมนักโบราณคดีได้ค้นพบโครงกระดูกที่แหล่งโบราณคดีแห่งหนึ่งบนเกาะ South Uist ใน Outer Hebrides ในสกอตแลนด์ ในตอนแรกดูเหมือนว่าจะเป็นการค้นพบในยุคสำริดทั่วไป แต่ในไม่ช้านักวิจัยก็ค้นพบว่าการค้นพบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ เนื่องจากโครงกระดูกทั้งชายและหญิงหนึ่งคนถูกฝังอยู่ในตำแหน่งของทารกในครรภ์ การทดสอบเบื้องต้นพบว่าชายผู้นี้เสียชีวิตในราว 1,600 ปีก่อนคริสตกาล และหญิงนั้นเสียชีวิตเมื่อประมาณ 1,300 ปีก่อนคริสตกาล อย่างไรก็ตาม สิบปีต่อมา การตรวจดีเอ็นเอเพิ่มเติมของซากศพนำไปสู่การค้นพบที่น่าตกใจ โครงกระดูกทั้งสองนี้ประกอบขึ้นจากส่วนต่างๆ ของร่างกายจากบุคคล 6 คน ซึ่งนักโบราณคดีได้กล่าวว่าเป็นเสมือนแฟรงเกนสไตน์ โดยในโครงกระดูกชาย ลำตัว กะโหลกศีรษะ และคอ และขากรรไกรล่างเป็นของผู้ชายสามคนแยกจากกัน และโครงกระดูกเพศหญิง เป็นส่วนที่ประกอบขึ้นจากกะโหลกศีรษะของผู้ชาย ลำตัวผู้หญิง และแขนของบุคคลที่สามที่ระบุเพศไม่ได้ จากการตรวจโดยคาร์บอนเปิดเผยว่ากะโหลกศีรษะของมัมมี่เพศหญิง มีอายุมากกว่าลำตัว 50 ถึง 200 ปี ดูเหมือนว่ามัมมี่จะประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของคนในครอบครัวเดียวกัน แล้วนำมาประกอบกันเหมือนจิ๊กซอว์เพื่อให้ดูเหมือนเป็นแค่คนๆเดียว ซึ่งนักโบราณคดีไม่รู้ว่าทำไมซากศพจึงถูกผสมเข้าด้วยกันแบบนั้น จึงต้องมีการศึกษาค้นคว้าหาคำตอบกันต่อไป เพราะหลายคนก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม