12 นางกวัก มหานิยม

นางกวัก เป็นเทพีแห่งโชคลาภตามคติไทย ถือเป็นของขลังชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นรูปศักดิ์สิทธิ์ทำเป็นรูปหญิงสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับอย่างธรรมเนียมไทย นั่งพับเพียบ มือซ้ายวางลงแตะข้างลำตัวหรือวางบนตัก ส่วนมือขวายกขึ้นระดับไหล่ทำท่ากวักมือหรือเรียกเข้ามาหา เชื่อว่าเทพีองค์นี้จะกวักมือเรียกทรัพย์

1. พระพิมพ์นางกวัก กรุวัดท้ายตลาด กรุงเทพฯ
แม่นางกวักกรุวัดท้ายตลาด เนื้อผงใบลาน พิมพ์แม่นางกวัก พิมพ์ซุ้มปราสาท หรือเก๋งจีน ปัจจุบันแทบไม่เห็นกันเลย เป็นพิมพ์ที่หายาก พุทธคุณดีทางด้านเมตตามหานิยม โภคทรัพย์เป็นเลิศ และทางด้านแคล้วคลาด
ตามประวัติแล้วเป็นพระที่สร้างโดยพระวิเชียรมุนี อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อนท่านเจ้าคุณสนิท พร้อมทั้งหลวงพ่อแย้มและหลวงพ่อกลิ่น พระอาจารย์สายกรรมฐาน ผู้ทรงกิตติคุณของพระอารามแห่งนี้ ได้สร้างบรรจุไว้ในสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๕ ในปี พ.ศ.๒๔๓๑ การเปิดกรุ ได้ถูกคนร้ายลักลอบเจาะมาช้านานแล้ว ต่อมาในราวปี พ.ศ. 2485 ในช่วงสงครามอินโดจีน ทางราชการได้มีหนังสือขอพระเครื่องมา พระประสิทธิสีลคุณ เจ้าอาวาสในสมัยนั้น
จึงได้ดำริให้ขุดกรุพระเจดีย์ภายในวัด นับเป็นการแตกกรุครั้งแรก ได้พระเครื่องออกมาจำนวนมาก และได้มอบให้ทางราชการไปส่วนหนึ่ง

2. พระพิมพ์นางกวัก มฤคทายวัน จ.เพชรบุรี
หลวงปู่นาค ปุญญนาโค พระครูวิริยาธิการี วัดหัวหิน ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์เลื่องชื่อทางไสยเวทย์ แลพุทธเวทย์ในยุคกระนั้น เป็นผู้ดำเนินการสร้างและปลุกเสก โดยนิมนต์พระคณาจารย์ระบือนามแห่งยุค
เข้าร่วมพิธีปลุกเสกอย่างคับคั่ง เมื่อประมาณ พ.ศ. 2466 เพื่อพระราชทานให้กับข้าราชบริพารและชาวบ้าน ในวโรกาสรัชกาลที่ ๖ เสด็จประทับแรม ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัย ที่ตำบล ห้วยทรายเหนือ อำเภอ ชะอำ
จังหวัด เพชรบุรี โดยพระองค์ท่านกำหนดให้ “พระมฤคทายวัน” แห่งนี้ เป็นเขตอภัยทาน คือ งดเว้นจาการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ในการที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสรู้
ณ.ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวง เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย เมื่อ ๒,๕๘๐ กว่าปีล่วงมาแล้ว เนื่องจากคำว่า “มฤค” นั้น มีความหมายว่า เนื้อ, ทราย ซึ่งมีอยู่ชุกชุมในสถานที่แห่งนี้ คล้ายคลึงกับสถานที่ในพุทธประวัติ

3. แม่นางกวัก หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
หลวงปู่เจือ เกจิอาจารย์ดังแห่งยุคที่ 3 ผู้สืบทอดวิชาการสร้าง เบี้ยแก้ ผงยาจินดามณี และ พระเครื่องต่าง ๆ สายหลวงปู่บุญ และ หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นางกวักมหาเสน่ห์ รุ่นแรก
ขนาดบูชา หน้าตัก 5 นิ้ว จัดสร้างขึ้น ปี 2546 พิมพ์สวยมากๆ มีความคมชัดลึก รายละเอียดต่างๆครบครัน หมั่นบูชาไว้ดีในทุกด้าน เช่นคงกระพัน ป้องกันอันตรายทั้งหลายทั้งปวง และที่พลาดไม่ได้ คือด้านค้าขายดีสุดๆ
กวักเงินกวักทองเข้าร้าน ด้านโชคลาภกวักเข้าร้าน และด้านเมตตามหานิยมดีมากๆ

4. แม่นางกวัก วัดสามง่าม จ.นครปฐม
นางกวักเนื้อดินเจ็ดป่าช้า "นางกวักสุดเฮี้ยน" ต้องยกให้ แม่นางกวักวัดสามง่าม จ.นครปฐม​ โด่งดังมาตั่งแต่สมัยที่ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วิชาปลุกเสกนางกวัก จนลุกขึ้นมาตั้งเด่ตั้งตรงนั่งเองของหลวงพ่อเต๋ คงทอง
จึงได้ตกทอดมายังหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม อย่างเต็มสูตรเต็มกำลังเช่นกัน หลวงปู่แย้ม ท่านได้สร้าง "แม่นางกวัก วัดสามง่าม" ด้วยเนื้อดินเดียวกันกับกุมารทอง นั้นก็คือ ดิน7ป่าช้า 7ไร้ 7นา 7ท่าน้ำ 7เมรุ 7ขุยปู
และมวลสารอีกมากมายรวมถึงมวลสารนางกวักและกุมารทองหลวงพ่อเต๋คงทองอีกด้วย หลวงปู่แย้ม ท่านได้สร้างนางกวักใว้ไม่มากนัก เด่นด้านค้าขาย เรียกทรัพย์ เฝ้าเรือน เตือนภัย คุ้มครองบ้านเรือนเด็กเล็กได้ดี ตามความเชื่อ

5. แม่นางกวัก หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์
พระงาแกะหรือนางกวักงาแกะของหลวงพ่อเดิมนั้น ใช้เศษงาที่เหลือจากการทำปลอกและด้านมีดหมอ การแกะให้ช่างชาวบ้านหนองโพใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการแกะจึงไม่สวย ทางด้านผู้ต้องการ
จึงไปว่าจ้างช่างฝีมือแกะงาช้างที่พยุหะคีรีแกะ จึงมีความงามมีมติเหนือกว่าช่างชาวบ้าน มีศิลปะหลากหลาย พุทธคุณเด่น เมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ เจรจาค้าขาย
เป็นที่รักของผู้หลักผู้ใหญ่ เจ้าขุนบุญนาย อุดหนุนจุนเจือ พูดได้ว่าดีจริง หลวงพ่อเดิมท่านเริ่มสร้างงาแกะอยู่ในช่วง พ.ศ.2470 เพื่อแจกลูกศิษย์ที่อยู่ห่างไกลด้วยห่วงว่าจะได้รับอันตรายของคุณไสยหรือพวกอันธพาล

6. แม่นางกวัก หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
เหรียญโภคทรัพย์ หลวงพ่อเส็ง วัดศรีประจันตคาม ปี 2499 เป็นอีกเหรียญหนึ่งที่เป็นที่แสวงหากันมาก ด้วยพุทธคุณเป็นที่ปรากฏด้านเมตตามหานิยมและการค้าการขายสุดยอด หลวงพ่อเส็งเป็นพระที่เคร่งในวัตรปฏิบัติ
มีศีลาจารวัตรอันงดงาม เพียบพร้อมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่เคารพเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชน พุทธาคมของท่านที่เป็นที่เลื่องลือมาก คือ "วิชาเรียกทรัพย์" เหรียญโภคทรัพย์" เป็นเหรียญที่หลวงพ่อเส็งสร้างขึ้นเป็นรุ่นที่ 3
เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่มีการปลูกต้นโพธิ์ตรัสรู้ "พันธุ์พุทธคยา" ที่วัดประจันตคาม

7. แม่นางกวัก หลวงพ่อแจ๋ วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ จ.ฉะเชิงเทรา
“หลวงพ่อแจ๋ ติสสโร” พระเกจิชื่อดังแห่งวัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมสูงคือ “เหรียญนางกวัก” สร้างในปี พ.ศ. 2502 เป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียว สร้างเป็นเนื้อเงินลงยา
และเนื้ออัลปาก้า สร้างไม่เกิน 1,000 เหรียญ ลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงห้าเหลี่ยม ด้านล่างเป็นเหมือนกลีบบัว 3 กลีบ หูในตัว ด้านหน้ายกขอบเส้นลวด มีอักขระขอมล้อมรอบ ภายในกรอบยันต์ เป็นรูปหญิงไทยโบราณ นั่งพับเพียบ
มือขวายกมือกวักลาภ มือซ้ายวางไว้ที่หน้าตัก ด้านหลังเรียบ โดย หลวงพ่อแจ๋ จะลงอักขระด้วยเหล็กจารทุกองค์

8. แม่นางกวัก หลวงพ่อเชย วัดท่าควาย จ.สิงห์บุรี
นางกวักคู่พิมพ์โบราณ หลวงพ่อเชย วัดท่าควาย ลงรักน้ำเกลี้ยง สร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ.2460 - 2468 โดยท่านได้ทำการรวบรวมผงพุทธคุณที่ได้มาจากเมื่อครั้งออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ มาผสมและจัดสร้างขึ้น
เป็นแม่นางกวัก กับ แม่โพสพ ที่เราไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก พระเนื้อดินพิมพ์โบราณ แม่นางกวัก แม่โพสพนี้ เป็นที่ร่ำลือ เรื่องโชคลาภค้าขาย เข้าหาผู้ใหญ่ นำความสมบูรณ์พูลสุข ไม่เป็นสองรองใครเพราะเมตตามหานิยมดีเยี่ยม
พระรุ่นนี้จะมีลงยางรักเก่าไว้แทบทุกองค์เพื่อรักษาเนื้อพระ ทำให้ง่ายต่อการพิจารณา

9. แม่นางกวัก หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี
ในอดีตถ้าพูดถึงพระเกจิที่สร้างนางกวัก ได้ขลังและมีชื่อเสียงมากที่สุด จะต้องนึกหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา อยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศ สำหรับนางกวักยุคต้นๆ สร้างในราวปี พ.ศ.๒๔๖๐ - ๒๔๗๐ นางกวักจะเป็นการปั้นหุ่นด้วยมือทีละองค์
ศิลปะของแต่ละองค์จะสวย เป็นนางกวัก ทรงสไบ ผมหวี โดยมากมือที่กวักจะอยู่สูงเลยระดับปาก ซึ่งเป็นการสร้างได้ถูกต้องตามตำราโบราณ ปั้นหุ่นที่ละองค์ สำหรับยุคต้น แล้วหล่อออกมา คล้ายกับพระปิดตา หลวงพ่อทับ วัดทอง
(จากความเห็นของนักสะสมรุ่นเก่าหลายท่าน บอกว่ายังไม่เคยเห็นนางกวักยุคต้นๆที่เหมือนกันสององค์แต่อย่างใด แต่จะมีลักษณะศิลปะใกล้เคียงกันเท่านั้น)

10. แม่นางกวัก หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ
สร้างประมาณปี 2496 รุ่นสร้างพระเจดีย์ ช่วงระหว่างปี พ.ศ.2495-2496 หลวงปู่เผือก ท่านได้ดำหริที่จะสร้างพระเจดีย์ ท่านจึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา เพื่อแจกจ่ายให้กับญาติโยมและผู้ที่ได้ทำบุญบริจาคทรัพย์
ร่วมสร้าง"พระเจดีย์" การสร้างพระในช่วงแรกๆนั้น ด้านหลังองค์พระจะไม่มียันต์ ต่อมา "ท่านผู้ใหญ่เพิ่ม" ซึ่งเป็นกรรมการวัดในสมัยนั้น ได้ตัดไม้โมกมอบให้กับ "หลวงปู่สุข และท่านได้นำไม้โมกมาแกะเป็นตัวยันต์
แล้วนำมาปั๊มด้านหลังองค์พระ "มีด้วยกัน 4 แบบ คือ ยันต์ ฤ-ฤา , ยันต์ สาริกา , ยันต์ นะ , ยันต์ นะชาลิติ ดังนั้นพระนางกวัก รุ่นนี้ จึงมีทั้ง ปั๊มยันต์ และไม่มียันต์

11. แม่นางกวัก ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ กรุงเทพ
นางกวัก หล่อโบราณ เนื้อโลหะผสมทอง ปี 2493-2496 เป็นการสร้างโดยกรรมวิธีเททองหล่อแบบโบราณ ลอยองค์ใต้ฐานกลวง เนื้อโลหะเป็นแบบ "ทองผสม" กระแสวรรณะออก "เหลืองอมเขียว" ตามสูตรโบราณของวัดสุทัศน์ฯ
ใช้แทนพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ของวัดสุทัศน์ฯรุ่นเก่าๆ ตั้งแต่ครั้งสมัยสมเด็จฯพระสังฆราชฯ(แพ) เนื่องจากมีชนวนเก่าๆ ตกทอดมาผสมหลอมรวมและตำหรับการสร้างก็ถูกต้องตามแบบโบราณ โดยมือหล่อฯอันดับหนึ่ง
ศิษย์ในสมเด็จฯพระสังฆราชฯ(แพ) พระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมปลุกเสกก็ล้วนแต่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้น พุทธคุณครอบคลุมจักรวาล เนื่องจากพระเกจิที่มาร่วมปลุกเสก ต่างมีดีมีเด่นกันคนละด้าน

12. แม่นางกวัก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
‘พระธรรมมุนี ’ หรือที่รู้จักกันในนาม หลวงพ่อแพ เขมังกโร อดีตเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ผู้สร้างคุณานุคุณสูงส่งแก่ชาวเมืองสิงห์บุรี จนได้รับการยกย่องให้เป็น “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย” วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นมีหลายรุ่นด้วยกัน
แต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่สร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้มากมาย การสร้างวัตถุมงคลของท่านนั้น ไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามเป็นหลัก หากแต่เน้นไปในเรื่องของความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลนั้นๆ โดยท่านจะพิถีพิถันในการปลุกเสก
ทั้งวิชาอาคมและอำนาจจิต เพื่อให้เกิดความเข้มขลังแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และด้วยพลังบริสุทธิ์ดังกล่าว จึงทำให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อแพรุ่นต่างๆ มีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ ทั้งด้านเมตตามหานิยม, แคล้วคลาด อุดมด้วยลาภผลพูนทวี โภคทรัพย์ เงินทอง ใช้บูชาแล้วเห็นผลได้จริง