หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หนุ่มดับสลด หลังดื่มน้ำอัดลม 1.5 ลิตร

เนื้อหาโดย teerap

     ข่าวนี้ได้ถูกเปิดเผยหลังจากวารสารการแพทย์ฉบับหนึ่งของจีน ซึ่งได้ตีพิมพ์กรณีของการเจ็บป่วยที่พบได้ยากชนิดหนึ่ง หลังจากชายหนุ่มชาวจีนดื่มน้ำอัดลม 1.5 ลิตรและต่อมามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงใน 6 ชั่วโมงและเสียชีวิต 18 ชั่วโมงหลังการรักษา อย่างไรก็ตามทางผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชาวอังกฤษกลับเชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ชายคนนี้จะเสียชีวิตจากการแค่ดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป โดยจากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์โดยแพทย์ชาวจีนในวารสารนั้นได้ระบุว่าชายวัย 22 ปีที่ไม่โรคประจำตัวใดๆเลย ได้ดื่มน้ำอัดลมขนาด 1.5 ลิตรภายในเวลา 10 นาที

อันเนื่องมาจากอากาศร้อนและกระหายน้ำ อย่างไรก็ตาม 6 ชั่วโมงต่อมาเขาเริ่มรู้สึกท้องบวมและปวดท้องอย่างรุนแรง จึงเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือแพทย์และผลตรวจเบื้องต้นพบว่ามีอาการหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำและหายใจลำบาก ผลแอกซเรย์แสดงให้เห็นว่า เพราะเนื่องจากเขาดื่มน้ำอัดลมเร็วเกินไป ก๊าซจึงสะสมอยู่ในลำไส้จำนวนมากและรั่วเข้าไปในหลอดเลือดดำพอร์ทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในหลอดเลือดหลักของตับ ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับร่างกายของเขา

ซึ่งส่งผลให้ชายคนดังกล่าวมีอาการขาดเลือดในตับ ซึ่งเป็นภาวะที่เรียกว่าตับวายเฉียบพลัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดออกซิเจนซึ่งจะต้องส่งไปยังอวัยวะต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์พยายามปล่อยก๊าซออกจากระบบย่อยอาหารของเขาและใช้ยาเพื่อควบคุมตับและอวัยวะอื่นๆเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม แต่อาการของเขายังคงแย่ลงเรื่อยๆจนกระทั่งเสียชีวิตในอีก 18 ชั่วโมงหลังได้รับการรักษาพยาบาล แต่สำนักข่าว Daily Mail ได้รายงานว่านายนาธาน เดวีส์ ซึ่งเป็นนักชีวเคมีจากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ซึ่งได้ออกมาบอกว่า ความน่าจะเป็นที่จะเสียชีวิตจากการดื่มเครื่องดื่มทั่วไป 1.5 ลิตรนั้น

เรียกได้ว่าน้อยมากเลยทีเดียว เชื่อว่าผู้ชายคนนี้อาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อ โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า แบคทีเรียอาจก่อตัวเป็นถุงก๊าซในผนังลำไส้แล้วรั่วไหลไปยังส่วนอื่นๆของร่างกาย และการบริโภคเครื่องดื่มอัดลมในปริมาณมากอาจทำให้อาการแย่ลงได้แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักแน่นอน โดยเรื่องนี้แพทย์ผู้เกี่ยวข้องต้องศึกษาในรายละเอียดต่อไปถึงจะทราบผลที่แน่ชัดจริงๆ

เนื้อหาโดย: teerap
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
teerap's profile


โพสท์โดย: teerap
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: teerap
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"แพท ณปภา" สะดุด! นั่งฟัง "พี ชานนท์"คุยกับเพื่อน แต่เพื่อนหล่อเกินต้านลูกค้ากินบุฟเฟ่ต์ 210 บาทไม่ยั้ง ชาวเน็ตห่วงร้านขาดทุน เจ้าของเผยคำตอบพลิกความคาดหมายหนุ่มไรเดอร์อมของหลวง ชี้เกิดใน สน.จริงรวมเลขเด็ด! หวยแม่จำเนียร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567วิกฤตแรงงาน! โรงงานดังย่านกิ่งแก้วเลิกจ้าง 900 คนรวด คนทำงานนาน 19 ปียังไม่รอดชีวิตในคุก แอนนาน้ำหนักลง 10 กิโล ไม่ได้สุขสบาย หลังศาลตัดสิน ต้องโทษ 100 ปีบ๊อบ ทูน หิรัญทรัพย์ เผยป่วยเบาหวานขึ้นตา ตาขวาบอดสนิท ตาซ้ายเห็นเพียง 30%ศพถูกพบอย่างต่อเนื่อง เมื่อหนุ่มชาวอินโดนีเซียถูกงูเหลือมยักษ์กลืนกินทั้งเป็นในสวนปาล์ม ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการผ่าท้องเพื่อดูสภาพศพ ทำให้เกิดความตกใจอย่างมากคุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 43 ปีเผยเสียใจ หลังเผลอมีความสัมพันธ์กับหนุ่ม 19 ปีกัมพูชาสไตล์ มัดรวมดราม่าจากเวที Miss Planet International 2024หนุ่มเจอเศษแก้วในสปาเก็ตตี้ ของร้านพิซซ่าเจ้าดัง บาดปากจนได้เลือด 😱เทคนิคถ่ายรูปด้วยมือถือสำหรับมือใหม่ ถ่ายยังไงให้จิ้งจนเพื่อนอิจฉา!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ดราม่าก็ทำอะไรไม่ได้ เจ๊ไฝ คว้ามิชลิน 1 ดาว 8 สมัยซ้อนก้อนหินในกระเป๋ารักให้เป็น ดูแลให้ดี: 6 เคล็ดลับสามีมือโปรรัสเซียขับไล่นักข่าวชาวเยอรมัน หลังเยอรมันปิดสำนักงานข่าวรัสเซียบ๊อบ ทูน หิรัญทรัพย์ เผยป่วยเบาหวานขึ้นตา ตาขวาบอดสนิท ตาซ้ายเห็นเพียง 30%
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
native: ชาวพื้นเมืองเทศกาล Thailand Winter Festivals จัดเต็ม แสง สี เสียง และไฟสวยๆดวงรายสัปดาห์ 1-15 ธันวาคม 2567 by อ.กัญจน์ ญาณพยากรณ์ทำไมการอาบน้ำเย็นตอนเช้าอาจเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล
ตั้งกระทู้ใหม่