หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กว่าจะมาเป็น Netflix

โพสท์โดย teerap

   จากร้านเช่า DVD ภาพยนตร์ออนไลน์ กลายมาเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่งคอนเทนต์เบอร์ 1 ของโลกด้วยส่วนแบ่ง 44.21 % นั้นทำได้อย่างไร เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อ มาร์ก แรนดอล์ฟ และรีด เฮสติงส์ คือ 2 ผู้ก่อตั้ง Netflix ได้รู้จักกันโดยบังเอิญจากการควบรวมกิจการของบริษัท และในปี 1991 เฮสติงส์ นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักคณิตศาสตร์ ได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อ เพียวเอเทรีย (Pure Atria) ขึ้นมา ที่มีชื่อเสียงมาจากการพัฒนาเครื่องมือแก้บั๊ก (Debugger) ส่วนทางด้าน แรนดอล์ฟ นั้นได้ทำงานอยู่ในหลายบริษัท ทั้งบริษัทจำหน่ายฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และบริษัทซอฟต์แวร์ แต่ส่วนใหญ่เขาจะดูงานด้านการตลาด

อีกทั้งยังเป็นนักลงทุนและผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปหลายเจ้าด้วย ต่อมาบริษัทสตาร์ทอัปของเขาถูกเพียวเอเทรียซื้อกิจการ ทำให้ได้มาเจอกับเฮสติงส์ มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ หลายๆบริษัทที่แรนดอล์ฟเคยทำมานั้น มันมีลักษณะของการเปิดให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าและจัดส่งแบบเดลิเวอรีนั่นเอง จุดเปลี่ยนที่สำคัญได้มาในปี 1997 ซึ่งเพียวเอเทรียได้ถูกซื้อกิจการไปโดยบริษัทอื่น ด้วยมูลค่าสูงถึง 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ทั้งสองต้องออกจากบริษัทตัวเอง โดยที่แรนดอล์ฟบอกเฮสติงส์ในเวลานั้นว่า มาคิดไอเดียกัน คุณดำเนินงาน แล้วผมจะให้ทุนคุณเอง ซึ่งในเวลานั้นแรนดอล์ฟก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังมาแรงซึ่งคิดค้นในญี่ปุ่น นั่นคือแผ่น DVD เขารู้ได้ทันทีว่า ในไม่ช้าสิ่งนี้จะมาแทนที่ม้วนวิดีโอเทป และเฮสติงส์ก็ซื้อแนวคิดดังกล่าว

จึงทำให้เกิดเป็นแผนการตั้งธุรกิจให้เช่า DVD ภาพยนตร์ แต่พวกเขาต่อยอดไอเดียมาอีกนิด ด้วยการนำเรื่องของบริการจัดส่งมารวมไว้ด้วยกัน เกิดเป็นธุรกิจให้เช่า DVD แบบส่งถึงบ้านลูกค้า นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมองว่า อินเทอร์เน็ต กำลังจะมีบทบาทอย่างมากและนำพาความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายมาสู่ชีวิตในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงจะเป็นช่องทางหลักที่ผู้คนจะเข้าถึงบริการของพวกเขา จึงตั้งชื่อธุรกิจนี้ว่า “Netflix” โดย Net มาจากอินเทอร์เน็ต ส่วน Flix เป็นการเล่นคำจากคำว่า Flicks ซึ่งเป็นศัพท์ไม่เป็นทางการที่มีความหมายว่า ภาพยนตร์หรือภาพเคลื่อนไหว และหลังจากนั้นก็ . . . มาถึงปัจจุบันดังที่เราได้เห็นกันอยู่นี้

โพสท์โดย: teerap
อ้างอิงจาก:https://www.pptvhd36.com/news/หุ้น-การลงทุน/219498
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
teerap's profile


โพสท์โดย: teerap
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: teerap
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ย้อนชมผลงานดาราไทย ร่วมงาน Cannes Film Festivalนักการเมืองดังถูกไล่ออกจากพรรค หลังเลียโถส้วมเลียและแปรงขัดส้วมด่วน!เครื่องบินประธานาธิบดีอิหร่านประสบอุบัติเหตุ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภาพเก่าหาดูยาก : ภาพการออกหวย(สลากกินแบ่ง) ในยุคเก่า ช่วงประมาณปี 2496 อื้อหือ หวยนี่ เล่นกันมานานจริงๆใส่รองเท้าอะไรไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่าใครเป็นคนใส่!!!หนุ่มใส่รองเท้าcrocsวิ่งมาราธอนด้วยpace4.13ทำลายสถิติโลกอิสราเอลโจมตีค่ายลี้ภัย ดับแล้วกว่า 30 รายเอาให้สุด! แชร์ว่อนโซเชียล ยันต์ "ลาบูบู้"..หลายคนต่อคิวสักเพียบ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
หอพักOEM คืออะไร? สิ่งที่คนสร้างแบรนด์ต้องรู้Carbon Footprint คืออะไร? ความเชื่อมโยงระหว่างก๊าซคาร์บอนกับการทำธุรกิจพระเจ้าตากสินมหาราช ลูกหลานชาวจีน วีรบุรุษผู้กอบกู้แผ่นดินสยาม
ตั้งกระทู้ใหม่