หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานเวมานิกเปรต: ผีกึ่งเทวดาผู้ทุกข์ร้อน

โพสท์โดย samuraimasterj

ตำนานของศาสนาต่างๆ เมื่อกล่าวถึงสิ่งเหนือธรรมชาติ ต่างมีเรื่องเล่าถึงผีหรืออสูรกาย แต่หากมาดูตำนานในพุทธศาสนาหรือพระไตรปิฏกก็จะได้รู้จักกับสิ่งมีชีวิตจำพวกเปรต พวกนี้เป็นโอปปะปาติกะ หรือพวกที่กำเนิดโดยดวงจิตผุดขึ้นเอง อาศัยอยู่ในโลกทับซ้อนกับเรา และเปรตนั้นอยู่ในเปรตภูมิอันเป็นภพภูมิอันยากลำบาก หิวโหย ทรมานอันเนื่องจากกรรมไม่ดีที่ตนได้ทำครั้งมีชีวิตเป็นมนุษย์ แต่ทว่า มีเปรตประเภทหนึ่งที่กลับมีลักษณะแปลกไปจากเปรตตัวสูงโย่งปากเล็กเท่ารู้เข็มที่เรารู้จักกัน วันนี้ เราจะมาดูตำนานของ เวมานิกเปรตกัน

เวมานิกเปรต แปลว่าเป็นเปรตผู้มีวิมาน กล่าวว่าเป็นเปรตที่มีความเป็นอยู่ลำบากน้อยที่สุดมากกว่าเปรตประเภทอื่นๆ ในยามกลางวันจะต้องถูกทรมาน ฉีกกินกัดทึ้งร่างกายของตนเองมากมาย สร้างความเจ็บปวด บางครั้งก็จะมีจักรตัดหัวบั่นหัวด้านบนของมันบ้าง ร่างกายสูงโย่งน่าเกลียดดูอัปลักษ์ ไม่สามารถกินอาหารชนิดอื่นๆ ได้เลย จึงมีความทุกข์มาก

 

ทว่า เมื่อเข้าสู่ยามราตรี เปรตเหล่านี้จะกลับมีกายทิพย์สวยงามคล้ายเทวดา สามารถเสวยสุขทิพย์ทำให้ลืมความเจ็บปวดลงได้ แต่ก็จะมีระยะเวลาอยู่ชั่วคราว เมื่อกลางวันกลับมา ก็ต้องกลับไปทรมานต่อ กายทิพย์ที่เคยมีจัดหายไปกลายเป็นร่างอันน่าเกลียดมาทรมานตนเองต่อไปจนกว่าจะสิ้่นกรรม

เหตุที่ต้องมาเกิดเป็นเปรตเหล่านี้ มีเล่าไว้ในไตรภูมิว่า ครั้งหนึ่งในกรุงแห่งหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่ผู้พิพากษาคนหนึ่ง ตัดสินคดีความบนอคติมีความไม่เป็นธรรม เขามักจะตัดสินคนที่เห็นว่าไม่สมควรให้ชนะคดีแม้คนผู้นั้นจะบริสุทธ์หรือถูกต้อง การตัดสินนั้นเป็นไปอย่างไม่เที่ยงธรรมอยู่เรื่อยไป

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อถึงวันรักษาศีลอุโบสถ (ศีล 8) พระราชาประจำเมืองเรียกเหล่าข้าราชการและขุนนางในสังกัดทั้งหมดมาเข้าเฝ้าเพื่อชวนกันมารักษาศีลอุโบสถ เจ้าหน้าที่คนนั้นได้ถูกถามว่าได้รักษาศีลบ้างหรือไม่ เขาเองไม่เคยรักษาศีลมาก่อน แต่ก็หากตอบไปตามจริงผู้คนจะครหาและอาจจะเป็นที่น่าละอายได้ 

เพื่อนคนหนึ่งที่ทราบถึงความจริง ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็พยายามชวนคุยเลียบเคียงให้ชายผู้นั้นหันมารักษาศีล จึงได้กล่าวไปว่า หากเป็นเช่นนั้นจงอย่าทานอาหารในยามเย็นเป็นต้นไปถึงเช้าจึงกลับมากินอาหารได้ หากทำได้สำเร็จจะได้บุญ

ชายผู้พิพากษานั้นจึงทำตาม แต่เพราะการไม่เคยอดอาหารมาก่อนจึงเป็นลมขาดอาหารตายไปในที่สุด จากผลกรรมดีที่รักษาศีล 8 ในข้อที่ 6 (วิกาลโภชนา ว่าด้วยการไม่ทานอาหารเย็นในยามวิกาล) จึงได้มีสมบัติและนางฟ้ามาคอยบริการเป็นบริวารในยามกลางคืน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะหายไปในยามกลางวัน และก็ต้องรับกรรมไม่ดีเพราะการตัดสินคดีอันไม่เป็นธรรม จึงต้องมาเป็นเปรตในยามกลางวันคอยหมั่นกินเนื้อตัวเองทรมานตนไปจนกว่าจะสิ้นกรรม

การรับสินบน ตัดสินคดีอันไม่เป็นธรรม ถึงตอนที่คุณทำไปครั้งยังมีชีวิตจะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าหากต้องตายตกไปจากโลกมนุษย์แล้ว คุณจงระวังกรรมเหล่านั้นย้อนกลับมาส่งผลให้ดี คุณอาจจะไม่ได้สุขสบายก็เป็นได้ 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
samuraimasterj's profile


โพสท์โดย: samuraimasterj
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: bedroomeyes
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ไข่ผำ" พืชจิ๋ว ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก"กองปริศนา" ปริศนาของเวทมนตร์ที่อาจอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ไข่ผำ" พืชจิ๋ว ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากคลังฟันธง! "ดิไอคอน" เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ต้องครบ 3 เงื่อนไข ร่วมวง DSI สรุปสำนวนคดี"กองปริศนา" ปริศนาของเวทมนตร์ที่อาจอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิดใครบอกว่า สัตว์น้ำไม่นอน วาฬนอน พิสูจน์ว่าปลาก็นอนเหมือนเรา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด Creepy Info: ท่องตำนานสยองขวัญ
10 สัตว์โลกที่เคยถูกเข้าใจว่าเป็นสัตว์ประหลาดในนิทานเท่านั้น พาร์ท 2มนุษย์กิ้งก่าแห่งสเก็ปออร์: ความสยองใต้ผิวตะปุ่มตะป่ำเลอ มาร์คเช่ เดส์ เฟติเชอร์ส ตลาดวูดูแห่งโตโก10 สัตว์โลก ที่เคยถูกเข้าใจว่าเป็นสัตว์ประหลาด ในนิทานเท่านั้น พาร์ท 1
ตั้งกระทู้ใหม่