4 วิธีลดกลิ่นตัว
หน้าร้อนแบบนี้นอกจากสภาพอากาศที่แสนจะร้อนแรงจนแทบคลั่งแล้ว กลิ่นตัวก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้คนคลั่งได้ไม่แพ้กัน การมีกลิ่นตัวซึ่งเป็นกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับสาเหตุต่างๆ เช่น การหลั่งของต่อมเหงื่อมากเกินไปและพฤติกรรมการกินที่ไม่ดี หากไม่เช็ดหรือทำให้เหงื่อแห้ง กรดไขมันไม่อิ่มตัวในเหงื่อจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียและจุลินทรีย์บนผิวหนัง ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นตัวได้ง่าย นอกจากนี้หากผู้ที่มีกลิ่นตัวเล็กน้อยไม่ใส่ใจกับการรับประทานอาหารของตนและมักรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดและระคายเคือง น้ำตาลและน้ำมันในอาหารเหล่านี้อาจทำให้กลิ่นตัวรุนแรงขึ้น บางคนใช้วิธีฉีดน้ำหอมที่มีกลิ่นแรง แต่การผสมผสานระหว่างกลิ่นน้ำหอมที่แรงเกินไปและกลิ่นตัวจะทำให้กลิ่นแย่ลง
กลิ่นตัวนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายโดยตรง แต่กลิ่นฉุนและไม่พึงประสงค์นี้สามารถก่อให้เกิดปัญหาต่อชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้เกิดความผิดปกติทางจิตได้ มาดู 4 วิธีที่ช่วยลดกลิ่นตัวกัน
- สวมเสื้อผ้าหลวมและดูดซับเหงื่อ
ผู้ที่มีกลิ่นตัวควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่ดูดซับเหงื่อได้ เนื่องจากเหงื่อของผู้ที่มีกลิ่นตัวมีกรดไขมันสูงกว่าคนทั่วไป หากเสื้อผ้าคับเกินไปหรือไม่ดูดซับเหงื่อ เหงื่อก็จะระเหยไม่ทัน ทำให้มีกลิ่นฉุน กลิ่นตัวมีกลิ่นเหม็น ยิ่งนาน กลิ่นตัวก็จะยิ่งแย่ลง
- ทานอาหารรสไม่จัด
อาหารประจำวันของผู้ที่มีกลิ่นตัวควรทานอาหารรสไม่จัด หากทานอาหารเผ็ดเกินไปและทานเผ็ดเป็นเวลานานจะไม่เพียงส่งผลเสียต่อสุขภาพของอวัยวะและหลอดเลือดของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อหลั่งเหงื่อมากขึ้นอีกด้วย หากไม่รีบทำให้เหงื่อแห้งจะส่งผลให้กลิ่นตัวแย่ลง โดยเฉพาะในกรณีที่มีความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ หากไม่ควบคุมอาหาร กลิ่นตัวก็จะยิ่งแย่ลงไปอีก
- รักษาความสะอาดและสุขอนามัย
สำหรับผู้ที่มีกลิ่นตัวไม่รุนแรง อาการจะดีขึ้นได้มากโดยการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เช่น อาบน้ำทุกวัน และเปลี่ยนชุดชั้นในบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาเหงื่อออกมากควรเปลี่ยนให้ทัน
ขณะเดียวกันก็ควรรักษาบริเวณที่มีต่อมเหงื่อ Apocrine เช่น รักแร้ ให้สบายและแห้งด้วย ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นตัวได้อย่างมาก หากสามารถใช้น้ำหอมระงับเหงื่อได้กลิ่นตัวก็จะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- การผ่าตัดรักษา
สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงสามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ เช่น การผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งมีแผลจากการผ่าตัดน้อยและฟื้นตัวได้เร็ว แต่หากยังคงมีกลิ่นตัวหลังจากกำจัดต่อมเหงื่อออกจากรักแร้แล้ว อาจต้องเข้ารับการศัลยกรรมพลาสติกหรือการผ่าตัดทั่วไป การผ่าตัดคือการกรีดรักแร้ทั้งสองข้างประมาณ 1 ถึง 2 ซม. เพื่อเอาต่อม Apocrine ที่รักแร้ออก แล้วจึงเย็บแผลเข้าด้วยกัน วิธีนี้สามารถกำจัดกลิ่นตัวได้มากกว่า 90% แต่อาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้หลังการทำศัลยกรรมพลาสติกหรือการผ่าตัด ควรพูดคุยปรึกษาแพทย์ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจ