เอเชียครองแชมป์ " ทวีปแห่งวิบัติภัย " สภาพอากาศรุนแรง มากสุดในโลก
ประเทศไทยของเรานั้นถูกนำไปเปรียบเที่ยบกับประเทศอื่นๆอยู่เป็นเนืองๆทั้งด้านโน้นทีทางด้านนี้ที ที่เป็นประเด็นที่พอจำกันได้ก่อนหน้านี้ก็เรื่องอาหาร ใช่แล้วเรื่อง แกงไตปลา นั่นแหละ และนั่นมันถูกเปรียบเทียบในระดับประเทศ คราวนี้จะถูกเปรียบเทียบกันในระดับทวีปเลยทีเดียวโดยสำนัก WMO หรือ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก โดยการประมวลผลจากตลอดทั้งปีที่แล้ว (2566) เรื่องการเกิดภิบัติภัย
ปรากฏว่าเอเชียของเราชนะเลิศ เข้าวินไปด้วยวิบัติภัยรวมจำนวน 79 ครั้ง จัดเต็มตั้งแต่ ภัยแล้ง พายุ น้ำท่วม ไปจนถึงหิมะและลูกเห็บตกต่ำกว่าปกติ ซึ่งภัยพิบัติเหล่านั้นเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมของโลกแทบทั้งสิ้นและเป็นปีที่มีอุณหภูมิสูงสุดนับตั้งแต่จดบันทึกมาด้วย
ประเทศไทยเองก็ถูกระบุถึงด้วยเช่นกันในเรื่องอุณหภูมิที่สูงมากในจังหวัดตาก คือวัดอุณหภูมิได้ 44.6 องศาเซลเซียสในวันที่ 15 เมษายน 2566 (ในช่วงสงกรานต์อีกแล้ว) และในเดือนต่อมาก็ถึงคราวกรุงเทพที่จะได้รับการจารึกบ้างว่าร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา คือ วัดอุณหภูมิได้ 41 องศาเซลเซียสในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566
ไม่เฉพาะกรุงเทพฯของเราที่ทำสถิติใหม่เรื่องอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น แต่มันเกิดขึ้นตั้งแต่ไซบีเรีย (ดินแดนนี้ผมเป็นห่วงที่สุด กลัวคาร์บอนกับมีเทนที่อยู่ใต้แผ่นดินแถวนั้นจะรั่วไหลออกไปสู่สภาพแวดล้อมและชั้นบรรยากาศ) ไปจนถึงเอเชียกลาง
ส่งผลกระทบกันเป็นลูกโซ่นับตั้งแต่เทือกเขาหิมาลัยที่มีปริมาณน้ำฝนและหิมะลดลง บางภูมิภาคของจีนและทิเบตก็แล้งจัดปลูกอะไรไม่ขึ้น ในขณะที่บางภูมิภาคของจีนน้ำก็กลับท่วมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าจะเปรียบเทียบเรื่องนี้กันอีก เอเชียคงไม่ต้องติดโผอีกนะ อันที่จริงก็ไม่อยากให้ที่ไหนติดโผเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่ามันจะเกิดภัยพิบัติขึ้นที่ใดก็ตามมันมักจะส่งผลต่อทั่วโลกโดยรวมอยู่แล้วไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม