ไทย-คาซักสถาน ลงนามตกลงไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวระหว่างกัน
วันที่ 24/4/2567 ประเทศไทยได้บรรลุข้อตกลงการเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าระหว่างประเทศไทยและคาซัคสถานถือเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ด้วยการส่งเสริมการติดต่อระหว่างประชาชนของ 2 ประเทศและอำนวยความสะดวกในการเดินทางที่ง่ายขึ้น ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งลงนามในกรุงเทพฯ ผลของข้อตกลงคือ ประชาชนทั้ง 2 ประเทศอยู่ได้ในประเทศไทยและคาซักสถาน 30 วัน โดยรัฐมนตรีต่างประเทศไทย คือ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร และรัฐมนตรีต่างประเทศคาซัคสถาน นายมูรัต นูร์ทเลอ อนุญาตให้นักเดินทางที่มีหนังสือเดินทางที่มีอายุอย่างน้อย 6 เดือนสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 30 วันต่อครั้ง
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ:
ข้อตกลงการเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าคาดว่าจะมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมากสำหรับทั้งประเทศไทยและคาซัคสถาน โดยเฉพาะตลาดการค้าที่เข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น ธุรกิจต่างๆ จะได้รับประโยชน์จากโอกาสทางการค้าและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น คาซัคสถานซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยในเอเชียกลาง คาดว่าจะมีการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรม การผลิต และการท่องเที่ยว ในทำนองเดียวกัน ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดของคาซัคสถานมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านต่างๆ เช่น พลังงาน แร่ธาตุ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
การส่งเสริมการท่องเที่ยว:
วัตถุประสงค์หลักประการหนึ่งของข้อตกลงการเดินทางปลอดวีซ่าคือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและคาซัคสถาน เนื่องจากมีการยกเว้นข้อกำหนดด้านวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศ การเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศจึงคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวคาซัคที่กำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทางกลับกัน สถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายของคาซัคสถาน รวมถึงภูเขาอันงดงาม ทะเลสาบอันเงียบสงบ และเมืองที่มีชีวิตชีวา มอบจุดหมายปลายทางอันน่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่แสวงหาการผจญภัยครั้งใหม่
การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม:
นอกเหนือจากผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแล้ว ข้อตกลงการเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าคาดว่าจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความเข้าใจระหว่างไทยและคาซัคสถานมากขึ้น การติดต่อระหว่างประชาชน 2 ประเทศที่เพิ่มขึ้นผ่านการท่องเที่ยว