ถุงยางอนามัยแตกและขาด สาเหตุเกิดจากอะไร??
ถุงยางอนามัยแตกและขาด สาเหตุเกิดจากอะไร??
ทําไมใส่ถุงยางอนามัยแล้วถึงยังมีโอกาสท้อง ไม่มีวิธีการคุมกําเนิดไหนร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกวิธีมีความผิดพลาดได้ทั้งสิ้น แล้วสาเหตุหนึ่งของการใส่ถุงยางอนามัยแล้วมีโอกาสตั้งครรภ์ก็คือถุงยางอนามัยแตกขาดรั่วหรือทำไม่ถูกวิธีนั่นเอง สาเหตุที่ทําให้ถุงยางอนามัยแตกได้นั้นมีดังนี้
1. เลือกขนาดไม่เหมาะสม ขนาดปกติของชายไทย ก็คือไซส์ 49 กับ 52 และบางส่วนมีไซส์ 56 ถ้าเกิดคุณเลือกขนาดที่มันเล็กเกินไประหว่างการทํากิจกรรมมันมีโอกาสสูงที่จะแตกได้ แต่ถ้าคุณแบบใหญ่ๆไว้ก่อน ถ้ามันใหญ่กว่าขนาดจริงมากเกินไป มันมีโอกาสที่จะเลื่อนหลุดขณะที่คุณทํากิจกรรมได้เช่นกัน
2. คุณใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุ คือบางคนซื้อไว้เยอะหรือว่าซื้อไว้เก็บไว้นานไม่ค่อยได้ใช้ ก็เก็บจนลืม ว่าง่ายๆพอถึงคราวฉุกเฉิน จะใช้ก็เอาออกมาใช้เลย คุณต้องดูวันหมดอายุก่อนนะ เพราะว่าปกติแล้วทุกอย่างมันมีวันหมดอายุ ถ้าเกิดหมดอายุแล้วมันมีโอกาสสูงที่มันอาจจะรั่วซึมขณะที่คุณใช้งานได้นะ โดยปกติแล้วถุงยางอนามัยที่ได้มาตรฐาน มอก. จะมีวันหมดอายุอยู่ถ้าไม่อยู่ที่ตัวกล่อง ก็จะอยู่ที่ตัวซองของถุงยางอนามัยเลย โดยปกติแล้วถุงยางอนามัยจะมีอายุประมาณ 5 ปี คุณลองดูดีๆก่อนใช้
3. การเก็บถุงยางอนามัย คุณเก็บถุงยางอนามัยกันไว้ที่ไหน ส่วนใหญ่เลย มักจะเก็บไว้ในรถยนต์ โดยเฉพาะลิ้นชักหน้ารถยนต์ ใช้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ก็เลยอยากบอกว่าในรถยนต์ มันมีอุณหภูมิสูง ก็คือความร้อนนั่นเอง เพราะเราไม่ได้บอกว่าจอดรถอยู่ในร่มตลอดเวลา ความร้อนจะทําให้ถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพเร็วหรืออาจจะหมดอายุก่อนวันหมดอายุเขียนไว้ข้างกล่อง แล้วอีกทีหนึ่งที่ฮอตมากและมักจะเกิดปัญหา ก็คือเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์ ถ้าคุณเก็บเป็นกล่องแบบนี้ไปเลยก็คือโอเค แต่ส่วนใหญ่คุณจะแก้แล้วคุณก็เก็บไว้เฉพาะตัวข้างในถุงยาง แล้วบางทีบางคนก็มีเหรียญมีบัตรอะไรต่างๆ มันอาจจะมีการเสียดสีได้ แล้วถุงยางอนามัยอาจจะซึมหรือขาด ที่คุณมองไม่เห็นฉะนั้นสองที่นี้ เป็นสาเหตุที่ทําให้ถุงยางอนามัยขาดรั่วซึมหรือแตกได้นะ
4. ถุงยางอนามัยขาดตั้งแต่ก่อนใช้ สาเหตุส่วนใหญ่ที่ขาดคือขาดในขณะที่แกะ ด้วยความรีบร้อนในขณะนั้นนะ ไม่ได้คิดอะไร ใช้ฟันแกะกับเล็บเป็นส่วนใหญ่ สองอย่างนี้แหละที่ทําให้ขาดจริงๆแล้วถุงยางอนามัยเขาออกแบบมาให้แกะแล้วฉีกง่ายนะ โดยเฉพาะแบบส่วนใหญ่มันจะมีรอยปุๆอยู่แล้ว เป็นรอยหยักๆเพื่อให้คุณฉีกได้ง่าย บางคนรีบร้อนใช้ฟัน หรือเล็บนี่แหละ อาจจะแบบไปสะกิดไปเกี่ยวเข้า มันอาจจะเกิดปัญหารั่วหรือซึมได้นะ ซึ่งอันนี้ล่ะเป็นสาเหตุอีกหนึ่งสาเหตุที่ทําให้ถุงยางอนามัยขาดตั้งแต่ก่อนเริ่มใส่
5. การเลือกใช้เจลหล่อลื่น ให้เลือกเจลหล่อลื่นชนิดที่ทํามาสําหรับใช้กับถุงยางอนามัย มีขายทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อเลย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนก็แล้วแต่ แต่ห้ามใช้สารอย่างอื่นแทนเจลหล่อลื่นนะ ไม่ว่าจะเป็นโลชั่นทาตัวน้ำมันทาตัว น้ำมันพืช พวกนี้จะทําให้ถุงยางอนามัยแตกขาดได้
6. สอดใส่ลําบาก ไม่ว่าจะแบบว่าเกิดภาวะจิ๋มล้อก ภาวะที่มันฟิตมาก แบบหดเกร็งไม่สามารถใส่ได้ ไม่มีอารมณ์ร่วม ขาดน้ำหล่อลื่นหรือว่ามันแห้งผากหรือว่าคุณใส่ตอนที่มันแห้ง พวกนี้มันจะมีผลในการทํากิจกรรม เพราะว่าอาจจะทําให้ถุงยางแตกได้นะ ถ้าในกรณีที่ช่องคลอดแห้ง ที่เกิดจากการใช้ยาคุมกําเนิดเป็นเวลานานนะหรือว่าเข้าสู่ภาวะใกล้วัยทองแล้ว อันนี้ใช้เจลหล่อลื่นร่วมได้ หรือในกรณีอื่นๆ คุณอาจจะต้องมีการเล้าโลม เพื่อให้มันมีน้ำหล่อลื่นออกมาก่อนนะ เพราะไม่งั้นมันมีโอกาสสูงที่ถุงยางอนามัยจะแตกได้
7. ใช้ถุงยางอนามัยที่ไม่มีคุณภาพเสื่อมคุณภาพ และการใช้ถุงยางอนามัยปลอม มันมีถุงยางอนามัยปลอมกระจายเกลื่อนในท้องตลาดนะ บางคนเห็นแล้วราคาถูกก็เลยซื้อ ถุงยางอนามัยแบบตามอินเตอร์เน็ต โดยไม่ได้เช็ค เอาจริงๆถุงยางอนามัยถือว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ ต้องขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยานะ โดยจะมีเครื่องหมายเป็น อย. แล้วก็ต้องมีมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือ มอก.อีกด้วย เพราะถือว่าสําคัญ และจําเป็นมาก แล้วก็จะต้องมีระบุวันผลิต วันหมดอายุ บอกขนาดว่าเป็น 49 52 หรือ 56 แล้วก็จะมีรายละเอียดเพิ่มเติม เสียง ผิวเรียบ ผิวขรุขระ มีสารหล่อลื่นอะไรแบบนี้ และที่สําคัญก็คือว่าทุกชิ้นผ่านการทดสอบด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ถามว่ามันจําเป็นยังไง เพราะว่ามันจะเป็นการการันตีได้ในระดับนึง ว่าถุงยางอนามัยนี้มันจะไม่แตกขาดก่อนที่คุณจะแกะออกมาใช้