กลิ่นแป้งและความทรงจำ
กลิ่นแป้งและความทรงจำ
#อักษราลัย
กลิ่นแป้งเด็กลอยมาแตะจมูกอีกครั้ง แพรวิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องพี่พลอยทันที เธอคุ้นเคยกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ นี้ดี มันคือกลิ่นแป้งที่พี่สาวใช้เป็นประจำ กลิ่นที่พี่บอกว่าเป็นกลิ่นแรกที่ได้สัมผัสตอนอุ้มแพรครั้งแรกที่โรงพยาบาล
“พี่พลอยคะ” แพรเรียกพลางเปิดประตูห้อง ภาพคุ้นตาปรากฏขึ้น พี่สาวในชุดนักเรียนสีกรมท่ากำลังหวีผมยาวสีดำอยู่หน้ากระจก กลิ่นแป้งเข้มขึ้นจนแทบสัมผัสได้ เหมือนทุกเช้าที่พี่แต่งตัวให้แพรก่อนไปโรงเรียน คอยผูกโบจัดทรงผม และโรยแป้งเบา ๆ ที่คอ “น้องแพรต้องสวยเสมอนะคะ เพราะน้องคือความภูมิใจของพี่”
ทุกวันในช่วงบ่ายสามโมงครึ่ง ผู้ชายในชุดกาวน์ขาวจะมารับพี่พลอยไปโรงพยาบาล แพรแอบจดทุกอย่างลงในสมุดบันทึกปกสีชมพูที่พี่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่แล้ว “สำหรับน้องตัวน้อยของพี่” พี่พลอยเขียนไว้ที่หน้าแรก พร้อมวาดรูปหัวใจเล็ก ๆ เต็มหน้า เหมือนที่เคยวาดให้ทุกครั้งในการ์ดวันเกิดของแพร
“แม่คะ ทำไมพี่พลอยต้องไปหาหมอทุกวันเลย” แพรเคยถามแม่ครั้งหนึ่ง แต่แม่เพียงกอดเธอแน่น น้ำตาคลอ ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาแล้วบอกให้ไปทำการบ้าน
“เดี๋ยวพี่พลอยกลับมาแล้วจะได้ช่วยสอนนะลูก” แต่พี่ไม่ได้กลับมาช่วยสอนการบ้านอีกเลย
เธอใช้เวลาสามอาทิตย์กว่าจะกล้าแอบหยิบกล้องถ่ายรูปของพี่ออกมาจากห้อง ห้องที่ไม่มีใครกล้าเปิดประตูเข้าไปนานกว่าสามเดือนแล้ว นอกจากแพร กลิ่นแป้งของพี่ยังคงอบอวลอยู่ที่นั่น บางคืนเธอแอบเข้าไปนอนบนเตียงพี่ ซุกหน้ากับตุ๊กตาหมีที่พี่กอดเป็นประจำ พยายามจินตนาการว่าพี่กำลังเล่านิทานก่อนนอนให้ฟังเหมือนเคย
ทุกอย่างในห้องยังอยู่คงเดิม ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลที่มีรอยน้ำตาแห้งกรัง รูปถ่ายครอบครัวในกรอบสีทองที่ถ่ายกันเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา พี่ยืนกอดแพรไว้ ยิ้มกว้างจนตาหยี แม้แต่ปฏิทินก็ยังค้างอยู่ที่วันที่ 15 มิถุนายน วันที่กลิ่นแป้งของพี่เริ่มจางลง วันที่พ่อซื้อมอเตอร์ไซค์สีแดงสดให้พี่เป็นของขวัญสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
“พี่ต้องไปแล้วนะ” เสียงพี่พลอยดังมา พร้อมกลิ่นแป้งที่เข้มขึ้น “น้องแพรเก่งมากแล้ว ต้องดูแลแม่แทนพี่นะ”
“พี่อย่าไป...” แพรพยายามเอื้อมมือคว้า แต่มือกลับผ่านร่างพี่ไป
“แพร...” เสียงแม่เรียกมาจากประตู ดวงตาแดงก่ำ มือถือถาดอาหารที่แทบไม่ได้แตะต้อง “หนูคุยกับใครลูก? สองอาทิตย์แล้วนะที่ลูกไม่ยอมกินข้าว แม่เป็นห่วง”
“ก็คุยกับพี่พลอยไงคะ” แพรตอบพลางชี้ไปที่กระจก แต่ภาพสะท้อนมีเพียงเธอคนเดียว ในชุดนักเรียนประถมปีที่ 6 ที่ยับยู่ยี่เพราะใส่ติดต่อกันสามวัน ผมสั้นประบ่าถูกรวบไว้ด้วยกิ๊บสีชมพูที่พี่ให้เป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย
กล้องในมือแพรมีภาพที่แอบถ่ายไว้ตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่...ทุกรูปมีเพียงทางเดินว่างเปล่าในโรงพยาบาล ไม่มีทั้งชายในชุดกาวน์ ไม่มีทั้งพี่พลอย มีแต่เงาดำ ๆ ที่แพรคิดว่าเป็นพี่
“ลูกแม่...” แม่วางถาดอาหารลง เดินเข้ามากอดร่างผอมบางของแพร น้ำตาไหลอาบแก้ม “เราไปหาคุณหมอกันนะ แม่ทนเห็นลูกเป็นแบบนี้ไม่ไหวแล้ว”
ในห้องตรวจของ ดร.สมศักดิ์ มีเพียงเสียงนาฬิกาติ๊ก ๆ และเสียงพัดลมหมุนเบา ๆ แพรจ้องป้ายชื่อบนโต๊ะ 'ดร.สมศักดิ์ จิตแพทย์' ชายในชุดกาวน์ขาวที่เธอเห็นทุกวันนั่งอยู่ตรงหน้า แต่ไม่มีกลิ่นแป้งที่คุ้นเคย เขาไม่ใช่คนที่พี่พลอยมาพบ
“หนูรู้ไหม ทำไมพี่พลอยถึงต้องมาโรงพยาบาลบ่อย ๆ” คุณหมอถามเสียงนุ่ม
แพรส่ายหน้า มือกำสมุดบันทึกแน่น ในใจสับสนระหว่างอยากรู้ความจริงกับกลัวความจริง
คุณหมอหยิบหนังสือพิมพ์เก่าออกมา 'อุบัติเหตุรถชนรุนแรง นักเรียน ม.4 เสียชีวิต' ภาพถ่ายข่าวแสดงให้เห็นรถจักรยานยนต์สีแดงคันที่พ่อเพิ่งซื้อให้พี่พลอย กองอยู่ข้างทาง
ความทรงจำที่ถูกเก็บกดไว้ทะลักเข้ามาพร้อมกับกลิ่นแป้ง เสียงไซเรนรถพยาบาล เสียงแม่กรีดร้อง พ่อทรุดลงกับพื้น พิธีศพที่เธอไม่ยอมเข้าร่วม ได้แต่แอบดูจากหลังต้นไม้ กลิ่นดอกไม้จันทน์ที่กลบกลิ่นแป้งของพี่จนหมดสิ้น
“หนูโกรธพี่พลอยไหม ที่จากไปแบบนี้?” คุณหมอถามเบา ๆ
แพรสั่นศีรษะ น้ำตาเริ่มไหล “หนูโกรธตัวเอง... วันนั้นหนูงอนพี่ ไม่ยอมกอดพี่ก่อนออกจากบ้าน เพราะพี่ไม่ซื้อตุ๊กตาให้...”
“บางครั้ง สิ่งที่เรารักก็ยังอยู่กับเราเสมอ แม้จะไม่ได้อยู่ตรงหน้า...” ดร.สมศักดิ์พูดเบา ๆ “และพี่พลอยก็คงรู้ว่าน้องรักพี่มากแค่ไหน”
แพรยกมือขึ้นแตะแก้ม น้ำตาไหลออกมาร้อนผ่าว เธอหันไปที่ประตู เห็นพี่พลอยยืนยิ้มให้ครั้งสุดท้าย พร้อมกับกลิ่นแป้งที่ค่อย ๆ จางหาย
“พี่พลอย...” เสียงแพรสั่นเครือ “หนูคิดถึงพี่ หนูขอโทษ...”
แม่เข้ามากอดเธอไว้แน่น คราวนี้การรักษาได้ผลดี แพรยอมรับความจริง และไม่พยายามดิ้นหนี เธอซบหน้าลงกับอกแม่ ปล่อยให้ความเศร้าที่เก็บกดไว้ไหลออกมา “แม่คะ... เรากลับบ้านกันเถอะ พี่พลอยบอกว่าหนูต้องดูแลแม่”
สมุดบันทึกปกสีชมพูตกลงที่พื้น เผยให้เห็นข้อความที่เขียนไว้ด้านใน “ถึงน้องรัก ไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหน กลิ่นแป้งนี้จะคอยเตือนให้หนูรู้ว่าพี่รักหนูเสมอ...พี่พลอย”
กลิ่นแป้งเด็กลอยมาแตะจมูกอีกครั้ง แต่คราวนี้แพรไม่วิ่งตามหา เพราะเธอรู้แล้วว่าความรักและความทรงจำจะอยู่ในใจเธอเสมอ เหมือนกลิ่นแป้งที่ยังคงอบอวลอยู่ในห้องของพี่สาว เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ จูงมือแม่ “เรากลับบ้านกันเถอะคะ วันนี้หนูจะช่วยแม่ทำกับข้าว เหมือนที่พี่พลอยชอบทำ”
คุณหมอยิ้มมองตามหลังแม่ลูกที่เดินจากไป แพรกำสมุดบันทึกปกสีชมพูแน่น รอยยิ้มและน้ำตาของพี่พลอยในภาพถ่ายสุดท้ายยังคงชัดเจนในความทรงจำ
สามเดือนต่อมา
แพรนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งในห้องพี่พลอย มือค่อย ๆ เปิดสมุดบันทึกที่จดทุกเรื่องราวของพี่ไว้ วันนี้เธอตั้งใจจะเขียนบางอย่างเพิ่มลงไป
“ถึงพี่พลอย
วันนี้หนูกับแม่ทำความสะอาดห้องพี่ด้วยกัน แม่ร้องไห้นิดหน่อย แต่แม่ก็ยิ้มได้แล้วตอนเจอรูปพี่ หนูเอารูปพี่ใส่กรอบใหม่ไว้ที่โต๊ะ จะได้มองเห็นพี่ทุกวันตอนทำการบ้าน
พ่อเลิกดื่มเหล้าแล้วค่ะ แม่บอกว่าพ่อสัญญากับพี่ไว้ในวันเกิด หนูดีใจที่พ่อทำได้ พ่อกลับมาเป็นคนเดิมที่ชอบเล่านิทานให้หนูฟังแล้ว
ที่โรงเรียน หนูได้เป็นหัวหน้าห้องค่ะ เหมือนที่พี่เคยเป็น หนูจะพยายามเป็นพี่ที่ดีให้น้อง ๆ เหมือนพี่
แล้วก็... หนูขอโทษนะคะที่วันนั้นไม่ยอมกอดพี่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ หนูจะกอดพี่แน่น ๆ จะบอกรักพี่ทุกวัน
คุณหมอบอกว่าการคิดถึงคนที่เรารักไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราต้องมีชีวิตต่อไป หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเข้มแข็ง จะดูแลพ่อกับแม่ จะเรียนให้เก่ง ๆ หนูจะทำทุกอย่างให้พี่ภูมิใจ
รักพี่ที่สุดเลยค่ะ
น้องแพร”
เธอปิดสมุดบันทึกเบา ๆ พลางสูดลมหายใจลึก กลิ่นแป้งของพี่ยังลอยอวลอยู่ในอากาศ แต่คราวนี้มันไม่ได้ทำให้เธอเศร้าอีกต่อไป กลับกลายเป็นความอบอุ่นที่คอยห่อหุ้มหัวใจ เตือนให้รู้ว่าความรักของพี่ยังอยู่ที่นี่เสมอ
แพรลุกขึ้นยืน มองภาพตัวเองในกระจก เห็นเงาของพี่พลอยยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ แต่คราวนี้เธอไม่ร้องไห้ เธอยิ้มตอบ ก่อนจะเดินลงไปช่วยแม่ทำอาหารเย็น ปล่อยให้กลิ่นแป้งและความทรงจำอันแสนหวานยังคงอบอวลอยู่ในห้อง รอการกลับมาของเธอในวันพรุ่งนี้ และวันต่อ ๆ ไป
.......... >> ..........