รู้จักกับ บ้านดิน คืออะไร?
บ้านดิน คือ?
ในการ สร้างบ้านดิน เกิดจากภูมิปัญญา เป็นบ้านจากธรรมชาติ ที่สามารถหาวัสดุจากรอบข้าง นำมาสร้างเป็นบ้าน อาจจะใช้ดิน ที่อยู่ข้างบ้านผสานกับแรงกาย ค่อย ๆ ลงแรงสร้าง จนกลายเป็นบ้านคุณภาพ โดยใช้แรงทุนเพียงเล็กน้อย บ้านดินนั้น จึงเหมาะสำหรับการลงแรงช่วยกันสร้าง อาจใช้เวลาว่างในช่วงวันหยุดมาร่วมด้วยช่วยกัน การทำบ้านดินหนึ่งหลัง ยังช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานร่วมกันให้อบอุ่นอีกด้วย เพราะคนสร้าง คือ แรงกายจากสมาชิกในบ้านนั่นเอง
สร้างบ้านดิน ทำได้อย่างไร?
ขั้นตอนในการก่อสร้างบ้านดิน อาจจะแตกต่างจากการก่อสร้างบ้านทั่วไป เนื่องจากบ้านดิน ไม่มีระบบโครงสร้าง ใช้กำแพงรับน้ำหนัก เพื่อให้การดำเนินการก่อสร้างกระชับ ทำได้รวดเร็ว ดังนี้
- พื้นที่สำหรับปลูกบ้านดิน ควรเป็นพื้นที่ ที่น้ำท่วมไม่ถึง ไม่ใช่ทางน้ำไหลบ่า หากเป็นพื้นที่ถมดินใหม่ ควรถมทิ้งไว้ประมาณ 1 ปี หรือผ่านช่วงฤดูฝนสัก 1 ครั้ง
- ส่วนเรื่องการทำอิฐดิน สำหรับผู้ที่ออกแรงเป็นประจำ จะทำอิฐดินได้วันละ 70-100 ก้อน การตากอิฐดิน ใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน เมื่อตากอิฐได้ประมาณ 2-3 วัน ให้พลิกอิฐขึ้นตั้งทางด้านแนวนอน และทำการแต่งก้อนอิฐในช่วงเวลานี้ เพราะจะมีฝุ่นกระจายออกมาน้อย
- เมื่ออิฐแห้งสนิทดีแล้ว ควรนำอิฐมากองรวมกันไว้กลางบ้าน เพื่อความสะดวก และก่อกำแพงได้รวดเร็ว และการขนย้าย ควรทำเพียงครั้งเดียว จากบริเวณตากอิฐ มาที่กลางบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องทำรากฐานบ้านให้เสร็จ และถมดินให้เรียบร้อยก่อนขนย้ายอิฐดินขึ้นมากองไว้
ขั้นตอนในการก่อสร้างบ้านดิน อาจจะแตกต่างจากการก่อสร้างบ้านทั่วไป เนื่องจากบ้านดิน ไม่มีระบบโครงสร้าง ใช้กำแพงรับน้ำหนัก เพื่อให้การดำเนินการก่อสร้างกระชับ ทำได้รวดเร็ว ดังนี้
- พื้นที่สำหรับปลูกบ้านดิน ควรเป็นพื้นที่ ที่น้ำท่วมไม่ถึง ไม่ใช่ทางน้ำไหลบ่า หากเป็นพื้นที่ถมดินใหม่ ควรถมทิ้งไว้ประมาณ 1 ปี หรือผ่านช่วงฤดูฝนสัก 1 ครั้ง
- ส่วนเรื่องการทำอิฐดิน สำหรับผู้ที่ออกแรงเป็นประจำ จะทำอิฐดินได้วันละ 70-100 ก้อน การตากอิฐดิน ใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน เมื่อตากอิฐได้ประมาณ 2-3 วัน ให้พลิกอิฐขึ้นตั้งทางด้านแนวนอน และทำการแต่งก้อนอิฐในช่วงเวลานี้ เพราะจะมีฝุ่นกระจายออกมาน้อย
- เมื่ออิฐแห้งสนิทดีแล้ว ควรนำอิฐมากองรวมกันไว้กลางบ้าน เพื่อความสะดวก และก่อกำแพงได้รวดเร็ว และการขนย้าย ควรทำเพียงครั้งเดียว จากบริเวณตากอิฐ มาที่กลางบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องทำรากฐานบ้านให้เสร็จ และถมดินให้เรียบร้อยก่อนขนย้ายอิฐดินขึ้นมากองไว้
ประโยชน์ของการอยู่บ้านดิน
ประโยชน์ของการอยู่บ้านดิน ที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง หากคุณมีที่ตั้ง ที่สามารถสร้างได้ บ้านดิน ก็นับเป็นอีกทางเลือก ที่คุณจะได้พักผ่อนเคียงคู่กับวิถีธรรมชาติอย่างแท้จริง
- มีคุณสมบัติในการเป็นฉนวน บ้านดินสามารถรองรับภูมิอากาศหนาวจัด และร้อนจัดได้ดี โดยสามารถควบคุมอุณหภูมิ ระดับ 24-26 องศาเซลเซียส ได้ตลอดทั้งปี รวมถึงการดูดซึมความชื้นได้ดี ปกป้องบ้านจากความร้อน เนื่องจากอิฐดิน เป็นตัวป้องกัน เพราะมีความหนาแน่นมากกว่าอิฐมวลเบา ทำให้แสงแดดที่มากระทบ แพร่คลื่นความร้อนออกมา ได้น้อยกว่าบ้านผนังชนิดอื่น ๆ
- ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากวัสดุที่ใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นดิน ที่มีอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ และแทบไม่ต้องใช้ปูนซีเมนต์ในการก่อสร้าง ทำให้ช่วยลดการระเบิดภูเขาเอาปูนซีเมนต์ รวมถึงการทำลายป่า ตัดต้นไม้มาใช้งาน ในจำนวนมาก
- เรียบง่าย เมื่อเทคโนโลยี และนวัตกรรมเริ่มเติบโต คนรุ่นใหม่ จึงเริ่มห่างจากธรรมชาติมากขึ้น ทำให้การอยู่อาศัยบ้านดิน จะทำให้มนุษย์ได้เข้าใจถึงความเรียบง่าย ในการพึ่งพาตนเองอย่างแท้จริง
- ราคาถูก หากการสร้างบ้าน จำเป็นต้องใช้วัสดุมากมาย ที่ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ด้วยการสร้างบ้านดิน จะใช้เพียงดินเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บ้านดิน มีต้นทุนต่ำกว่ามาก ซึ่งในประเทศไทยนั้น ดินในแถบลุ่มน้ำภาคกลาง ก็เป็นดินเหนียวจำนวนมาก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นดินเหนียวปนทราย จึงทำให้ค่าใช้จ่ายการสร้างบ้านดิน ถูกลดลงไปจากวัตถุดิบที่มีอยู่ในธรรมชาติ
- มีความแข็งแรง ทนทาน บ้านดินที่สร้างขึ้นอย่างถูกวิธี จะสามารถมีอายุยืนนานถึงระดับ 1,000 ปี เนื่องจากความแข็งแรงของดินเหนียว ที่ช่วยยึดเกาะอย่างแข็งแรง
- ลดปัญหาสุขภาพ บ้านดินนั้น เป็นบ้านที่สร้างจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ทำให้ไม่ค่อยมีสารเคมีตกค้าง และยังสามารถอยู่เคียงคู่กับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
- ป้องกันปลวก เนื่องจากบ้านสมัยใหม่ ที่ใช้สร้างจะใช้วัสดุจากปูน และไม้จำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาปลวก กัดแทะไม้ แต่กับบ้านดินแล้ว ไม่มีเรื่องนี้มากวนใจอย่างแน่นอน
- ทนต่อไฟ ดินเหนียวนั้น มีประโยชน์ทางอ้อม คือ ไม่ติดไฟ แต่สิ่งที่ควรระมัดระวังต่อเรื่องไฟ คือ วัสดุที่ใช้มุงหลังคา หากใช้วัสดุฟางหญ้า ในการมุงหลังคา ก็อาจจะทำให้เกิดการติดไฟได้ง่ายนั่นเอง
- สร้างเองได้ การสร้างบ้านดิน สามารถสร้างเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีแบบโครงสร้างที่ถูกต้อง และมีฝีมือ มีทำเลที่ดี ซึ่งนอกจากจะสร้างได้ง่ายแล้ว ยังทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจ และทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะอยู่ในวิถีธรรมชาติอีกด้วย