หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แม่เจ้าบัวไหล แม่เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของน่านกับตำนานผ้าทอไม่เสร็จในละคร "รอยไหม"

โพสท์โดย varietyart

แม่เจ้าบัวไหล เป็นชายาองค์ที่ ๒ในเจ้าหลวงพิริยเทพวงษ์ อดีตเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์สุดท้าย แห่งราชวงศ์เทพวงศ์ สตรีผู้มีบทบาทจนได้รับการยกย่องให้เป็น "แม่เจ้าหลวง"

 

เจ้าบัวไหล เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๐ ที่เมืองนครน่าน เป็นธิดาคนสุดท้อง(ในจำนวน ๔ คน)ในพระยาไชยสงคราม เชื้อสายเจ้าเจ็ดตน อยู่ทางเมืองพะเยา กับ เจ้านางอิ่นคำ ชาวไทยอง

 

มีเจ้าเชษฐาและเชษฐภคินีร่วมอุทร ได้แก่ 

๑. เจ้าจอมแปง (เจ้านางของ ซึ่งเป็นชายาเดิมพระยาไชยสงครามได้ขอไปอุปการะที่พะเยา) 

๒. เจ้าเทพรส รสเข้ม (ฝาแฝดชายกับเจ้าจอมแปง) 

๓. เจ้านางสามผิว ที่ได้ชื่อว่าสามผิว เพราะมีผิวกายเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เช้า กลางวัน เย็น เป็นสีเขียว แดง และเหลือง (ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรงท้องร่วงตอนอายุ ๑๓ ปี เมื่อต้องตามบิดาลงไปแก้คดี )

๔. เจ้านางบัวไหล

 เหตุที่ได้ชื่อว่า"บัวไหล" เพราะตอนที่เกิดนั้น พระยาไชยสงครามถูกเรียกตัวสอบสวนจากเมืองน่านมายังกรุงเทพฯ เนื่องจากต้องคดี เรื่อง ช่วยเจ้าหลวงนครน่าน ยกพลไปกวาดต้อนตีเอาเมืองหัวพันห้าทั้งหกที่แคว้นสิบสองปันนา กวาดต้อนเชลยศึกชาวไทลื้อชาวไทยอง มาไว้ที่เขตนาน้อยเมืองน่าน ทำให้อังกฤษร้องเรียนต่อสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ ว่าพระยาไชยสงครามรังแกเมืองขึ้นของพม่า ซึ่งเวลานั้นเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ดังนั้นจึงต้องเดินทางโดยเรือขณะที่น้ำน่านนองเต็มฝั่ง บิดาเลยตั้งชื่อให้ว่า "บัวไหล" 

 

ต่อมาเมื่อพระยาไชยสงครามถูกไต่สวนตัดสินให้ปลดออกจากตำแหน่ง เจ้าไชยสงครามได้อพยพครอบครัวมาอยู่ที่เมืองแพร่ ตามคำชักชวนของเจ้าอินทวิชัย เจ้าหลวงเมืองแพร่ องค์ที่ ๓ แห่งราชวงศ์เทพวงศ์ (พ.ศ.๒๓๗๓-๒๔๑๕) แม่เจ้าบัวไหลจึงได้มาอยู่เมืองแพร่แต่เล็ก จนถึงสมัย เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือ เจ้าหลวงขาเค) เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์ที่ ๔ แห่งราชวงศ์เทพวงศ์ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ เจ้าบัวไหลได้รับการศึกษาอบรมเยี่ยงเจ้านายในสมัยนั้น ทั้งการเรียนภาษาไทยล้านนา และด้านขนบธรรมเนียมประเพณี จนทำให้มีจริยาวัตรที่งดงาม เฉลียวฉลาด รอบรู้ทั้งการบ้านการเมือง 

 

 เมื่อเจ้าบัวไหลโตเป็นสาว ได้เสกสมรสกับเจ้าน้อยเทพวงศ์ ซึ่งต่อมาเป็น เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์ที่ ๕ แห่งราชวงศ์เทพวงศ์ ภายหลังจากเจ้าน้อยเทพวงศ์ได้เลิกร้างกับเจ้าบัวถา มหายศปัญญา ชายาคนแรก ไม่มีโอรสธิดาด้วยกัน

 

 แม่เจ้าบัวไหล และเจ้าหลวงพิริยเทพวงษ์ ได้มีราชโอรส ราชธิดาร่วมกัน ๗ องค์

๑. เจ้ากาบคำ วราราช

๒. เจ้าเวียงชื่น (หรือ เมืองชื่น บุตรรัตน์)

๓. เจ้าสุพรรณวดี ณ น่าน

๔. เจ้ายวงคำ เตมียานนท์

๕. เจ้ายวงแก้ว เทพวงศ์

๖. เจ้าหอมนวล ศรุตานนท์

๗. เจ้าอินทร์แปลง หรืออินทร์แปง เทพวงศ์

พ.ศ. ๒๔๑๖ แม่เจ้าบัวไหลได้ปักคัมภีร์ด้วยด้ายไหมทองคำถวายวัดไชยอาราม (วัดพระบาทมิ่งเมือง)อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ มีข้อความบทหนึ่งเขียนว่า "ให้ได้เป็นยอดนารีเทียม ธ ท้าว ตนปราบด้าวธรณีแท้ดีหลีเทอะ" แปลว่า ขอปรารถนาเป็นกษัตริย์ผู้หญิง หรืออีกนัยหนึ่งคือเป็นมเหสีเคียงคู่เจ้าหลวง

 

พระคัมภีร์โบราณนี้ เป็นตัวอักษรธัมม์ล้านนา สร้างเมื่อปี จ.ศ.๑๒๓๕ (พ.ศ.๒๔๑๖) โดยในขณะนั้นแม่เจ้าบัวไหลมีอายุ ๒๓ ปี 

 

ปัจจุบันผ้าไหมคัมภีร์ดังกล่าวมีอายุ ๑๔๙ ปี 

 

นอกจากนี้ แม่เจ้าบัวไหลได้ปักผ้าม่าน และหมอนขวาน ตลอดจนเครื่องใช้ต่างๆ ถวายรัชกาลที่ ๕ จนเป็นที่โปรดปราน และได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดห้องพิเศษพร้อมทั้งพระราชทานชื่อว่า “ห้องบัวไหล” นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเป็นเกียรติประวัติอันสูงยิ่ง เพื่อแสดงถึงเจ้านายสตรีทางเหนือ เป็นผู้มีฝีมือในงานศิลปะปักเย็บอย่างยอดเยี่ยม

 

ซึ่งคุณสมบัติทักษะด้านการเย็บปักถักร้อย คงได้รับการสืบทอดมาจากแม่เจ้าอิ่นคำ ที่เป็นชาวยอง

 

แม่เจ้าบัวไหลได้รับการสถาปนาให้ดูแลเมืองแพร่ ก่อนที่เจ้าพิริยเทพวงษ์จะกลับจากราชการที่กรุงเทพมหานคร ชาวเมืองแพร่จึงเรียกขานเจ้าบัวไหลว่า "แม่เจ้าหลวง"

 

ซึ่งตรงตามคำกราบบังคมทูลของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้กล่าวไว้ว่า "บัวไหลเป็นผู้หญิงดีในเมืองลาวเฉียง เวลาเจ้านครแพร่ลงมากรุงเทพฯก็ว่าราชการบ้านเมืองแทนสามี"

 

ในปี พ.ศ. ๒๔๔๓ แม่เจ้าบัวไหล ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ ๓ ตติยจุลจอมเกล้า (ต.จ.) (ฝ่ายใน)

 

แต่ต่อมาวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๔๖ ถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องจากกรณีกบฏเงี้ยวเมืองแพร่ ดังที่ตีพิมพ์อยู่ในหนังสือราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๒๐ เพิ่มเติมแผ่นที่ ๒๘ วันที่ ๑๑ ตุลาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๒ (พ.ศ.๒๔๔๖) ดังต่อไปนี้

 

“ประกาศลัญจกราภิบาล ถอดบัวไหลออกจากสามัญสมาชิก ตติยจุลจอมเกล้า ด้วยบัวไหล ภรรยาน้อยเทพวงศ์ ไม่สมควรที่จะอยู่ในตำแหน่งสามัญสมาชิกา ตติยจุลจอมเกล้า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอดบัวไหลออกจากตำแหน่งสามัญสมาชิกาเรียกดวงตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์คืน และลบชื่อเสียจากพวกสามัญสมาชิกา ตั้งแต่วันที่ได้ออกราชกิจจานี้ไป วันที่ ๘ ตุลาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๒ (ลงพระนาม) พิทยลาภพฤฒิธาดา”

 

พ.ศ. ๒๔๕๔ แม่เจ้าบัวไหลเป็นแม่งานใหญ่ในการรับเสด็จสมเด็จพระพันปีหลวงคราวเสด็จเมืองแพร่

 

แม่เจ้าบัวไหลได้ครองเมืองร่วมกับเจ้าหลวงพิริยเทพวงษ์เป็นเวลา ๑๓ ปี (พ.ศ.๒๔๓๒ -๒๔๔๕) ก็เกิดการจลาจลกบฏเงี้ยวปล้นเมืองแพร่ เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๕ เจ้าหลวงพิริยเทพวงษ์ ต้องหลบภัยไปอยู่ที่เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว และไม่ได้กลับมาอีกเลย จนกระทั่งถึงแก่พิราลัยที่นั่น 

 

ส่วนแม่เจ้าบัวไหลพร้อมด้วยบุตรหลานได้อพยพไปอยู่กรุงเทพฯ ตามพระบรมราชโองการ ภายใต้การควบคุมดูแลของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ (พระยศขณะนั้น) เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เป็นเวลา ๔-๕ ปี จึงได้รับพระบรมราชานุญาตให้กลับคืนบ้านเมืองได้ 

 

เหตุการณ์กบฏเงี้ยวในเมืองแพร่ในครั้งนั้น ยังผลทำให้ เจ้าแม่เวียงชื่น พระธิดาของเจ้าหลวงพิริยเทพวงษ์ พร้อมด้วยสวามีและข้าทาสในเรือนรวมกว่า ๔๐ ชีวิต ตัดสินใจกินยาตายรวมกันในคุ้ม จนภายหลังคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ ได้รับการขนานนามว่าเป็นคุ้มที่เฮี้ยนที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

 

สำหรับภายหลังเหตุการณ์กบฏเงี้ยว คุ้มเจ้าหลวงมีการเปลี่ยนมือผู้ดูแลไปหลายหน่วยงาน ทำให้พบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ภายในคุ้ม ว่ามีการพบผ้าไหมอยู่ผืนหนึงที่ยังทอไม่เสร็จ ภายหลังทราบว่าคือ ผ้าไหมที่แม่เจ้าบัวไหล ทอเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ยังไม่แล้วเสร็จก็เกิดกบฏเงี้ยวเสียก่อน 

 

ในบั้นปลายของชีวิต แม่เจ้าบัวไหลได้ไปพำนักกับบุตรสาวคนเล็กและบุตรเขย ที่จวนข้าหลวงประจำจังหวัดเชียงราย และได้ถึงแก่อนิจกรรมที่นั่น เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙ รวมอายุได้ ๘๕ ปี 

หากใครได้เคยดูละครดังเรื่อง “รอยไหม” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ และได้เคยศึกษาประวัติคุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้มาอย่างดีแล้วละก็ จะทราบว่า”ผีอีเม้ย”ไปคล้ายคลึงกับเรื่องราวของ "ผีอีตู้" ข้าในคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ที่มีความรักต่อเจ้านายยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง โดยมีเรื่องเล่าว่า ในเหตุการณ์กบฏเงี้ยว อีตู้ โกรธแค้นแทนเจ้านายที่ถูกควบคุมความเป็นอยู่จากข้าหลวงบางคน จึงตัดสินใจหนีออกไปฆ่าลูกของนายอำเภอจนเสียชีวิต และถูกจับได้จนโดนโทษเฆี่ยนตีตัดหัวเสียบประจานกลางประตูเมือง 

ตำนานยังเล่าอีกว่า อีตู้ ได้กลายเป็นผีวิญญาณที่รอรับใช้ และรอคอยการกลับมาขอเจ้านายสุดที่รักที่คุ้มหลวงแห่งนี้ ทั้งนี้ละครเรื่องรอยไหม ในฉากที่อีเม้ย นำแสดงโดย คุณชุดาภา จันทเขตต์ ถูกเฆี่ยนตีจนตาย ก็ถูกถ่ายทำในคุ้มหลวงเมืองแพร่แห่งนี้เช่นกัน

 

นอกจากนี้เรื่องราวของผ้าไหมที่ยังถักทอไม่เสร็จสมบูรณ์ตามในละครรอยไหม ก็ถูกดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของเจ้านางบัวไหลนั่นเอง 

 

อ้างอิงข้อมูล

: ฮักล้านนา

: สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร เคยมีแนวคิดจะนำเสนอให้เป็น “เอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก”

 

ขอขอบพระคุณภาพ / ข้อมูล

Cr. ค้นคว้าและเรียบเรียง Phanwipa Munikanon

Cr. เจ้าเจ็ดตน

: Yoong Ja 

: ย้อนอดีตด้วยภาพ 

: กลุ่มภาพเก่าในอดีตที่มีคุณค่า

โพสท์โดย: varietyart
อ้างอิงจาก: ฮักล้านนา ย้อนอดีตด้วยภาพ
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
varietyart's profile


โพสท์โดย: varietyart
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: dorotee, varietyart, เจ้าหนูบู้บี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
มิตรภาพต่างศาสนา..เมื่อสาวมุสลิมมางานบวชเพื่อนสนิทยกพลขึ้นบก 6000 นาย ทำเอาพัทยาคึกคักอื้อหือ เสื้อตัวนี้ ทำจากใยแมงมุม บอกเลยอย่างเหนียว อย่างทนทานเลยเด้อ10อันดับตัวละครที่มีIQสูงที่สุดในโลก(อนิเมะ)!!เมื่อหนุ่มแต่งหน้าไม่เป็น..แต่อยากตามเทรนด์กับเขาดูบ้างร้อนนัก ก็ดับร้อน ด้วยผ้าขนหนู
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ครูไพบูลย์ หรือกงยูเมืองไทย อวดลุคใหม่โดนใจสาวแห่กรี๊ดด!"ไพบูลย์" สยบข่าวพรรคแตก ยัน "พปชร." ไร้กลุ่มก๊วน "บิ๊กป้อม" คือศูนย์รวมใจของคนในพรรคสุดยอดหนุ่มเตะต้นกล้วยเจาะยางด้วยท่า Calf kick ตามด้วยพลังหมัดเอาซะต้นกล้วยโค่นพี่บัวขาวเจอคู่แข่งก็คราวนี้แหละ10อันดับตัวละครที่มีIQสูงที่สุดในโลก(อนิเมะ)!!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บันเทิง ดารา
เผยโมเมนต์หวานของ "อาร์ม-โฟร์"..แถมยังโชว์แคปชั่น "แฟนฉัน" ด้วย"เสก โลโซ" เตือนสติดารานักร้อง..ดังแล้วอย่าลืมตัว จนลืมเก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่ก้อง ห้วยไร่ " จอมอัดฉีดคนใหม่ "เมื่อพี่ Ye " ลุกขึ้นมาทำธุรกิจ Ye Ye "
ตั้งกระทู้ใหม่