ตำรวจเผย 5 บัญชีโซเชียลอันตราย..เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพ
ตำรวจเผย 5 ลักษณะ บัญชีโซเชียลที่อันตราย ซึ่งอาจเป็นมิจฉาชีพปลอมตัวมา ทั้งนี้ห้ามแชท และห้ามโอนเด็ดขาด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มีค.67 ที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้กล่าวว่า ในปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพยังคงมีการพัฒนารูปแบบในการหลอกลวงบรรดาพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ ได้มีการนำหลักจิตวิทยามาปรับใช้ในการหลอกล่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และก็พบว่า กลุ่มมิจฉาชีพมักจะสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงเหยื่อ เช่น สร้างบัญชีปลอมเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง สร้างบัญชีปลอมเป็นหน่วยงานของรัฐ สร้างบัญชีที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง (บัญชีอวตาร) หรือแม้แต่อ้างว่าตนเองมีฐานะร่ำรวย เป็นต้น
โดยรูปแบบของบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งมี 5 รูปแบบดังต่อไปนี้
1. หนุ่มหล่อสาวสวย แอดท่านเป็นเพื่อน โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพื่อพยายามสานสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว ซึ่งจะนำไปสู่การหลอกลวงเอาทรัพย์สิน หรือหลอกให้ส่งภาพลามก
2. อวดร่ำอวดรวย โดยมักจะมีการโพสต์ในทำนองว่าได้เงินจากการลงทุน หรือทำธุรกิจบางอย่าง ซึ่งได้ผลตอบแทนสูง ซึ่งจะนำไปสู่การหลอกลวงชวนลงทุน หรือ Hybrid Scam
3. ต่างชาติวัยเกษียณ ส่งข้อความมาหาหรือแอดท่านเป็นเพื่อน เพื่อสานสัมพันธ์เชิงชู้สาว จากนั้นอ้างว่าจะย้ายมาอยู่ประเทศไทย และจะส่งทรัพย์สินมาให้ แต่ติดอยู่ที่ศุลกากร หลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพ
4. หน่วยงานรัฐ (ปลอม) รับช่วยเหลือ ลงโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ อ้างหน่วยงานของรัฐเปิดบริการรับแจ้งความ หรือให้ความช่วยเหลือในการติดตามทรัพย์สินจากคนร้าย จากนั้นจะหลอกลวงให้เหยื่อโอนเงิน โดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนในการติดตามเงินคืน หรือค่าใช้จ่ายในการติดตามคดี
5. แอคหลุม แอคปลอม แชร์แต่ข่าว ร้านอร่อย ที่เที่ยวสวย แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แอดท่านมาเป็นเพื่อน ต้องระวัง เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสเข้ามาส่องบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน หรือเอาภาพของท่านไปใช้ในการสร้างบัญชีปลอมของมิจฉาชีพ
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอแนะนำให้บรรดาพี่น้องประชาชน “ไม่รับแอด ไม่คุยแชท ไม่โอนเงิน” บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่มีลักษณะดังกล่าว เพื่อลดโอกาสที่ท่านจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่สร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นมา เพื่อหลอกลวงพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง