ช่วยแผ่นดินไหวเนปาล15:เนปาลีผู้เสียสละ
ทางเดินกลับบ้านวันนี้ดูยากและเศร้ากว่าทุกวัน พาลทำให้บรรยากาศ สภาพร่างกายและจิตใจดูแย่ไปหมด ไฟข้างทางไม่มีเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ดูมันมืดทะมึนกว่าเคย บทสนทนาในกลุ่มที่ไม่ค่อยมี เงียบๆ เหงาๆ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น เหนื่อยมากๆ อดทนจนมาถึงบ้าน...นั่งเหนื่อยหอบที่หน้าระเบียงบ้านเหมือนเคย สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คือน้ำโค้กที่กลายเป็นเครื่องดื่มประจำ...”Today is not so good day…” เป็นประโยคเศร้าๆ ประโยคแรกจากปากฮารี่เท่าที่เคยได้ยิน
ประโยคนั้นดึงสติเรามาได้เยอะ นาทีนี้ต้องให้กำลังใจกัน ให้กำลังใจเพื่อน เพราะเพื่อนคนนี้เสียสละเพื่อพวกเราเหลือเกิน แทนที่จะได้อยู่กับครอบครัว ลูกชายคนเล็กที่เพิ่งเกิด พานานีไปโรงพยาบาลทำแผล ไม่บอกก็รู้ว่าฮารี่คงเป็นห่วงลูกสาวใจแทบขาด น่าจะได้อยู่กับภรรยาคนสวยช่วยดูแลกันและกัน แต่กลับสมัครใจอยู่กับพวกเราตลอดเวลา...” Tomorrow will be better, Hari. We’re still be together,…it’s the best.” แล้วเพื่อนก็ส่งยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ......โชคดีที่ไฟมา มื้อเย็นเลยเป็นมาม่าไทย...น้องศิลปินซัดไปสามห่อ!!
ระหว่างทางนั่งรถกลับมากาฐมาณฑุ ในใจคิดตลอดทางว่าจะเอายังไงต่อไปดี เราเสียเวลาไปแล้วหนึ่งวัน แต่ก็เป็นเหตุสุดวิสัยเกินคาดที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นจริงๆ เวลาก็เหลือน้อยลงเรื่อยๆ (รวมทั้งแรงของพวกเราด้วย) แต่นี่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำงานไปช่วยชาวบ้านจริงๆเลย น้องๆ เริ่มบ่นกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่า อยากออกไปหมู่บ้านแล้ว อยากเจอผู้ประสบภัย อยากเจอเด็กเนปาลีๆแล้ว หากเรี่ยวแรงที่ใช้และหมดไปนั้น ถูกใช้ไปกับหมู่บ้านประสบภัยนอกเมือง ก็จะเป็นสิ่งที่ทุกคนเต็มใจอย่างหมดใจ ทีท่าที่เหมือนว่าจะได้ไปหมู่บ้านแล้วในเช้าวันนี้ จึงเป็นเหมือนสิ่งที่ทุกคนรอคอยมาตั้งแต่วันแรกที่ออกจากเมืองไทย
แล้วถ้าพรุ่งนี้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างนี้ขึ้นอีกละ จะทำไงดี? เลยปรึกษากับน้องๆว่า เอางี้มั๊ย? งั้นเราไปโพคาราก่อนไปช่วยวัดทิเบตที่โน้นก่อน เพราะอย่างน้อยก็เคยไปมา และนึกภาพออก ที่ทางและทิศทางต่างๆที่โพคาราพี่ก็คุ้นชิน อีกทั้งเป็นเมืองที่มีทะเลสาบน้ำใส เป็นพระเอกล้อมรอบด้วยหิมาลัยขาวโพน และเป็นฉากหลังท้องฟ้าโล่งใสอากาศดี น่าจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศเมืองแห่งฝุ่น ที่เราผจญมาหลายวันมานี้ได้ดี
โชคดีที่เส้นทางไปโพคาราเป็นเส้นทางเดียวกันกับไปหมู่บ้าน Nalang เสร็จสิ้นภาระกิจที่โพคาราแล้วค่อยนัดฮารี่มาเจอกันที่เมือง Nalang ขากลับ อีกเหตุผลหนึ่งคือ ณ นาทีนี้อยากมองเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราได้บ้างในหัว ซึ่งการเปลี่ยนแผนไปโพคาราให้ภาพนั้นได้ในหัว แต่กับ Nalang นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับเราอีกบ้าง และจะทำให้แผนงานของเราดำเนินต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน.....โอเค ตามนี้
**ข้อความทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียน
*ติดตามเรื่องราวทริปและงานเขียนอื่นได้ที่ https://tenlavenders.blogspot.com/
และเว็บไซต์ส่วนตัว https://tenlavenders.softr.app/