3 อันดับอัญมญี พลอย ที่แพงที่สุด
3 อันดับ พลอยราคาแพงที่สุดในโลก
💎 อันดับที่ 1 “ทับทิม” (Ruby)
เป็นแร่ในตระกูล Corundum มีความแข็งระดับ 9 โดยทับทิมเป็นพลอยในตระกูล Corundum ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และหายากที่สุดเช่นกัน มูลค่าของทับทิมขึ้นอยู่กับความสดของสี ความใสสะอาด และขนาด โดยขนาดจะเป็นตัวกำหนดหลัก เนื่องจากทับทิมขนาดใหญ่นั้นหาได้ยากมาก
ทับทิมที่มีการเจียรนัยเป็นเหลี่ยม (Faceted ruby) ซึ่งพบในตลาดอัญมณีส่วนใหญ่จะเป็นขนาดเล็กๆ เรียกว่า Milee size จะมีน้ำหนักประมาณ 0.20-0.50 กะรัต แม้ว่าจะมีขนาดเล็กแต่ราคาของทับทิมก็สูงกว่าพลอยสีอื่นในตระกูล Corundum ด้วยกัน ส่วนพลอยขนาดกลางที่มีน้ำหนัก 1-3 กะรัต จะมีราคาสูงกว่าขนาดเล็กหลายเท่าตัว และพลอยขนาดใหญ่ระดับ 5 กะรัตขึ้นไป ราคาจะดีดตัวสูงขึ้นจากพลอยขนาดกลางอย่างมาก ทั้งนี้ก็ขื้นอยู่กับความสดของสีด้วย โดยสีที่มีราคาแพงที่สุด คือ สีเลือดนกพิราบ (Pigeon blood)
ทับทิมถ้ามีคุณภาพดี และมีขนาดใหญ่ราคาจะผงาดขึ้นมาสูงกว่าราคาเพชรในขนาดที่เท่ากันมาก โดยเปรียบเทียบกันน้ำหนักต่อน้ำหนัก เนื่องจากทับทิมคุณภาพดีที่มีขนาดใหญ่หาได้ยากกว่าเพชรขนาดใหญ่
💎 อันดับที่ 2 “อเล็กซานไดรท์” (Alexandrite)
พลอยชนิดนี้อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เนื่องจากเป็นพลอยที่หายากมาก อเล็กซานไดรท์เป็นพลอยแห่งตำนานประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ Romanov แห่งจักรวรรดิรัสเซีย โดยพลอยแห่งตำนานนี้ถูกขุดพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1834 ที่เทือกเขายูราล บริเวณเหมืองมรกต และได้ถูกนำมาถวายพระเจ้า Czar Alexandra ที่2 ในวันคล้ายวันประสูติ โดยตั้งชื่อเพื่อให้เป็นเกียร์ติแก่พระองค์ว่า ”Alexandrite“
ในตอนแรกที่อเล็กซานไดรท์ถูกขุดพบนั้นเข้าใจกันว่าเป็นมรกตเนื้อดี แต่ภายหลังได้พบว่ามันคืออัญมณีชนิดใหม่ โดยอเล็กซานไดรท์จัดอยู่ในตระกูลแร่ Chrysoberyl มีความแข็งเป็นอันดับที่ 3 รองจากเพชรและทับทิม (รวมถึงแซฟไฟร์สีอื่นๆด้วย) คือ ความแข็งอยู่ที่ระดับ 8.5 มีความคงทนที่ดีเยี่ยม
ซึ่งมนต์เสน่ห์ของอเล็กซานไดรท์นั้นคือ การที่อเล็กซานไดรท์สามารถเปลี่ยนสีได้อย่างน่าอัศจรรย์ จากสีเขียวมรกตในแสงแดดกลายเป็นสีแดงลูกผลัมถึงแดงอมม่วงใต้แสงเทียนหรือแสงหลอดไฟทังสเตน จนมีคำเปรียบว่า “อเล็กซานไดรท์กลางวันเป็นมรกต กลางคืนเป็นทับทิม” ซึ่งสีเขียวและแดงนั้นก็ยังเป็นสีประจำราชวงศ์ Romanov แห่งรัสเซีย
การประเมินมูลค่าของพลอยอเล็กซานไดรท์นั้นขึ้นอยู่กับระดับของการเปลี่ยนสี ถ้าระดับการเปลี่ยนสีนั้นเห็นความแตกต่างชัดเจนก็ยิ่งมีราคาสูง เช่น เปลี่ยนจากสีเขียวมรกตไปเป็นสีแดงเจือม่วงก็จะมีค่ามาก แต่ถ้าเปลี่ยนจากสีเขียวซีดๆไปเป็นสีเทาอมม่วงจางๆ ซึ่งดูไม่โดดเด่นมูลค่าก็จะต่ำ ลงมา
ในปัจจุบันนี้นอกจากรัสเซียแล้วยังพบใน พม่า ศรีลังกา มาดากัสการ์ และบราซิลอีกด้วย แต่อเล็กซานไดรท์เป็นพลอยที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนัก เนื่องจากหายากมาก ทำให้อเล็กซานไดรท์ที่มีคุณภาพดีนั้นมีราคาสูงพอๆกับทับทิมน้ำงามทีเดียว
💎 อันดับที่ 3 “ไพลิน”
เป็นพลอยในกลุ่มแร่ Corundum เช่นเดียวกับทับทิม แต่ไพลินจะมีสีน้ำเงินที่มาจากธาตุผ่านคือ Te (เหล็ก) และ Ti (ไทเทเนี่ยม) โดยแหล่งที่พบไพลินมีมากกว่าแหล่งที่พบทับทิม อีกทั้งผลึกพลอยไพลินขนาดใหญ่ก็หาได้ง่ายกว่าทับทิม ไพลินพบได้ในหลายประเทศ เช่น อินเดีย (แคว้นแคชเมียร์) ศรีลังกา เมียนมาร์ ไทย กัมพูชา ลาว ออสเตรเลีย หลายประเทศในแอฟริกา และอเมริกา (มอนตาน่า) ซึ่งไพลินจากแต่ละแหล่งก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การประเมินราคานั้นขึ้นอยู่กับสี ขนาด และค่าความสะอาด โดยสีทีนิยม คือ สีน้ำเงินสด ที่เรียกว่า “Royal Blue” และสีน้ำเงินปานกลางเจือม่วงเล็กน้อยที่เรียกว่าสี “Cornflower Blue” ซึ่งไพลินสี Cornflower Blue จากแคชเมียร์บนเทือกเขาหิมาลัยได้ความนิยมอย่างมากจนเรียกว่าสี “Cashmir Blue” และมักติดอันดับพลอยที่ถูกประมูลด้วยราคาสูงสุดเมื่อเทียบกับไพลินจากแหล่งอื่น อันดับรองถัดมา ได้แก่ ไพลินจากเมียนมาร์ และศรีลังกา
👉 อัญมณีทั้ง 3 ชนิดที่กล่าวมาก็คืออัญมณีที่เลอค่าตลอดกาล ควรค่าแก่การเก็บสะสม การเก็บอัญมณีที่มีคุณภาพ ถือเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีวันลดคุณค่า และยังเป็นมรดกสืบทอดต่อไปถึงชนรุ่นหลังได้อีกด้วยค่ะ