ไม้แปลก กินเนื้อ สวยน่ารัก ปลูกขายได้รายได้ดี
ปัจจุบันเราหันมานิยมปลูกไม้ดอกไม้ประดับในห้องพักหรือต้นทำงานขึ้นมากขึ้น วันนี้เรามีต้นไม้แปลกสะดวกกับการปลูกในห้องหรือหรือบนโต๊ะทำงาน ขนาดกะทัดรัด นั้นคือ " ต้นกาบหอยแครง " เรามาเริ่มทำความรู้จักกับต้นดาบหอยแครงกันเลยคับ
ต้นกาบหอยแครง (Venus flytrap) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tradescantia spathacea Stearn, Rhoeo spathacea, Tradescantia discolor
สรรพคุณและประโยชน์ ตำรายาแผนโบราณระบุว่า ใช้ต้นต้มน้ำดื่ม แก้ไอ แก้ร้อนใน และแก้ฟกช้ำได้
ต้นกาบหอยแครง เป็นพืชที่เติบโตในพื้นที่ที่มีธาตุอาหารไนโตรเจนต่ำและมีแหล่งน้ำท่วมขัง ลำต้นของกาบหอยแครงมีลักษณะเป็นหัวใต้ดิน มีดอกสีขาวส่วนของกับดักมีลักษณะคล้ายเปลือกหอยสองฝา มีซี่ฟันที่ขอบกาบเหมือนกรงขัง ภายในกาบมีขนรับความรู้สึกข้างละ 3-4 เส้น เมื่อแมลงบินมาเกาะหรือสัมผัสโดนขนเหล่านี้ ต้นกาบหอยแครงจะหุบกาบขังแมลงไว้ภายใน ก่อนปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยแมลงให้เป็นสารอาหารที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หากกาบถูกกระตุ้นให้หุบบ่อยๆ จะทำให้พืชสูญเสียพลังงานอย่างมาก อาจทำให้ต้นอ่อนแอจนถึงตายได้ ถึงแม้แมลงจะถูกพืชย่อยเพื่อใช้เป็นธาตุอาหารให้แก่ไม้กินแมลง แต่ประโยชน์ที่ได้กลับคืนมาก็คือไม้กินแมลงเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งในการควบคุมประชากรแมลงในธรรมชาติ เพื่อไม่ให้มีจำนวนมากจนเกินไป
กาบหอยแครงมี 2 ชนิด พันธุ์ปกติ และพันธุ์แคระ
กาบหอยแครงเป็นพรรณไม้เอนกประสงค์
- ใช้ใบสด หรือตากแห้งเก็บไว้ใช้ และดอก เมื่อเก็บดอกที่โตเต็มที่แล้วตากแห้ง หรืออบด้วยไอน้ำ 10 นาที แล้วจึงนำไปตากแห้ง เก็บเอาไว้ใช้
เนื่องจากกาบหอยแครงไม่มีการจัดแบ่งสายพันธุ์แท้ (species) หรือชนิดย่อย (variety) ความหลากหลายของสายพันธุ์จึงถูกจัดเป็น cultivars ซึ่งแบ่งความแตกต่างตามลักษณะทางกายภาพอย่างง่ายๆ เช่น สี , ขนาด , ลักษณะของแผงหนาม (cilia) ฯ ทำให้สามารถแบ่งกาบหอยแครงออกได้นับร้อยๆ cultivars ยกตัวอย่างเช่น Dionaea muscipula ‘Akairyu’ เป็นต้น
การปลูกเลี้ยงและดูแลกาบหอยแครง
กาบหอยแครง (VenusFlyTrap) ไม้กินแมลงสายโหดที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ผมขอแชร์การปลูกเลี้ยงและดูแลกาบหอยแครงตามแบบฉบับของ TrapBlossom ดังต่อไปนี้ครับ
เครื่องปลูก : ขุยมะพร้าว , ขุยผสมมะพร้าวสับ หรือ sphagnum moss ผสมเพอร์ไลท์
* ควรหมั่นเปลี่ยนเครื่องปลูกใหม่ทุกๆ 1-2 ปี
น้ำ : น้ำฝน , น้ำบ่อ หรือน้ำประปาที่พักน้ำจนปลอดคลอรีน
* สามารถปลูกได้ทั้งแบบแช่และไม่แช่น้ำ
แสงแดด : สามารถปลูกเลี้ยงได้ทั้งกลางแจ้งไปจนถึงพรางแสง 50-60 %
อากาศ : กาบหอยแครงส่วนใหญ่สามารถเจริญเติบโตภายใต้สภาพอากาศของประเทศไทยได้ดี
ปุ๋ย : สามารถให้ปุ๋ยเม็ดละลายช้าได้ (ควรให้ปริมาณน้อย) หรืออาจป้อนแมลงเหยื่อ เช่น มด , ยุง ,
แมลงวัน , ตั๊กแตน ฯ
โรคและแมลงศัตรู : กาบหอยแครงมักมีปัญหาเน่าตายได้ง่าย อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่
1). สภาพเครื่องปลูกเก่าเกินไป
2). อุณหภูมิในเครื่องปลูกร้อนเกินไป
3). เกิดจากเชื้อราเมล็ดผักกาด ควรหมั่นให้ยาไวตาแวกซ์เป็นประจำ
สรรพคุณ
ใบ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไอ อาเจียนเป็นโลหิต แก้ฟกช้ำภายในเนื่องจากพลัดตกจากที่สูงหรือหกล้มฟาดถูกของแข็ง แก้บิด ถ่ายเป็นเลือด แก้ปัสสาวะเป็นเลือด
ดอก รสชุ่มเย็น ต้มกับเนื้อหมูรับประทาน ใช้ขับเสมหะ แก้ไอแห้งๆ แก้อาเจียนเป็นโลหิตเลือดกำเดาออก ห้ามเลือด แก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้ไอเป็นเลือด แก้บิด ถ่ายเป็นเลือด
วิธีและปริมาณที่ใช้
ใบ ใช้ต้มน้ำดื่ม ครั้งละ 15- 30 กรัม ใช้ภายนอก โดยการตำพอก
ดอก ใช้ดอกแห้งหนัก 10- 15 กรัม หรือ ดอกสด หนัก 30 - 60
ตำรับยา
ใช้ใบสด 3 ใบ ต้มน้ำผสมกับน้ำตาลกรวดเล็กน้อยดื่ม แก้ไอ ร้อนใน กระหายน้ำ แก้อาเจียนเป็นโลหิต แก้ฟกช้ำภายใน เนื่องจากพลัดตกจากที่สูง หรือหกล้มฟาดถูกของแข็ง
ใช้ดอกแห้ง 20 - 30 ดอก ต้มน้ำดื่ม แก้หวัด ไอ มีเสมหะปนเลือด เลือดกำเดาออก บิดจากแบคทีเรีย
น้ำว่านกาบหอยแครง
ส่วนผสม 1. ใบว่านกาบหอย 5-15 ใบ 2. น้ำสะอาด 2 1/2 ถ้วย 3. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
วิธีทำ
1. ใบว่านกาบหอยแครงสด ล้างน้ำให้สะอาด แช่ ด่างทับทิม 10 - 20 นาที
2. หั่นตามขวางให้ เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงในหม้อน้ำเดือด ต้มให้เดือด 3 - 7 นาที
3. เติมน้ำตาลทราย พอหวาน กรองเอากากออก จะได้น้ำว่านกาบ หอยแครง สีชมพูอ่อน กรองใส่ขวดนึ่ง 20 - 30 นาที เย็นแล้วเก็บใส่
วิธีปลูกต้นกาบหอยแครง
ขั้นตอนแรก ก็เด็ดกาบใบที่ค่อนข้างสมบูรณ์( แก่หน่อย) จากนั้นก็เอายากันเซื้อราป้ายที่รอยเด็ดผึ่งเอาไว้แป๊บนึง จากนั้นก็เอามอสที่แช่น้ำมาอัดใส่กระถางเล็กๆๆ เอากาบใบ วางบนมอส แล้วเอาลวดสายไฟปักทับไว้ให้ใบกาบหอยแครงแนบติดกับมอส
แล้วใช้ยากันเชื้อรารดให้ชุ่มจากนั้นก็เอาไปใส่ถุงอบใว้รอประมาณ2เดือนก็จะเห็นมีปุ่มเล็กๆๆเกิดขึ้น ซึ่งปุ่มเล็กๆๆนั้นก็จะโตขึ้นเรื่อยๆจนเป็นกาบหอยแครงต้นเล็กๆเต็มไปหมดซึ่งมันเกิดแทบทุกพื้นที่บนใบ
แต่อย่าลืมรดยากันราให้น้องหอยเขาล่ะ มาถึงตรงนี้ก็ยิ้มใด้แล้วมันจะเริ่มโตเร็วขึ้นเรื่อยไม่เกิน15วันก็เริ่มมีกาบให้เห็นแล้ว
อย่าพึ่งใจร้อนไปให้ปุ๋ยเขานะ คอยดูเรื่องน้ำเอาไว้อย่าให้แห้งก็พอรอวันให้น้องหอยออกกาบ ช่วงเล็กๆๆเขายังไม่ค่อยมีรากรอให้มีใบชัก4-5ใบก่อนถึงจะสมควรแยกออกจากแม่(ใบแก่ชึ่งตอนนี้จะโทรมแล้วโดน
ต้นเล็กๆๆดูดอาหารมาใช้) รอให้ใด้ขนาดนี้ก็ค่อยๆๆแยกจากใบแก่ แล้วใช้มอสเป็นเครื่องปลูกซึ่งง่ายเหมาะกับเจ้ากาบหอยแครง แยกปลูกต้นเดี่ยวๆๆแล้วเขาจะแตกกอไปเรื่อยๆๆ ลืมบอกไปตอนแยกแล้วถ้าเอาชัวก็อบไว้ก่อน
กล่าวง่ายๆคือ การปลูกเลี้ยงและดูแลกาบหอยแครงนั้นเป็นเรื่องสนุกซึ่งวิธีการปลูกเลี้ยงและดูแลข้างต้นเป็นเพียงหลักการคร่าวๆทั่วไป การนำไปใช้ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกอย่างเพราะสภาพแวดล้อมแต่ละที่นั้นแตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือการทดลองซ้ำๆและรู้จักสังเกตุ ผมเชื่อว่าทุกท่านก็สามารถปลูกกาบหอยแครงให้สวยได้ ขอให้สนุกกับการปลูกกาบหอยแครง