"หอยทากเปลือกไม้" อาหารชั้นเลิศราคาแพง
หอยทากนี่แหละครับ โดยมากชนิด Achatinelloides socotorensis (L. Pfeiffer, 1845) ซึ่งตั้งชื่อตามชื่อเกาะครับ อาจมีชนิด Achatinelloides socotorensis laevior (E. A. Smith, 1889) ปะปนบ้าง เค้าเรียกชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Bark Snails ซึ่งแปลว่า "หอยทากเปลือกไม้" หอยจะมีวิวัฒนาการของลายเพื่อพรางตัวให้เข้ากับลายของเปลือกไม้
การอาศัยยู่ในสภาพเขตกึ่งทะเลทราย หอยจะรวมตัวกันเพื่อลดความร้อนจากแดด ลดการคายน้ำจากร่างกายครับ โดยแทนที่หอยจะร้อนทั่วทั้งนอกเปลือก การมารวมตัวเบียดกันแน่นๆ ความร้อนจะไปรวมตัวกันเฉพาะจุดเล็กๆ ที่อยู่นอกสุดจุดเดียว เหมือนคนโบราณเอาก้อนหินไปเรียงกันแน่นบนดาดฟ้าบ้านนะครับ จะช่วยลดความร้อนได้มาก ในช่วงกลางวันที่แดและลมร้อน หอยจะหลบรวมกันในร่มเงา และพอตกกลางคืนที่อากาศเย็นลง ชื้นมากขึ้นเพราะลมทะเล หอยจะขับเมือกออกคืบไปตามเปลือกไม้และลงสุ่ดินหากินในช่วงนี้ครับ และด้วยการที่หอยทากกระจุกรวมตัวหลบแดดเกาะตามเปลือกไม้และยอดไม้ ในเขตกึ่งทะเลทราย (Sub-Saharan Climate) ยาวตลอดไปทั่วตั้งแต่อาหรับตะวันตกจนถึงอัฟริกาตอนเหนือทั้งแถบ ถึงโมร็อกโก จึงมีวัฒนธรรมการกินหอยทากแบบแกงในเครื่องเทศทะลักจุกๆ จนวัฒนธรรมนี้ข้ามไปยังสเปนและฝรั่งเศส ที่เค้าเอาหอยทากไปเลี้ยงให้กินทิชชู่เปียกหลายๆ วัน จนล้างใส้ในหอย ขี้ออกมาสะอาดหมดจด แล้วจึงเอาไปอบเนยกระเทียม กินกับขนมปังกระเทียม ที่เค้าเรียกกันว่า "เอสคาร์โก" (Escargot) และขายกันราคาแพงในแถบยุโรปครับ
อ้างอิงจาก: Google และวิกิพีเดีย