หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เปิด 5 สายพันธุ์แมวยอดฮิต

เนื้อหาโดย ote1986

มาเอาใจทาดแมวกัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าน้องแมวเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในทุกยุคทุกสมัย ด้วยอุปนิสัยน่ารัก ขี้อ้อน ขี้เล่น แสนประจบ ซึ่งทำให้ผู้คนต่างพากันหลงไหล วันนี้เราเอาใจทาดแมวทั้งกลายเลย เราพามาเปิดวาบ 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมกัน

Persian

แมวเปอร์เซีย
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่อง
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่อง "สจ๊วต ลิตเติ้ล (Stuart Little)" คุณต้องรู้จัก "เจ้าเหมียวสโนว์เบล (Snowbell)" หรือก็คือแมวเปอร์เซียสีขาวที่ครอบครัวลิตเติ้ลเลี้ยงไว้นั่นเอง แม้ว่าสโนว์เบลล์จะปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะจอมขัดขวาง แต่สุดท้ายเค้าก็กลายเป็นตัวละครที่ร่าเริงและสร้างความอบอุ่นหัวใจให้กับผู้ชม เช่นเดียวกับตัวละครสโนว์เบล สายพันธุ์แมวเปอร์เซียมีนิสัยอ่อนโยน เรียบร้อย และซื่อสัตย์กับเจ้าของมาก

พวกเค้าไม่ใช่แค่น่ารักอ่อนหวานเท่านั้น แต่ยังชอบอ้อนขอกอดจนทำให้ทาสแมวต่างก็หลงรักหัวปักหัวปำ แม้ว่าเปอร์เซียจะต้องการความสนใจและการดูแลค่อนข้างมาก แต่โดยรวมพวกเค้าก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยหล่ะ

  เชื่อกันว่าเหมียวพันธุ์เปอร์เซียมีบรรพบุรุษเป็นแมวทะเลทราย จึงมีขนหนาสองชั้นเพื่อป้องกันตัวเองจากสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย ซึ่งรวมถึงสภาพอากาศที่หนาวจัดด้วย แม้ว่าแมวทะเลทรายจะสามารถทนต่ออากาศร้อน ได้ดี แต่แมวเปอร์เซียกลับมีอุณหภูมิร่างกายสูง อากาศร้อนชื้นอาจส่งผลให้พวกเค้าเป็นฮีทสโตรกได้ง่ายรู้หรือไม่? แมวเปอร์เซียเป็นหนึ่งในสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลก พวกเค้าจัดอยู่ในวงศ์ฟีลิดีเหมือนกับแมวบ้านและแมวป่าพันธุ์อื่น ๆ โดยย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 17 ในประเทศอิตาลี แมวพันธุ์เปอร์เซียได้ถือกำเนิดขึ้นและถูกนำตัวมาจากแถบเปอร์เซียโดยปีเอโตร เดลลา วาลเล
ลักษณะสำคัญของเปอร์เซีย:
น้ำหนัก – 3 – 5 กก.
ความสูง – 10 – 15 นิ้ว
อายุขัย – 12 – 17 ปี


ลักษณะขน – ขนยาวสลวย หนาสองชั้น
ลักษณะทางกายภาพของเปอร์เซีย:
เจ้าเหมียวพันธุ์เปอร์เซียมีลักษณะเฉพาะตัว ทำให้โดดเด่นและแตกต่างจากแมวพันธุ์อื่น พวกเค้ามีขนยาวพลิ้วสลวยเหมือนแมวเมนคูน แต่มีใบหน้าสั้นแบนเป็นเอกลักษณ์ และมีดวงตากลมโตพร้อมขโมยหัวใจทาสแมวทุกคนที่สบตา ดวงตาของพวกเค้าพบได้ในสีคอปเปอร์ สีเขียว และสีฟ้าอมเขียว
สีขนของเหมียวพันธุ์เปอร์เซียมักมีสีเดียวล้วน อาจพบในหลายเฉดสีและมีลายสลิดได้เช่นกัน ขนแสนสวยของพวกเค้ามักมีสีขาว สีครีม สีดำ สีส้ม และสีครีมอมฟ้า ส่วนใหญ่เราจะจดจำเปอร์เซียได้จากขนปุกปุยบริเวณใบหูและขนยาวสีขาวทั่วตัว ลักษณะแมวเปอร์เซียที่พบได้อีกคือหัวกลมโตและช่วงขาสั้น ส่วนขนาดแมวเปอร์เซียก็จัดอยู่ในกลุ่มขนาดกลางเหมือนกับแมวบ้านพันธุ์อื่น
สุขภาพ:สายพันธุ์แมวเปอร์เซียมีภูมิต้านทานต่อโรคสูงกว่าพันธุ์แมวส่วนใหญ่ มีเพียงความเสี่ยงต่อโรคทางพันธุกรรม เพราะลักษณะแมวเปอร์เซียโดยทั่วไป ทำให้พวกเค้ามีแนวโน้มเป็นโรคถุงน้ำในไต จอประสาทตาเสื่อม นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และกล้ามเนื้อหัวใจหนา การทำความเข้าใจแมวเปอร์เซียข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ จะช่วยให้พวกเค้าปลอดภัย เจ้าของเองก็พร้อมรับมือกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จนกว่าจะมั่นใจว่าเจ้าตัวน้อยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ขนยาวสลวยนุ่มดุจเส้นไหมเป็นจุดเด่นของสายพันธุ์แมวเปอร์เซีย แน่นอนว่ามันทำให้พวกเค้าดูน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด แต่การมีขนยาวแบบนี้ต้องได้รับการแปรงขนอย่างสม่ำเสมอ เพราะเหมียวพันธุ์เปอร์เซียมักมีปัญหาขนพันกัน โดยเฉพาะบริเวณใบหูและช่วงแขน ซึ่งอาจส่งผลให้เหมียวพันธุ์เปอร์เซียของคุณมีอาการระคายเคืองได้ แนะนำให้เลือกใช้หวีสแตนเลสซี่ห่างเพื่อสางขนที่จับตัวเป็นก้อนหรือพันกัน


เจ้าของควรอาบน้ำให้เปอร์เซียเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเค้าสะอาดและไม่มีเศษสิ่งสกปรกติดตามตัว แนะนำให้เลือกแชมพูสูตรอ่อนโยนเพื่อเพิ่มความเงางามให้กับเส้นขน โดยคุณอาจใช้แป้งฝุ่นเพื่อช่วยให้ขนนุ่มขึ้นและลดความมันลงด้วยก็ได้
หลังจากดูแลขนเรียบร้อยแล้ว เปอร์เซียควรตัดเล็บทุก 10 – 15 วัน เพื่อลดพฤติกรรมลับเล็บไม่เป็นที่ และควรเช็ดคราบน้ำตาหรือคราบที่แห้งกรังบริเวณดวงตาของแมวเปอร์เซียด้วยผลิตภัณฑ์ที่สัตวแพทย์แนะนำ หรือจะใช้ฟองน้ำค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดแทนก็ได้เช่นกัน เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย
ความน่ารักน่ากอดของสายพันธุ์แมวเปอร์เซีย ทำให้ทุกคนอยากพุ่งตัวเข้าไปเล่นด้วย ซึ่งโชคดีที่นิสัยแมวเปอร์เซียนั้น เข้ากับคนได้ง่าย เป็นมิตร และชอบทำกิจกรรมกับคนที่รัก แมวเปอร์เซียเป็นแมวที่เชื่อฟัง อ่อนโยน และคาดหวังว่าตัวเองจะได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน ดังนั้นก่อนการเข้าหาหรือชวนเล่นก็ควรเช็กอารมณ์และความต้องการของพวกเค้าให้ดี


หากแมวเปอร์เซียไม่ต้องการเล่นหรืออยากอยู่ลำพังก็ควรปล่อยให้พวกเค้าได้ทำตามใจ การปล่อยให้พวกเค้าอยู่ในพื้นที่ของตัวเองไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเค้ารู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่ใกล้ ๆ คุณด้วย และเมื่อรู้สึกสบายใจแล้ว เจ้าตัวน้อยก็จะเป็นฝ่ายเข้าหาคุณเอง ด้วยนิสัยแมวเปอร์เซียที่ชอบเล่น ชอบทำกิจกรรม การใช้เวลาเล่นกับพวกเค้าเป็นประจำจะช่วยเพิ่มสายใยแห่งความผูกพันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
  เนื่องจากแมวเปอร์เซียนิสัยรักสนุกเป็นทุนเดิม การเลือกของเล่นจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ คุณสามารถทำของเล่น DIY จากวัสดุที่หาได้ในบ้านแทนการซื้อของเล่นราคาแพง เช่น นำถุงเท้าเก่ามารีไซเคิลเป็นของเล่น โดยใส่แคทนิปลงไปให้กลายเป็นลูกบอลขนาดเล็ก หรือหาก้อนไหมพรมให้สักหนึ่งก้อน เจ้าเหมียวพันธุ์เปอร์เซียของคุณก็จะเล่นสนุกและคึกคักได้ทั้งวันแล้ว

 

Maine Coon

หากคุณกำลังมองหาแมวใหญ่ใจดี นิสัยอ่อนโยนและเป็นมิตร แมวเมนคูนคือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ!
สำหรับชื่อพันธุ์เมนคูนนั้น คำว่า “เมน” มาจากถิ่นกำเนิดซึ่งก็คือรัฐเมนในเขตนิวอิงแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนคำว่า “คูน” อาจมาจากแร็กคูน เนื่องจากแมวพันธุ์เมนคูนมีลักษณะคล้ายกับตัวแร็กคูน
แมวเมนคูนมีต้นกำเนิดที่น่าสนใจมาก โดยเชื่อกันว่าแมวพันธุ์เมนคูนเป็นทายาทสายตรงของแมวพันธุ์เตอร์กิชแองโกร่าที่เดินทางมาพร้อมเรือของพระนางมารี อองตัวเน็ตต์ หรือราชินีแห่งฝรั่งเศส เมนคูนขึ้นชื่อว่าเป็น “แมวยักษ์แสนอ่อนโยน” ลักษณะพิเศษคือตัวใหญ่ รูปร่างแข็งแรง และมีขนคล้ายเส้นไหม ในช่วงแรกเริ่ม เมนคูนต้องปรับตัวให้มีขนยาวและหนาขึ้น เพื่อรองรับฤดูหนาวอันยาวนานของรัฐเมน


นิสัยแมวเมนคูนที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือความน่ารัก ขี้เล่น ไม่กลัวคนแปลกหน้า และชอบเข้าสังคม ทำให้หลายคนมองว่าแมวพันธุ์เมนคูนมีนิสัยคล้ายคลึงกับสุนัข เมนคูนยังเป็นแมวที่ฉลาด สอนง่าย และรักการผจญภัย แต่สิ่งที่โปรดปรานมากที่สุดคือการได้อยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของอันเป็นที่รัก
เรามาดูกันว่าอะไรที่ทำให้แมวเมนคูนหรือลูกแมวเมนคูนตัวน้อยแตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่น ๆ พร้อมเรียนรู้ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยและวิธีดูแลแมวพันธุ์เมนคูนไปด้วยกันในบทความนี้
ลักษณะสำคัญของแมวเมนคูน
น้ำหนัก – แมวสายพันธุ์เมนคูนมักจะมีน้ำหนักเฉลี่ย 5 – 8 กก.
ส่วนสูง – เมนคูน แมวยักษ์ใหญ่ของเราอาจสูงถึง 16 นิ้ว และลำตัวยาวได้มากถึง 40 นิ้ว
อายุขัย – แมว Maine coon ส่วนใหญ่มีอายุขัยอยู่ที่ 15 ปีขึ้นไป


ลักษณะขน – เจ้าเหมียวพันธุ์เมนคูนมีขนหนาและยาวคล้ายเส้นไหม
ลักษณะสำคัญของแมวเมนคูน
แมวเมนคูนและลูกแมวเมนคูนถือเป็นแมวบ้านสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แมวพันธุ์เมนคูนมีลักษณะเฉพาะที่ทำให้แตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่น นั่นก็คือโครงสร้างและรูปร่างที่ใหญ่โต มีความกำยำและแข็งแรง โดยทั่วไปแมวเมนคูนจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 – 8 กก. แต่เมนคูนบางตัวอาจหนักได้ถึง 11 กก. นอกจากจะมีขนยาวนุ่มสวยแล้ว เมนคูนยังมีลำตัวยาวได้มากถึง 40 นิ้ว และเมนคูนที่โตเต็มวัยอาจสูงได้ถึง 15 นิ้ว
แมวเมนคูนมีสีขนที่เป็นเอกลักษณ์และสวยสะดุดตา โดยเราอาจพบแมวพันธุ์เมนคูนในสีต่าง ๆ เช่น สีขาว ดำ เทาหม่น และสีครีม อาจมีขนสองสีหรือสามสีก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้เมนคูนบางตัวอาจมีลักษณะสีขนแบบไล่เฉด ก้านขนจะมีสีอ่อน ส่วนปลายขนมีสีเข้ม อีกหนึ่งลักษณะเด่นของแมวเมนคูนคือโครงสร้างร่างกาย เมนคูนมีสันกรามที่คมชัด มีขนที่ปลายใบหู หางเป็นพวง และมีแผงคอคล้ายสิงโต
สุขภาพโดยรวมของแมวเมนคูน
แมวพันธุ์เมนคูนจัดเป็นแมวที่แข็งแรง มีภูมิต้านทานสูง ไม่ค่อยเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไป แต่ก็มีความเสี่ยงต่อโรคทางพันธุกรรมบางชนิด เช่น
โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy) –
เป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้โดยทั่วไปในแมวพันธุ์เมนคูน กล้ามเนื้อหัวใจที่หนาขึ้น ทำให้สูบฉีดเลือดได้ยากและมีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว ทางที่ดีควรพาเมนคูนของคุณไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากไขสันหลังเสื่อม (Spinal Muscular Atrophy) –
จัดเป็นปัญหาสุขภาพที่น่ากังวลสำหรับแมวสายพันธุ์เมนคูน มันทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและฝ่อ ส่งผลให้แมวเมนคูนเดินหรือเคลื่อนไหวผิดปกติ
แล้วเราควรดูแลแมวพันธุ์เมนคูนอย่างไร? เนื่องจากเมนคูนมีรูปร่างและลักษณะที่แข็งแรง สุขภาพโดยรวมก็ค่อนข้างดี เมนคูนจึงมีโอกาสน้อยที่จะได้รับผลกระทบจากโรคทั่วไปของแมว อย่างไรก็ตาม เจ้าของยังคงต้องดูแลเอาใจใส่เมนคูนอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารหรือการดูแลป้องกัน รวมถึงควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพและสัญญาณเตือนของโรคทางพันธุกรรมที่พบบ่อยในแมวเมนคูนด้วย ทั้งนี้สามารถขอคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลแมวพันธุ์เมนคูนจากสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้เสมอ
การเล่นกับแมวเมนคูน
แม้ว่าแมวพันธุ์เมนคูนจะมีรูปร่างใหญ่โต แต่ก็มีความกระฉับกระเฉงและเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว เมนคูนเป็นแมวที่รักการผจญภัยและชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือหากต้องอยู่ในบ้านเป็นหลัก เมนคูนก็สามารถสนุกกับการเล่นเกมง่าย ๆ กับสมาชิกในครอบครัวได้
แมวเมนคูนนิสัยเป็นมิตรและชอบเข้าสังคม ทำให้เข้ากับคนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้แมวพันธุ์เมนคูนยังเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในครอบครัวที่มีเด็กอีกด้วย


แมวพันธุ์เมนคูนมีความกระตือรือร้นสูง ชอบเล่นเกมและทำกิจกรรม เช่น เล่นซ่อนหา เล่นคาบของ และปีนป่ายไปทั่วทั้งบ้าน เมนคูนเป็นแมวที่ฉลาด ว่านอนสอนง่าย คุณสามารถจัดหาเกมฝึกทักษะหรือแอปพลิเคชันเกมสำหรับแมวให้พวกเค้าเล่นได้ แมวพันธุ์เมนคูนยังต่างจากแมวพันธุ์อื่น ๆ ตรงที่ไม่กลัวน้ำ อันที่จริง เมนคูนชอบเล่นน้ำมาก คุณอาจพบพวกเค้าตามก๊อกน้ำและอ่างอาบน้ำอยู่บ่อย ๆ ทั้งนี้การเล่นถือเป็นวิธีออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม ช่วยเสริมให้เมนคูนของคุณมีสุขภาพดีและมีความสุข

 

Sphynx

สฟิงซ์เป็นแมวแบบไหนกันนะ วันนี้ Homeday จะพามารู้จักกับ สฟิงซ์ แมวไร้ขนที่นิสัยดีและติดเจ้าของมาก ก่อนตัดสินใจเลี้ยง จะดูแลอย่างไรให้ถูกวิธีและเข้าใจนิสัยของสฟิงซ์กันก่อนจะรับน้องมาเลี้ยง เพราะสฟิงซ์นั้นแตกต่างจากแมวทั่ว ๆ ไปที่มีขน ดังนั้นการดูแลและเอาใจใส่จึงจำเป็นสำหรับเจ้าของ หากเพื่อน ๆ อ่านบทความนี้จนจบรับรองว่าสามารถเลี้ยงน้องแมวสฟิงซ์ได้อย่างเข้าใจและน้องแมวมีความสุขแน่นอน
แมวที่ดูเหมือนไร้ขนแต่แท้จริงแล้วมีขนอ่อน ๆ นุ่ม ๆ เหมือนเปลือกลูกพีชคลุมอยู่ทั่วร่างกายของแมวสฟิงซ์ มีขนาดตัวที่ใหญ่ กล้ามเนื้อแข็งแรง แต่หุ่นเพรียวสวยงาม มีดวงตากลมสวย มีหูแหลมยาว ผิวหนังบริเวณคอ ข้างลำตัว และขามีรอยย่น แต่บริเวณอื่น ๆ จะตึงเรียบ และผิวหนังของแมวสฟิงซ์นั้นมีได้หลากหลายสี จุดเด่นของสฟิงซ์อีกหนึ่งอย่างคือ ตัวอุ่นมาก จนได้รับฉายาว่าเป็น “กระเป๋าน้ำร้อนเดินได้”


นิสัยของแมวสฟิงซ์
ฉลาด ร่าเริง ขี้เล่น และซุกซน
ชอบเข้าสังคม เป็นมิตรกับทุกคน
ชอบให้เจ้าของสนใจ ชอบให้กอด ให้อุ้ม และชอบนอนกับเจ้าของ
ดารดูแลแมวสฟิงซ์
ขนและผิว : ต้องคอยดูแลความสะอาดของขนและผิวหนังของแมวสฟิงซ์อย่างสม่ำเสมอ อาบน้ำ ขจัดไขมันบนผิวหนัง ทุกสัปดาห์


การออกกำลังกาย : แมวสฟิงซ์ชอบเล่นหรือทำกิจกรรมตลอดเวลา ชอบสำรวจบ้าน และเล่นกับเจ้าของ ไม่ควรขังหรือจำกัดพื้นที่ให้แมวสฟิงซ์อยู่ในที่แคบ อาจจะทำให้แมวเครียดได้
อาหาร : ควรให้อาหารที่มีคุณภาพ เป็นอาหารสำหรับแมวโดยเฉพาะ ในปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย และแมวสฟิงซ์มีความต้องการอาหารที่มีโปรตตีนสูง
ข้อควรรู้ของแมวสฟิงซ์ก่อนเลี้ยง
แมวสฟิงซ์ต้องการเวลาจากเจ้าของค่อนข้างมาก เพราะติดเจ้าของ ไม่เหมาะสำหรับเลี้ยงให้อยู่บ้านเพียงลำพัง
แมวสฟิงซ์มักมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง เป็นผื่น เชื้อรา


แมวสฟิงซ์ควรทาครีมกันแดดให้สฟิงซ์หากต้องออกนอกบ้านหรือไปกลางแจ้ง
แมวสฟิงซ์ไม่เหมาะกับการเลี้ยงในที่อากาศหนาวเย็น เพราะสฟิงซ์ไม่ทนต่ออากาศหนาว
แมวสฟิงซ์ต้องเลี้ยงในบ้านเท่านั้น หากผู้เลี้ยงไม่สะดวกเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านไม่แนะนำให้เลี้ยงแมวสฟิงซ์นะคะ
แมวสฟิงซ์เข้ากับเด็ก และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในบ้าน จึงเหมาะสำหรับเลี้ยงในครอบครัว

 

Scottish Fold

แมวสก็อตติชโฟลด์ (Scottish Fold) เป็นสายพันธุ์แมวหูพับที่น่ารักและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขึ้นชื่อเรื่องหูพับและนิสัยที่อ่อนหวาน ในบทความนี้ เราจะสำรวจทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ สก็อตติชโฟลด์รวมถึงประวัติ ลักษณะทางกายภาพ บุคลิกภาพ และวิธีการดูแลพวกมัน

เรื่องราวของ แมวสก็อตติชโฟลด์ เริ่มต้นขึ้นในปี 1961 เมื่อคนเลี้ยงแกะชื่อ William Ross ได้ค้นพบแมวโรงนาสีขาวชื่อ Susie ที่มีหูพับในภูมิภาค Tayside ของสกอตแลนด์ คุณลักษณะเฉพาะของ Susie เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม และ Ross มองเห็นศักยภาพในสายพันธุ์ใหม่นี้ เขาได้รับลูกแมวของ Susie มาหนึ่งตัว และด้วยเหตุนี้จึงเริ่มต้นการเดินทางเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ สก็อตติชโฟลด์ ที่เรารู้จักและชื่นชอบในปัจจุบัน

ลักษณะทางกายภาพของแมวสก็อตติชโฟลด์
แมวสายพันธุ์ก็อตติช โฟลด์ นั้นจำได้ง่ายเนื่องจากลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่น หูพับขนาดเล็กเป็นลักษณะที่โดดเด่นที่สุด ซึ่งเป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม หูที่หันไปข้างหน้านี้ทำให้ แมวสก็อตติชโฟลด์ มีลักษณะเหมือนนกฮูก นอกจากหูที่พับแล้ว พวกมันยังมีดวงตาที่กลมโตและแสดงออกซึ่งสามารถพบได้ในสีต่างๆ


  โดยทั่วไปแล้วขนาดตัวของพวกมันจะปานกลาง ใบหน้ากลมกลึงและมีกล้ามเนื้อ สก็อตติชโฟลด์มีคอที่สั้นและแข็งแรงและหางที่เรียวจนเป็นปลายมน มีขาขนาดกลาง โดยขาหลังยาวกว่าขาหน้าเล็กน้อย
สีขนและลวดลายของแมวสก็อตติชโฟลด์
แมวสายพันธุ์แมวสก็อตติชโฟลด์ มีสีขนและลวดลายที่หลากหลาย ทำให้แมวแต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง สีขนทั่วไปบางสี ได้แก่ สีบลู ขาว ดำ น้ำเงิน ครีม และแดง แบบ สองสี สีทึบใด ๆ ที่รวมกับสีขาว ลายแท็บบี้

ขนาดตัวแมวสก็อตติชโฟลด์
ตัวผู้จะมีน้ำหนักระหว่าง 4-5 กิโลกรัม
ตัวเมียจะมีน้ำหนักระหว่าง 2-4 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม น้ำหนักอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม อาหาร และระดับกิจกรรม สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบน้ำหนักของ แมวสก็อตติชโฟลด์ของคุณ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกมันมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง
แมวสก็อตติชโฟลด์ มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว สก็อตติชโฟลด์ขนสั้นมีขนหนานุ่มและหนานุ่ม ส่วนพันธุ์ขนยาวหรือที่เรียกว่าไฮแลนด์โฟลด์มีขนกึ่งยาวหรูหราที่นุ่มและเนียนไม่แพ้กัน ขนแมวสก็อตติชโฟลด์ทั้งสองประเภทต้องมีการกรูมมิ่งเป็นประจำเพื่อให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมที่สุดและป้องกันไม่ให้ขนพันกัน

การดูแลขนแมวแมวสก็อตติชโฟลด์
การบำรุงรักษาขนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาขนของ แมวสก็อตติชโฟลด์ของคุณให้มีสุขภาพที่ดี สะอาด และไม่เป็นคราบ เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำในการกรูมมิ่งเหล่านี้ คุณจะมั่นใจได้ว่าเสื้อโค้ทของพวกเขาจะอยู่ในสภาพที่เหมาะสมที่สุด
เครื่องมือและอุปกรณ์กรูมมิ่ง
ก่อนเริ่มขั้นตอนการกรูมมิ่ง ให้รวบรวมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น

แปรงสลิกเกอร์หรือแปรงพินสำหรับขจัดขนที่พันกันยุ่งเหยิง
หวีโลหะที่มีฟันห่างและละเอียดสำหรับสางขน
ถุงมือกรูมมิ่งหรือแปรงยางเพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วและกระจายน้ำมันตามธรรมชาติ
กรรไกรตัดแต่งขนสำหรับเล็มขนบริเวณที่บอบบาง
การดูแลขนของแมวสก็อตติชโฟลด์ขนสั้น
สก็อตติชโฟลด์ขนสั้นต้องการการแปรงขนน้อยกว่า ปกติสัปดาห์ละครั้ง ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อดูแลแมวสก็อตติชโฟลด์ขนสั้นของคุณ ค่อยๆ แปรงเสื้อโค้ทด้วยแปรงสลิกเกอร์หรือแปรงพินเพื่อขจัดขนที่พันกัน ปม และขนที่หลุดร่วง ใช้หวีโลหะสางขนของพวกมัน ให้แน่ใจว่าคุณครอบคลุมทุกส่วน รวมทั้งอก ท้อง และหาง จบขั้นตอนกรูมมิ่งด้วยถุงมือหรือแปรงยางเพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วและกระจายน้ำมันตามธรรมชาติบนผิวหนัง
ดูแลขนของแมวสก็อตติชโฟลด์ขนยาว
สก็อตติชโฟลด์ขนยาว หรือที่รู้จักกันในชื่อไฮแลนด์ โฟลด์ (Highland Folds) ต้องการการแปรงขนบ่อยกว่าปกติ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือแม้แต่ทุกวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพขนของพวกมัน ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อดูแล แมวสก็อตติชโฟลด์ขนยาวของคุณ
เริ่มต้นด้วยการแปรงขนเบา ๆ ด้วยแปรงสลิกเกอร์หรือแปรงพิน ขจัดขนที่พันกัน ปม และขนที่หลุดร่วง ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับบริเวณที่มีแนวโน้มจะปู เช่น หลังใบหู ใต้ขา และรอบหาง
ใช้หวีโลหะสางขนของพวกมัน ให้แน่ใจว่าได้ครอบคลุมทุกส่วนของร่างกาย
หากคุณพบเสื่อใดๆ ให้ใช้นิ้วหรือหวีค่อยๆ สางมันออก หากจำเป็น ให้ใช้กรรไกรเล็มขนเล็มออก ระวังอย่าให้บาดผิวหนังจบขั้นตอนกรูมมิ่งด้วยถุงมือหรือแปรงยางเพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วและกระจายน้ำมันตามธรรมชาติบน
นิสัยและพฤติกรรมแมวสก็อตติชโฟลด์
แมวสกอตติชโฟลด์ เป็นที่รู้จักจากนิสัยที่เป็นมิตร น่ารัก และเข้ากับคนง่าย พวกเขาเป็นแมวที่ค่อนข้างสงบและมีมารยาทดีที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ชีวิตต่างๆ ได้ดี ธรรมชาติที่อ่อนโยนและน่ารักของพวกมันทำให้พวกมันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับครอบครัว คนโสด และผู้สูงอายุ
ความสัมพันธ์กับเจ้าของ
แมวสกอตติชโฟลด์มักจะพัฒนาสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเจ้าของและเติบโตได้ดีเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ พวกเขาสนุกกับการใช้เวลากับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการกอดกันบนโซฟา เล่นกับของเล่น หรือเพียงแค่อยู่ในห้องเดียวกัน พวกเขาไม่ได้เรียกร้องความสนใจมากเกินไป แต่พวกเขาชื่นชมการมีอยู่ของความรักเสมอต้นเสมอปลาย
ปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
ลักษณะที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งของ แมวสก็อตติชโฟลด์ คือความสามารถในการเข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้ดี รวมถึงแมวตัวอื่นและแม้แต่สุนัข ท่าทางที่อ่อนโยนและไม่ก้าวร้าวทำให้พวกมันเป็นเพื่อนที่เหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เป็นมิตรและมีมารยาทดีตัวอื่นๆ


อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องแนะนำสัตว์เลี้ยงใหม่อย่างช้าๆ และอยู่ภายใต้การดูแลเพื่อให้แน่ใจว่ามีความสัมพันธ์ที่กลมกลืนกัน โปรดทราบว่านิสัยใจคอของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป และไม่ใช่ว่าแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ทุกตัวจะเข้ากับสัตว์อื่นๆ ได้เท่าเทียมกัน

 

British Shorthair

บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)
ทำความรู้จักบริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)
ว่ากันว่า British shorthair เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ด้วยลักษณะเด่นที่มีขนหนานุ่มน่ากอด กับนิสัยเท่ๆ ถึงจะอยู่แบบเงียบๆ แต่ก็เข้ากับทุกคนได้ง่าย แถมยังเป็นมิตรอีกต่างหาก ถ้าใครกำลังมองหาเพื่อนแท้ซักตัวที่จะอยู่เคียงข้างแบบไม่กวนใจ มองมาทางนี้เลย น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) รอที่จะครองใจคุณอยู่
ลักษณะนิสัย
น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ นั้นน่ารัก เรียบร้อย และเข้ากับคนอื่นง่าย ทำให้น้องกลายเป็นแมวเลี้ยงที่ลงตัวมากสำหรับครอบครัว น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ ชอบที่จะเป็นรักและสนใจจากคนรอบข้าง แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจจนมากเกินไป น้องมักชอบเดินตามเจ้าของไปรอบๆ บ้านแล้วนั่งลงข้างๆ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร

บริติช ช็อตแฮร์ เป็นน้องแมวที่ค่อนข้างสงบเสงี่ยม ไม่ค่อยส่งเสียงดังหรือร้องเรียกในสิ่งใดใดที่ต้องการ น้องจะไม่ปีนขึ้นมานั่งบนตักขอให้คุณเกาคางให้แต่จะนั่งข้างๆ อีกอย่างคือเพียงแค่ลูบกันก็พอไม่ต้องอุ้มไปไหนมาไหนมากก็ได้
น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ เป็นแมวที่ต้องการกิจกรรมและออกกำลังกายในระดับปานกลาง แน่นอนว่าตอนยังเป็นเด็กน้องๆ จะมีพลังงานสูงมาก แต่ก็จะสงบลงเมื่อเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ แมวบริติช ช็อตแฮร์ ที่โตแล้วส่วนใหญ่เลือกที่จะนอนกลิ้งบนโซฟามากกว่าออกไปเล่นข้างนอก แต่ก็มีน้องแมวบางตัว (ส่วนใหญ่จะเป็นตัวผู้) ที่ยังชอบทำตัวโก๊ะเหมือนเด็กน้อยอยู่


แมวบริติช ช็อตแฮร์ ไม่ค่อยมีชื่อเสียงในเรื่องของการทำลายข้างของและเฟอร์นิเจอร์ น้องๆ มักทำตัวเหมือนเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมมารยาทมาอย่างดีแล้ว และพร้อมที่จะต้อนรับแขกที่มาบ้านด้วยความสุภาพอ่อนโยนแต่มั่นใจสมกับเป็นผู้ดีอังกฤษ
ประวัติความเป็นมา
ถิ่นกำเนิด: อังกฤษ
ประวัติและความเป็นมาของแมวบริติช ช็อตแฮร์
หลายคนอาจไม่เคยสังเกต แต่คุณอาจจะเติบโตมากับแมวบริติช ช็อตแฮร์ ก็เป็นได้ น้องแมวสายพันธุ์นี้ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป แมวบริติช ช็อตแฮร์ ปรากฎอยู่ในนิทานและเรื่องเล่าของประเทศอังกฤษและยุโรปในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเหมียวแสนฉลาด Puss in Boots หรือเจ้าแมวยิ้มกว้าง Cheshire ใน Alice in Wonderland  ต้นกำเนิดของแมวสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) นี้ เชื่อกันว่ามาจากชาวโรมันโบราณที่ได้บุกมายึดครองประเทศอังกฤษและได้นำแมวบ้านสายพันธุ์อียิปต์มาเลี้ยง และเมื่อแมวเหล่านี้ผสมกับแมวป่าสายพันธุ์ยุโรปทั่วไปก็ทำให้ถือกำเนิดสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์  ด้วยการเพิ่มขึ้นของความนิยมในการเลี้ยงแมวในเกรทบริเตนช่วงยุควิคตอเรีย เหล่าผู้คลั่งไคล้แมวได้พยายามทำการปรับปรุงและสร้างมาตรฐานสายพันธุ์ให้กับแมวบริติช ช็อตแฮร์ ว่ากันว่าในงานแสดงโชว์แมวในช่วงแรกนั้น บริติช ช็อตแฮร์เป็นแมวเพียงสายพันธุ์เดียวที่ถือว่าเป็นพันธุ์แท้สงครามโลกทั้งสองครั้งได้ลดจำนวนน้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ ลงไปอย่างมาก หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีแมวบริติช ช็อตแฮร์ เหลืออยู่เพียงน้อยนิด แต่ต้องขอบคุณความพยายามของเหล่านักเพาะพันธุ์และผู้ที่นิยมชมชอบในแมวบริติช ช็อตแฮร์ ที่ทำให้น้องแมวสายพันธุ์นี้กลับมาได้อีกครั้ง สมาคมสายพันธุ์แมวแห่งอเมริกา (American Cat Association) ได้รู้จักแมวบริติช ช็อตแฮร์ มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 แล้วแต่ยังไม่ทำการรับรองสายพันธุ์ให้จนกระทั้งปี ค.ศ.1980 ขนาดของแมวบริติช ช็อตแฮร์


น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ ถือเป็นแมวขนาดกลางค่อนไปใหญ่ โดยเฉลี่ยน้ำหนักตัวอยู่ที่ 3.5 - 9 กิโลกรัม

ความสูงเฉลี่ย 10-14 นิ้ว ความยาวเฉลี่ยอยูที่ 20 – 25 นิ้ว ใบหน้ากลมมีแก้มยุ้ยน่ารัก ในหูขนาดกลางค่อนข้างกลม ดวงตากลมโต รูปร่างกลมอกหนา มีขาที่แข็งแรงพร้อมอุ้งเท้ากลม หางที่หนาปลายมน ทำให้แมวบริติช ช็อตแฮร์ ดูไม่ต่างไปจากน้องตุ๊กตาน่ากอดดีดีนี่เอง
  อย่างก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นน้องแมวพันธุ์ไหน เราควรศึกษาขอมูลของน้อ

งให้ดีก่อนและเลี้ยงดูแลน้องด้วยความรักความใส่ใจ และต้องคำนึงถึงสถานที่ในการเลี้ยงน้องว่าเหมาะกับการเลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์นั้นๆหรือไม่

เนื้อหาโดย: ote1986
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ote1986's profile


โพสท์โดย: ote1986
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: ote1986
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
"เห็ดซิการ์ปีศาจ" รูปร่างเหมือนดอกไม้บาน หนึ่งในเห็ดที่ "หายาก" และ "แปลก" มากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง"ไพรเกสตูเลน" หน้าผาหินแบนสุดอลังการในนอร์เวย์“คาล์ฟคิก” ท่าเตะเงียบที่ทำให้นักมวยไทยหลายคน ยางแตกกลางยกแมงมุมกระโดดเลียนแบบมด ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมด
ตั้งกระทู้ใหม่