ทำไมในตัวหอยถึงมีไข่มุก แล้วทำไมถึงมาราคาแพง
ไข่มุกเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาของหอยต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในตัวหอย สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้อาจเป็นเม็ดทราย เศษเปลือกหอย หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เมื่อสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้เข้าไปสัมผัสกับเนื้อเยื่ออ่อนของหอย จะทำให้หอยเกิดความระคายเคือง หอยจึงจะสร้างสารที่เรียกว่า "แนกเกอ" (nacre) มาเคลือบสิ่งแปลกปลอมนั้น เพื่อปกป้องเนื้อเยื่ออ่อนของตัวเอง
แนกเกอเป็นสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ที่มีรูปร่างเป็นแผ่นบางๆ ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ แนกเกอมีคุณสมบัติที่แข็งแรงและมันวาว ทำให้ไข่มุกมีความสวยงามและมีค่า
ไข่มุกสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในหอยทะเลและหอยน้ำจืด โดยหอยทะเลที่ผลิตไข่มุกได้ เช่น หอยนางรม หอยแครง หอยโข่ง เป็นต้น ส่วนหอยน้ำจืดที่ผลิตไข่มุกได้ เช่น หอยขม หอยโข่งน้ำจืด เป็นต้น
ไข่มุกจากธรรมชาตินั้นหาได้ยากและมีค่ามาก เนื่องจากหอยแต่ละตัวจะสามารถสร้างไข่มุกได้เพียงเม็ดเดียวเท่านั้น ในปัจจุบันจึงมีการเพาะเลี้ยงหอยเพื่อผลิตไข่มุกมากขึ้น ซึ่งสามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณของไข่มุกได้มากกว่าไข่มุกจากธรรมชาติ
ไข่มุกมีราคาแพงเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ดังนี้
* **ความหายาก** ไข่มุกจากธรรมชาตินั้นหาได้ยากมาก เนื่องจากหอยแต่ละตัวจะสามารถสร้างไข่มุกได้เพียงเม็ดเดียวเท่านั้น ไข่มุกจากธรรมชาติจึงมีราคาสูงกว่าไข่มุกเพาะเลี้ยง
* **ความงาม** ไข่มุกมีความสวยงามและเป็นที่ยอมรับมานานในฐานะอัญมณีชั้นสูง ไข่มุกที่มีรูปร่างกลมสมบูรณ์ ผิวเรียบเนียน และสีสันสวยงาม จะมีราคาสูงกว่าไข่มุกที่มีตำหนิหรือรูปร่างไม่สมมาตร
* **ความนิยม** ไข่มุกเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ไข่มุกจึงมีมูลค่าทางจิตใจและยังเป็นที่ต้องการของผู้คนทั่วโลก
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคาของไข่มุก ได้แก่
* **ขนาด** ไข่มุกที่มีขนาดใหญ่จะมีราคาสูงกว่าไข่มุกขนาดเล็ก
* **ชนิดของหอย** ไข่มุกจากหอยบางชนิด เช่น หอยมุกน้ำจืด หอยมุกทะเลใต้ และหอยมุกมาติเกา มีราคาสูงกว่าไข่มุกจากหอยชนิดอื่นๆ
* **วิธีการเลี้ยง** ไข่มุกเพาะเลี้ยงที่เลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ดี มีการดูแลอย่างใกล้ชิด จะมีราคาสูงกว่าไข่มุกเพาะเลี้ยงที่เลี้ยงในสภาพแวดล้อมไม่ดี
โดยสรุปแล้ว ไข่มุกมีราคาแพงเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ทั้งความหายาก ความงาม ความนิยม และปัจจัยอื่นๆ ดังนั้น ไข่มุกจึงถือเป็นอัญมณีที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ใฝ่ฝันของผู้คนทั่วโลก