9 ประเทศขับรถเที่ยวได้ด้วยใบขับขี่ไทย ท่องเที่ยวสบาย ไม่ง้อใบขับขี่สากล
หลายคนก็คงวางแผนอยากขับรถเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวดูสักครั้ง แต่ไม่อยากไปทำเรื่องขอใบขับขี่สากลให้ยุ่งยาก วันนี้วิริยะประกันภัยขอเสนอ 9 ประเทศ ขับรถเที่ยวได้ชิลๆ ด้วยใบขับขี่ไทย เที่ยวได้สบายไม่ต้องง้อใบขับขี่สากล มีประเทศไหนบ้าง ลองอ่านดู แล้วแพ็คกระเป๋าเตรียมตัวออกเดินทางได้เลย
1. ลาว
ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศลาว เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีสำหรับการขับรถไปเที่ยวกับครอบครัว เพราะคุณไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลในการนำรถเข้าประเทศเลย แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีนั้นคือ พาสปอร์ตการเดินทาง หรือจะใช้แค่บัตรประชาชนก็ได้ แต่อาจจะต้องเสียเวลาทำหนังสือผ่านแดนนิดหน่อย ใช้ใบขับขี่รถยนต์ของคุณอีก 1 ฉบับ และเอกสารที่สำคัญสำหรับรถยนต์ของคุณ เพื่อใช้ในการผ่านด่านทั้งขาไป และขากลับ สิ่งสำคัญที่ควรรู้อีกอย่าง คือ ข้อบังคับ รวมถึงกฎระเบียบจราจรของประเทศลาวด้วย เช่น ประเทศลาวนั้นขับพวงมาลัยซ้าย และขับเลนขวาซึ่งแตกต่างจากบ้านเราจึงควรใช้ความระมัดระวัง ปรับตัวให้คุ้นเคยก่อน ควรจำไว้เสมอว่าหากขับขี่ในชุมชน ควรขับอยู่ที่ 40 กม/ชม. หากเป็นเส้นทางหลวง หรือเมืองต่อเมือง จำกัดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กม/ชม.
ข้อควรรู้
- ปั๊มน้ำมันที่ลาวจะมีแค่การเติมน้ำมันเท่านั้น จะไม่มีแหล่งขายอาหารเหมือนปั๊มที่บ้านเรา แต่จะมีตู้บริการขายเครื่องดื่มไว้ให้คุณ
- ห้ามรถทุกชนิดติดตั้งไฟสปอร์ตเพิ่มเติม หากตรวจพบจะถูกปรับ และต้องถอดออกทันที
- เมื่อรถของคุณเกิดเฉี่ยวชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ ตามกฏหมายที่ลาวคุณจะผิดทันที เพราะฉะนั้นควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
- หากจำเป็นต้องหยุดจอดพักรถ เราขอแนะนำให้จอดในพื้นที่ชุมชน หรือในเมืองจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของคุณ
- ในการเดินทางหากรถคุณเสีย ชาวบ้านในบางพื้นที่ของลาวไม่ได้พูดภาษาลาว อาจจะทำให้ลำบากในการขอความช่วยเหลือ
- ระหว่างขับรถในบางพื้นที่คุณอาจจะพบชายฉกรรจ์สะพายปืนอาก้า อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นอันตราย แต่ชายเหล่านั้นคือทหารบ้าน หรือที่คนลาวเรียกว่า ทหารหลอน ซึ่งคือคนที่คอยป้องกันความสงบ และดูแลความปลอดภัยให้กับรถที่สัญจรไป-มา
2. เวียดนาม
ใครมีแพลนจะลองขับรถยนต์ไปเที่ยวที่เวียดนาม ก็สามารถขับรถคู่ใจไปได้ด้วยใบขับขี่ไทยเช่นกัน แต่เอกสารที่สำคัญอื่นๆ ยังต้องมีให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง เช่น รถยนต์ของคุณควรจะมีหนังสือรับรองการตรวจสภาพรถโดยออกให้จากฝั่งบ้านเรา เอกสารสำคัญ พาสปอร์ตของคุณ ควรมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน และถ้าจะให้ดีคุณควรมีใบกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คันที่ใช้ในการขับขี่ระหว่างประเทศด้วย เมื่อรถของคุณอยู่ในประเทศเวียดนามแล้ว ความเร็วที่จำกัดเขตชุมชนอนุญาตให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 60 กม/ชม. พ้นเขตชุมชนสามารถทำความเร็วได้ไม่เกิน 90 กม/ชม.
ข้อควรรู้
- ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มีกฎหมายการจราจรที่เคร่งครัดมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เราขอแนะนำให้คุณทำตามกฎระเบียบจะดีที่สุด
- หากคุณฝ่าฝืนความเร็วกล้องจะตรวจจับทันที และคุณต้องไปจ่ายค่าปรับที่สูงตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท ขอย้ำว่าเป็นค่าเงินบาท ไม่ใช่ค่าเงินดงของเวียดนาม
- ระวังฝูงวัว ฝูงสัตว์ต่างๆ ที่ชอบเดินตัดมาอยู่บนถนนในขณะที่รถคุณกำลังวิ่ง
- การบีบแตรรถยนต์เพื่อขอทางหรือบอกให้รถคันอื่นหลบคุณนั้นไม่ได้ผล เพราะการบีบแตรที่เวียดนามหมายถึงคุณแค่บอกตำแหน่งรถที่คุณอยู่เพียงเท่านั้น
3. กัมพูชา
เป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยู่ในสมาชิก AEC ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลในการขับรถยนต์ส่วนตัวของคุณไปตะลุยที่ดินแดนแห่งอารยธรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นนครวัดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หรือปราสาทพระวิหาร หากคุณชื่นชอบเที่ยวแบบชื่นชมกับธรรมชาติรอบตัวประเทศกัมพูชาน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่น้อย แต่ก่อนจะออกเดินทางเอกสารสำคัญอื่นๆ ก็ควรจะเตรียมไปให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นเล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริง ใบขับขี่แบบรุ่นใหม่ พาสปอร์ต และบัตรประชาชนตัวจริงของคุณ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหตุการณ์ติดอยู่ที่ด่านเป็นเวลานาน หรือเสียค่าปรับอื่นๆ อีกเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้ไว้ก่อนนำรถคู่ใจคุณวิ่งในเขตของประเทศกัมพูชา การจำกัดความเร็วรถยนต์จะต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. นอกเขตเมือง ผู้ขับขี่รถทุกประเภทกำหนดใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.
ข้อควรรู้
- การขับรถที่กัมพูชาเป็นการขับชิดขวา และพวงมาลัยอยู่ทางซ้าย ถ้าหากคุณขับรถช้าให้ขับที่เลนกลาง
- การไปกัมพูชาไม่ต้องขอวีซ่าโดยสามารถอยู่ได้ถึง 14 วัน
- ที่นี่ปั๊มมีน้อยมาก และในปั๊มไม่มีห้องน้ำ ควรเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไปเผื่อด้วย
4. พม่า
ปัจจุบันประเทศที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งที่ก็คือ ประเทศพม่า เสน่ห์ของการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นคือ คุณจะได้ชมทิวทัศน์ ทัศนียภาพและความสวยงามของธรรมชาติ ของสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมได้อย่างชิลๆ การขับรถเที่ยวที่นี่ใช้ใบขับขี่ไทยได้ไม่มีปัญหา แต่ต้องมีเอกสารที่สำคัญอื่นๆ เตรียมไว้ด้วย เช่น พาสปอร์ตรถเล่มสีม่วง หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถ สติ๊กเกอร์ตัว T ขอได้จากขนส่งทางบ้านเราเพื่อนำมาติดหน้ารถและกระจกหลังรถ แผ่นป้ายทะเบียนรถภาษาอังกฤษ ใบอนุญาตขับรถ ใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือเล่มทะเบียนรถตัวจริง และพาสปอร์ตของคุณ โดยสามารถขับรถผ่านที่ด่านแม่สอด จ.ตาก หรือที่ด่านท่าขี้เหล็ก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก็ได้เหมือนกัน
ข้อควรรู้
- รถยนต์ในพม่ากำหนดให้ขับรถชิดเลนขวา และขับพวงมาลัยซ้าย แต่รถยนต์กว่า 90% เป็นรถพวงมาลัยขวา ดังนั้นเราอยากแนะนำให้คุณขับขี่ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
- หากคุณมีความจำเป็นต้องขับขี่ตอนกลางคืน รถยนต์ที่นี่สามารถเปิดไฟสูงได้โดยไม่ผิดกฏหมาย เนื่องจากว่าทางมืดมาก
- เมืองย่างกุ้งไม่อนุญาติให้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ นอกจากเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น
- รถทุกคันที่จะขับผ่านด่านจะต้องจ่ายค่าผ่านทางทุกคัน ไม่เว้นแม้แต่รถทหาร ไปจนถึงรถท่านทูต
5. มาเลเซีย
หากใครสนใจขับรถไปเที่ยวประเทศมาเลเซียก็สามารถไปได้โดยที่ไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลเช่นกัน ถือว่าเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของเราที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย การไปเที่ยวที่นี่เพียงคุณมีพาสปอร์ตเล่มเดียวก็เที่ยวได้ชิลๆ แต่ถ้าเผื่อไว้ให้ชัวร์ก็ควรเตรียมใบขับขี่รถแบบ Smart Card ป้ายทะเบียนรถสีดำที่เป็นภาษาอังกฤษ และขอใบอนุญาตินำรถเข้าประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้นสามารถนำรถคู่ใจไปตะลุยข้ามแดนที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมท่องเที่ยวและรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รอคุณอยู่ที่ประเทศมาเลเซียได้เลย
ข้อควรรู้
- ผู้คนที่นี่ขับรถเร็วมาก สามารถขับขวาได้แต่ต้องระวังรถด้านหลัง เพราะที่นี้เขาจะไม่ ขับแซงคุณแต่จะใช้วิธีการขับจี้ และเปิดไฟใส่คุณแทน
- เติมน้ำมันที่มาเลเซียนั้นราคาถูก แต่ถ้าคุณขับรถไม่ไกลเกิน 150 กม. สำหรับคนไทยจะให้เติมได้แค่ 20 ลิตร
- ที่มาเลเซียมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์เยอะมาก มีการขับสวนเลนเยอะ เราอยากแนะนำให้คุณระมัดระวัง และเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวทุกครั้ง
- หากคุณขับที่ทางหลวงไฮเวย์จะมีการแบ่งเลนไว้อย่างชัดเจนมาก หากขับช้าให้วิ่งเลนซ้าย ถ้าขับเร็วให้วิ่งเลนขวา ส่วนเลนกลางสำหรับรถบรรทุก และรถจักรยานยนต์เท่านั้น
6. อินโดนีเซีย
หากใครสนใจการท่องเที่ยวแบบขับรถส่วนตัวไปเที่ยวที่ดินแดนภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ก็สามารถขับไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลเช่นกัน เพียงแค่มีใบขับขี่ไทย หรือใบขับขี่แบบใหม่ที่เป็นแบบ Smart Card และพาสปอร์ต ก็สามารถตะลุยเที่ยวได้เลย การขับขี่รถในประเทศอินโดนีเซียจะใช้การจราจรทางซ้ายและขับพวงมาลัยทางขวา เมื่อนำรถคู่ใจของคุณตะลุยไปเที่ยวก็ควรใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรรู้
- การจราจรในอินโดนีเซียค่อนข้างมีความติดขัดมาก หากขับขี่โดยรถจักรยานยนต์จะทำให้เดินทางสะดวกได้ไวมากกว่า
- บุคคลสัญชาติไทยได้รับอนุญาติให้อยู่ในอินโดนีเซียได้ 30 วัน โดยหนังสือเดินทางต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน
- พยายามหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วชี้ ชี้ไปที่คนหรือสิ่งของ เพราะนั้นอาจหมายถึงว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพสำหรับคนอินโดนีเซีย
7. บรูไน
บรูไนเป็นประเทศเล็กๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่ก็ถือว่าติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และที่สำคัญบรูไนก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย การไปขับรถเที่ยวที่บรูไนก็ทำได้ง่ายๆโดยใช้ใบขับขี่ไทย แต่สิ่งที่คุณควรจะมีเตรียมไว้คือ ใบขับขี่แบบ Smart Card และพาสปอร์ตของคุณ รวมทั้งบุคคลที่ร่วมเดินทางไปพร้อมกับคุณด้วย การขับขี่ที่นี่ค่อนข้างจะขับง่ายเพราะถนนดีและผู้คนส่วนใหญ่มักเคารพกฎจราจร
ข้อควรรู้
- บุคคลสัญชาติไทยจะได้รับอนุญาติให้เดินทางทางมาพำนักอยู่ในประเทศได้ในระยะเวลา 14 วัน
- หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วชี้ชี้ไปที่ตัวบุคคล หรือสิ่งของ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพสำหรับคนบรูไน
- ห้ามบีบแตรรถยนต์ หากไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เพราะชาวบรูไนถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพ
- การขับขี่รถยนต์ตามธรรมเนียมของบรูไนจะต้องหยุดให้ผู้คนข้ามทางม้าลายก่อนเสมอ
- หากคุณกระพริบไฟหน้ารถนั้นถือว่าเป็นการให้ทางสำหรับประเทศบรูไน
8. ฟิลิปปินส์
การแพลนไปเที่ยวฟิลิปปินส์ในวันหยุดยาวก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเช่นกัน แต่การขับรถยนต์ในฟิลิปปินส์นั้นพวงมาลัยจะอยู่ด้านซ้าย และขับเลนขวา ซึ่งแตกต่างกับประเทศไทย ดังนั้นก่อนที่จะไปขับรถเที่ยวที่นั่น ต้องจำไว้ว่าการเลี้ยวขวาจะผ่านตลอด และเลี้ยวซ้ายคุณจะติดไฟแดง
ข้อควรรู้
- บุคคลสัญชาติไทยสามารถท่องเที่ยวเข้า-ออกฟิลิปปินส์ได้แต่ต้องได้ไม่เกิน 30 วัน
- ช่วงที่เหมาะกับการไปเที่ยวมากที่สุดคือช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด
- ฟิลิปปินส์ค่อนข้างรถติดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เราอยากให้คุณวางแผนการเดินทางก่อนเสมอ
9. สิงคโปร์
ประเทศสิงคโปร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความน่าสนใจสำหรับคนไทย ทั้งสถานที่สวย และการเดินทางก็สะดวก ที่สำคัญไม่ต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศ หากคุณมีแพลนอยากลองขับรถตะลุยที่นั่น ต้องขับผ่านที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ผ่านเข้าประเทศมาเลเซียก่อน แล้วค่อยขับต่อไปเที่ยวในสิงคโปร์ เตรียมแค่ใบขับขี่ไทยก็ได้ขับรถเที่ยวชิลๆ แต่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจด้วยว่าประเทศสิงคโปร์เป็นเกาะเล็กๆ มีเขตชุมชนเยอะ รถจึงถูกจำกัดความเร็วอยู่ที่ 50 กม./ชม. หากอยู่บนทางด่วน ควรไม่เกิน 70-90 กม./ชม.
ข้อควรรู้
- มีกฏหมายบังคับการเปิดไฟหน้ารถโดยจะต้องเปิดในระหว่างเวลา 19:00 น. ถึง 07:00 น. ของเช้าวันถัดไป
- การเปิดไฟเลี้ยว ขณะที่ติดสัญญาณไฟแดงนั้น ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ต้องเปิดตอนไฟเขียวแล้วเท่านั้น
- อย่าใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ และต้องรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง