แพทย์ออกมาเตือน! ผงชูรสกินได้..แต่อย่ามากจนเกินไป
"พล.ท. นพ. สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ" ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำ รพ.พระมงกุฎ และ รพ.รามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ก็ได้ออกมาเตือนด้วยว่า "ผงชูรสแท้น่ะกินได้ แต่ถ้ามากเกินไปก็ไม่ดี" โดยทางคุณหมอ ก็ได้สรุปให้ฟังเอาไว้ว่า
"สำหรับผงชูรสนั้น แม้จะได้รับการยืนยันแล้วว่า มันผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ดั้งนั้นจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา แต่ถ้าหากเรารับประทานผงชูรสมากเกินไป ก็จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมมากเกินไป อาจส่งผลต่อความดันโลหิตสูงขึ้นได้ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และโรคไตเรื้อรัง นอกจากนี้ การรับประทานผงชูรสมากเกินไป อาจเกิดอาการแพ้ผงชูรส หรือโรคภัตตาคารจีน (Chinese Restaurant Syndrome หรือ CRS) ซึ่งทำให้เกิดอาการชาที่ปาก ลิ้น ปวดกล้ามเนื้อตามบริเวณต้นคอ โหนกแก้ม แผ่นหน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก กระหายน้ำ ปวดท้องคลื้นไส้ อาเจียน ส่วนผู้ที่แพ้ผงชูรสมากๆ นั้น ก็จะเกิดอาการชาบริเวณใบหน้า และหู วิงเวียน หัวใจเต้นเร็วจนอาจเป็นอัมพาตตามแขนขาชนิดชั่วคราวได้ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2 ชั่วโมง รวมถึงไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ นักกำหนดอาหารบอกว่า โดยเฉพาะหญิงมีครรภ์ก็ไม่ควรกินผงชูรสโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะส่งผลต่อทารกภายในครรภ์ได้ สำหรับทารกแรกเกิดถึง 3 เดือนนั้น หากได้รับผงชูรสเข้าไป ก็จะส่งผลกระทบกับการเจริญเติบโตของสมองในวัยเด็กนี้อีกด้วย"
สำหรับวิธีการรับประทานผงชูรสให้ปลอดภัย แนะนำว่าให้ปรุงอาหารด้วยตนเอง เนื่องจากว่า เราสามารถที่จะกำหนด และควบคุมปริมาณของผงชูรสได้ โดยปริมาณของผงชูรสที่สามารถรับประทานได้ โดยไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไตเรื้อรังก็คือ ปริมาณ 1 ช้อนชาต่อมื้อ โดยไม่ใส่เครื่องปรุงอื่นๆ เพิ่มเติม การปรุงอาหารประเภทน้ำซุป ควรที่จะใช้น้ำต้มกระดูกในการทำน้ำสต็อกแทนการใส่ผงชูรสมากๆ