มหาวิทยาลัยของไทยที่มีจีนเป็นผู้ถือหุ้นและบริหาร
ตามการเปิดเผยของกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. เมื่อต้นปี 2566 ปีการศึกษา 2565 มีนักศึกษาต่างชาติในไทยทั้งหมด 36,060 คนและเป็นนักศึกษาจีนไปแล้ว 21,906 คนจำนวนของนักศึกษาจีนเพิ่มขึ้นถึง 9 เท่าจากเมื่อปี 2553 ที่มีนักเรียนจีนราวๆ 2,000 คนเท่านั้น ปัจจุบันชาวจีนส่วนใหญ่เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนเกือบ 70% มากที่สุดอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกริก ซึ่งมีนักศึกษาชาวจีนอยู่ 4,199 คน จากนักศึกษาทั้งหมด 6,341 คน ตามข้อมูลจากอว.ปีการศึกษา 2565 ภาคเรียนที่ 1
นักศึกษาจีนเริ่มมาเรียนในไทยตั้งแต่ช่วงปี 1980 จากนโยบายเปิดประเทศของจีนที่ต้องการให้คนจีนระดับหัวกะทิอย่างนักเรียนทุนหรือตัวแทนรัฐบาลออกไปเห็นโลกกว้าง แต่ช่วงที่นักศึกษาจีนเข้ามาเยอะเป็นช่วงตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา หลังจากที่จีนเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก การออกไปเรียนต่างประเทศของชาวจีนก็เพิ่มขึ้น ในประเทศไทยไทยเองก็มี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นที่แรกที่เปิดหลักสูตรนานาชาติ ช่วงนั้นชาวจีนเข้ามาเพื่อเรียนภาษาอังกฤษ แต่หลังจากนั้นก็เข้ามาอย่างต่อเนื่องพร้อมๆกับการขยายของมหาวิทยาลัยเอกชนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
มหาวิทยาลัยเอกชน 3 แห่ง ที่มีชาวจีนเข้ามาร่วมทุนซื้อกิจการ มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างมีต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้น โดยมีผู้บริหารและกรรมสภามหาวิทยาลัยที่เป็นชาวจีน คือ มหาวิทยาลัยเกริก มหาวิทยาลัยเมธารัถย์(ชื่อเดิมมหาวิทยาลัยชินวัตร) และมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
สัดส่วนของคณะผู้บริหาร 3 มหาวิทยาลัยข้างต้นก็มีคนจีนอยู่ด้วย ดังนี้ มหาวิทยาลัยเกริกมีนายกสภาและอธิการบดีเป็นคนไทย มีกรรมการสภาที่เป็นชาวจีนประมาณ 17% ซึ่งยังเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยเมธารัถย์ ที่มีกรรมการสภาเป็นชาวจีนประมาณ 40% มีนายกสภาและอธิการบดีเป็นชาวจีน และ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด จากเดิมผู้ถือหุ้นเป็นชาวสิงคโปร์ แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชาวจีน มีกรรมการสภาเป็นชาวจีนประมาณ 40% มีนายกสภาเป็นชาวจีน อธิการบดีเป็นคนไทย