เทคนิครับมือคนยืมเงินแล้วไม่คืน
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาคุยกันเรื่องเทคนิครับมือคนยืมเงินแล้วไม่คืน ปัญหานี้เป็นเรื่องที่สร้างความปวดหัวให้กับใครหลายคน เพราะนอกจากจะเสียเงินแล้ว ยังอาจทำให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวเสียหายได้อีกด้วย
เทคนิคแรก คือ เช็กอาการผู้ที่จะมายืมเงิน ก่อนที่จะตัดสินใจให้ยืม ควรสังเกตพฤติกรรมของผู้ขอยืมก่อนว่าเป็นคนมีวินัยทางการเงินหรือไม่ เคยยืมเงินแล้วไม่คืนหรือไม่ ถ้าเคยมีประวัติยืมแล้วไม่คืน ก็ควรคิดหนักก่อนตัดสินใจให้ยืม เพราะมีโอกาสสูงที่จะถูกโกง
เทคนิคที่สอง คือ ความสัมพันธ์มีโอกาสเป็นศูนย์ ถ้าคนที่ขอยืมเงินเป็นแค่คนรู้จักหรือเพื่อนฝูงที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ความเสี่ยงที่จะถูกโกงก็จะสูงขึ้น เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มีความผูกพันกับเรามากนัก จึงอาจไม่รู้สึกผิดหากไม่คืนเงิน
เทคนิคที่สาม คือ ให้ไปเลยแต่พอสมเหตุสมผล ถ้าตัดสินใจให้ยืมเงินจริงๆ ก็ควรให้ในจำนวนที่พอเหมาะ ไม่ควรให้มากเกินไป เพราะยิ่งให้มาก ก็ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะไม่ได้คืน
เทคนิคที่สี่ คือ ให้ยืมแบบมีข้อแลกเปลี่ยนชัดเจน เช่น ให้ยืมเงินแล้วต้องเซ็นสัญญากู้ยืมเงิน ระบุจำนวนเงิน อัตราดอกเบี้ย และกำหนดวันคืนเงินให้ชัดเจน การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะได้รับเงินคืน
เทคนิคที่ห้า คือ ช่วยเหลือแบบอื่น หรือหาต้นเหตุของหนี้ ถ้าเป็นไปได้ แทนที่จะให้ยืมเงิน ก็อาจช่วยหาวิธีอื่นในการช่วยเหลือ เช่น แนะนำให้หางานทำ หรือช่วยหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น
เทคนิคที่หก คือ สวมบทคนจู้จี้ถามซอกแซก เช่น ถามถึงเหตุผลที่ขอยืมเงิน แผนการใช้เงิน และกำหนดวันคืนเงินให้ชัดเจน การถามคำถามเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์ของผู้ขอยืมเงินมากขึ้น และอาจช่วยให้ได้รับเงินคืนเร็วขึ้น
เทคนิคที่เจ็ด คือ ขอเวลาคิดระยะยาว (มาก) ถ้ายังไม่ตัดสินใจว่าจะให้ยืมหรือไม่ ก็อาจขอเวลาคิดสักระยะหนึ่ง ไม่ควรตัดสินใจให้ยืมเงินทันที เพราะอาจทำให้เราเสียใจภายหลัง
เทคนิคที่แปด คือ บอกให้ชัดว่าไม่ให้ยืม เพราะเคยมีประสบการณ์น่าผิดหวัง ถ้าเคยมีประสบการณ์ถูกโกงจากการให้ยืมเงิน ก็ควรบอกผู้ขอยืมตรงๆ ว่าไม่ให้ยืม เพราะไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราเสียหาย
เทคนิคเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางในการรับมือคนยืมเงินแล้วไม่คืนเท่านั้น แต่ละคนอาจต้องปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้ขอยืมเงิน
สุดท้ายนี้ ผมขอฝากข้อคิดไว้ว่า การให้ยืมเงินเป็นเรื่องของความเสี่ยง หากไม่แน่ใจว่าจะรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่ ก็ควรหลีกเลี่ยงการให้ยืมเงินจะดีที่สุด