มหาวิทยาลัยที่เข้าเรียนยากที่สุดในโลก
มหาวิทยาลัยที่เข้ายากที่สุดในโลกนั้นขึ้นอยู่กับเกณฑ์การวัดที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยที่มีอัตราการรับนักศึกษาเข้าเรียนต่ำและการแข่งขันสูงมักจะถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยที่เข้ายากที่สุด ตัวอย่างของมหาวิทยาลัยที่เข้ายากที่สุดในโลก ได้แก่
1.มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
(Harvard University) สหรัฐอเมริกา
2.สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์
(Massachusetts Institute of Technology) สหรัฐอเมริกา
3.มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
(University of Cambridge) สหราชอาณาจักร
4.มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
(University of Oxford) สหราชอาณาจักร
5.สถาบันเทคโนโลยีแห่งอิลลินอยส์
(University of Illinois at Urbana-Champaign) สหรัฐอเมริกา
6.มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
(Stanford University) สหรัฐอเมริกา
8.สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย
(California Institute of Technology) สหรัฐอเมริกา
9.มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
(Columbia University) สหรัฐอเมริกา
มหาวิทยาลัยเหล่านี้ล้วนเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ มีชื่อเสียงในด้านการเรียนการสอนและการวิจัยระดับสูง จึงทำให้มีผู้สมัครเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อัตราการรับนักศึกษาเข้าเรียนต่ำมาก โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีอัตราการรับนักศึกษาเข้าเรียนเพียง 5.2% ซึ่งเป็นอัตราการรับนักศึกษาเข้าเรียนที่ต่ำที่สุดในโลก
นอกจากปัจจัยด้านอัตราการรับนักศึกษาเข้าเรียนแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อความยากในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ได้แก่
1.คะแนนสอบเข้า
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่กำหนดคะแนนสอบเข้าที่สูง เช่น คะแนน SAT หรือ ACT ของสหรัฐอเมริกา คะแนน A-Level หรือ IB ของสหราชอาณาจักร
2.เกรดเฉลี่ย
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการเกรดเฉลี่ยในระดับสูง เช่น GPA 3.8 ขึ้นไป
3.กิจกรรม extracurricular
มหาวิทยาลัยมักพิจารณากิจกรรม extracurricular ของนักศึกษา เช่น กิจกรรมชมรม กิจกรรมอาสาสมัคร กิจกรรมกีฬา เป็นต้น
4.จดหมายแนะนำ
มหาวิทยาลัยมักพิจารณาจดหมายแนะนำจากอาจารย์หรือบุคคลที่รู้จักนักศึกษาเป็นอย่างดี
หากต้องการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่เข้ายากที่สุดในโลก นักศึกษาจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมในทุกด้าน ทั้งในด้านวิชาการ กิจกรรม extracurricular และบุคลิกภาพ เพื่อให้มีโอกาสในการเข้าเรียนมากที่สุด