เรื่องแปลกแต่จริง ตอนเจดีย์ยักษ์

เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นตอนผู้เขียนอายุสิบขวบ จำได้ว่าวันนั้นพ่อพาแก๊งของเราสามสี่คนขับรถเที่ยวในตำบล ก่อนจะมาจบที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีจุดเด่นคือ เจดีย์สูงเก้าชั้น ตัวเจดีย์นี้สร้างมาแต่สมัยใดไม่ทราบได้ ทว่าดูเหมือนไม่เคยใช้งานมาก่อน คนสามารถเดินเข้าไปชมภายในเจดีย์ได้ พอเข้าไปจะพบเป็นห้องโถงโล่งๆ มีตู้ชั้นวางว่างเปล่าตั้งตามมุมต่างๆ พื้นที่โดยรอบเขลอะไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเลย
บรรยากาศภายในเงียบวังเวง พ่อนำเราและเพื่อนๆ เข้าไปภายใน เห็นครั้งแรกค่อนข้างผิดหวัง ไม่คิดว่าด้านในจะไร้ชีวิตชีวาขนาดนี้ แต่ก็ยอมเดินตามพ่อขึ้นบันไดไปชมชั้นอื่นๆ อยากรู้ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้างหรือไม่ แล้วพบว่าไม่ต่างจากชั้นแรกเลย ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ยังไม่ถอยหลังกลับ คุยกันว่าจะลองขึ้นไปดูบนยอดเจดีย์สักหน่อย จะเป็นยังไง เราเดินตามไปก็อดระแวงบรรยากาศภายในเจดีย์นี้ไม่ได้ บอกไม่ถูกเหมือนกันเพราะอะไร ตอนนั้นคิดแค่จะต้องพยายามเกาะกลุ่มไว้ให้ดี ถ้าคลาดกันคงจะหลอนมาก
สองขาเหยียบบันไดเหล็กแคบและชันตามทุกคนขึ้นไปเรื่อยๆ พลางสายตาก็สอดส่ายดูนั่นนี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จนกระทั่งถึงชั้นหนึ่ง จู่ๆ เราก็รู้สึกว่าเจดีย์นี้ยวบยาบเด้งดึ๋งราวกับเยลลี่ขึ้นมา ทั้งตัวเริ่มสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว หนำซ้ำยังโคลงไปมาไม่รู้ทิศทางแทบจะร่วงจากบันได นาทีนั้นสองมือรีบคว้าราวแน่น แต่กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด ราวบันไดที่จับก็โยกคลอนคล้ายจะเหวี่ยงเราลงจากบันไดเช่นกัน ทุกคนมองมาด้วยความงงงวยแต่ก็ยังมีน้ำใจช่วยเข้ามาปลอบ เรามองหน้าพ่อและเพื่อนที่เหลือเพื่อสังเกตความผิดปกติจากอีกฝ่าย ทว่าไม่มีใครมีอาการแปลกๆ เหมือนกันสักคน
สุดท้ายตัดสินใจฝืนตัวเองเข้าไปหาพ่อก่อนจะกอดแขนแข็งแรงไว้แน่น พลางพยายามเรียกสติตัวเองไปด้วย พ่อถามไถ่อย่างเป็นห่วงอยู่ตลอด แต่ไม่นานนักอาการประหลาดก็ค่อยๆ ลดความรุนแรงลงจนเราบอกให้ทุกคนไปต่อเถอะ เพราะอีกใจก็อยากจะขึ้นไปดูบนยอดเหมือนกันว่าที่นั่นมีอะไรพิเศษไหม ประกอบกับแขนแข็งแรงมั่นคงของพ่อทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมากจึงไม่นึกกลัวนัก
ก้าวขาขึ้นไปขั้นแล้วขั้นเล่า ระหว่างนั้นดูเหมือนอาการน่าพิศวงเมื่อก่อนหน้าจะเบาบางลงมากทีเดียว พวกเราเดินกันจนถึงยอดเจดีย์สมใจ แต่ด้านบนแทบไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาเลยนอกจากยอดแคบๆ และกระจกบานเล็กให้สามารถมองลอดออกไปชมทิวทัศน์ภายนอกได้เล็กน้อยเท่านั้น ตอนนั้นหลายคนเริ่มหมดความสนใจในตัวเจดีย์หลังนี้มากแล้ว พอเห็นกับตาว่าด้านบนเป็นยังไงก็ชวนกันกลับลงไปที่รถ คราวนี้ตอนลงพบว่าทุกอย่างปกติดี และปลอดภัยกันทุกคนกระทั่งขึ้นรถกลับ
เพื่อนๆ คิดว่าสิ่งที่เราเผชิญตอนนั้นคืออะไรกันคะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย แต่ยังไงก็เป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัว ใครจะเชื่อมากน้อยแค่ไหน ยกให้เป็นวิจารณญาณของเพื่อนๆ ได้เลย หรือใครมีอะไรอยากแลกเปลี่ยนก็ยินดีมากๆ อย่าลืมตามไปเจอกันเรื่องหน้าด้วยจ้า
ผู้เขียน ปุณณ์ศศิภัสร์
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
บริษัท "แอปเปิ้ล" เปลี่ยนโลโก้ของบริษัทอย่างเงียบๆ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ทหารช่าง นาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ชายแดนตราด
สูญเสียขาที่ 8 "จ่าทหารเรือ" เหยียบกับระเบิดกัมพูชาขณะลาดตระเวนที่ จ.ตราด
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
เทรนด์เดินเล่นหลังเลิกงานกลับมาอีกครั้ง คนเมืองหันมาพักใจแบบไม่เร่งรีบ
จากตุ๊กตานุ่ม ๆ สู่ยอดขายพันล้าน ‘เจลลี่แคท’ พิชิตใจชาวจีนได้อย่างไร
อื้อหือ อย่างโหด กรงเล็บของ "มังกรโคโมโด" ตะกวดยักษ์แห่งอินโดนีเซีย
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สูญเสียขาที่ 8 "จ่าทหารเรือ" เหยียบกับระเบิดกัมพูชาขณะลาดตระเวนที่ จ.ตราด
จากตุ๊กตานุ่ม ๆ สู่ยอดขายพันล้าน ‘เจลลี่แคท’ พิชิตใจชาวจีนได้อย่างไร
กระถางต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะทำงาน เรื่องเล็กๆ ที่ช่วยให้ใจเราเบาลงโดยไม่รู้ตัว
"วัดโพธิ์เก้าต้น" วัดดัง เก่าแก่ แห่งค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
"บ้านรักษ์ริมน้ำ" หลากหลายมุมเหมือนประหนึ่งมาทะเล สวยงามบรรยากาศหลักล้าน
"แผ่นดินของเรา"ความจริงจะคงอยู่ ใครแย่งของใครไปความจริงไม่มีใันบิดพริ้ว
"รอยยิ้มสร้างได้เสมอ"อากาศหนาวเราห่วงใย ใส่หมวกให้น้องยัฝมอบไออุ่น
ความสุขของสายใจผ่อนคลายจากสายน้ำ "น้ำตกวังเดือนห้า คอนสาร"