พระพุทธรูปโบราณสองเศียร (Two headed Buddha)เป็นพระพุทธรูปสวยงาม หายากมาก!
พระพุทธรูปโบราณสองเศียร (Two headed Buddha)
เป็นพระพุทธรูปสวยงาม หายากมาก ทำขึ้นจากดินเผาดินเหนียว เป็นศิลปะจีน ราวคริสต์ศตวรรษที่ 13-14
ค้นพบโดย คอซลอฟ (Pyotr Kuzmich Kozlov ) นักสำรวจโบราณคดีชาวรัสเซีย ซึ่งเข้ามาสำรวจ เมื่อช่วงปีค.ศ. 1907–1909. พบอยู่ในซากสถูปเจดีย์ที่เมืองคารา โคโต( khara khoto). ที่ปัจจุบันอยู่ ในทะเลทรายโกบี Gobi Desert เขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน.
คอซลอฟ Kozlov เลยขนพระพุทธรูปสองเศียร .พร้อมกับโบราณวัตถุอีกหลายชิ้น.โดยเฉพาะหนังสือในภาษาของชนเผ่าทังกุส(Tangut) มากกว่า2,000 เล่ม .ขนกลับไปประเทศรัสเซีย ปัจจุบัน จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก ประเทศรัสเซีย
มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปสองเศียรนี้ว่า สมัยนั้น มีชายสองคนผู้ศรัทธา และอุทิศให้กับคำสอนในพระพุทธศาสนาเสมอมา. วันหนึ่งพวกเขาทั้งคู่.ต่างฝันเห็นพระพุทธเจ้าพร้อม ๆ กัน แต่เนื่องจากยากจนไม่สามารถสร้างพระพุทธรูปตามความฝันได้สององค์ จึงให้ช่างสร้างองค์พระพุทธรูปขึ้นองค์เดียว สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นถึงความศรัทธาของชายทั้งสอง
ด้วยพระเมตตาจึงปรากฏเป็นสองเศียร แต่บ้างก็เล่าว่าเหตุที่มีสองเศียรเพราะ ชายทั้งสองขอให้ช่างปั้น ปั้นให้โดยมีหน้าตาตามความฝันของแต่ละคน ซึ่งรูปปั้นทำจากวัสดุเรียบง่าย อาทิ ฟาง และศิลปินได้ให้รอยยิ้มแห่งความปรารถนาดีและเห็นอกเห็นใจ บนพระพักตร์พระพุทธองค์
พระพุทธรูปสองเศียรนี้สร้างขึ้นในยุคอาณาจักรซี-เซีย (State of Xi-Xia) ซึ่งเป็นอาณาจักรของชนเผ่าทังกุท(Tangut State) .ซึ่งเป็นชนเชื้อสายธิเบต
อาณาจักรแห่งนี้ มีอยู่ ในช่วงปี 1038–1227 ณ บริเวณที่ปัจจุบันคือ เขตกานซู ชิงไห่ ซินเจียง มองโกเลียนอก มองโกเลียใน ส่านซี และหนิงเซี่ย ของสาธารณรัฐประชาชนจีน.. กินพื้นที่ราวแปดแสนตารางกิโลเมตร..
อาณาจักรซินเซี่ย ต้องล่มสลายลงไปเพราะถูกพวกมองโกลจากอาณาจักรมองโกลทำลายโดยสิ้นเชิง เป็นเหตุให้บันทึกและสถาปัตยกรรมล้วนดับสูญ