จับ "ต่อ เรืองฤทธิ์" ดาราดัง เมาแล้วขับ ผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พุ่งสูงถึง 235
เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.จร. ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์บริเวณถนนรามอินทรา ขาออก ช่วงทางลงด่วนวัชรพล พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ษล 5253 กทม. ขับมาลักษณะต้องสงสัยว่าจะมีอาการมึนเมา จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผ่านทางลมหายใจ
เบื้องต้นพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์ 235 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่ถือว่าสูงมาก เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงเชิญผู้ขับขี่ออกจากรถตรวจสอบทราบชื่อ นายเรืองฤทธิ์ หรือ ต่อ วิสมล อายุ 49 ปี ดารานักแสดง รับบทเป็นตัวร้ายในละครช่องดัง เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกผลตรวจวัดไว้เป็นหลักฐาน
ระหว่างที่ดารานักแสดงคนดังกล่าวอยู่ที่ด่านตรวจวัด ได้แสดงอาการท่าทางไม่พอใจและโวยวายการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและไม่ยอมให้ควบคุมตัว ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อมาถึง สน.บางเขน ดาราคนดังกล่าวก็ยังคงมีท่าทางโวยวายขัดขืนไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานสอบสวน พร้อมปฏิเสธที่จะเซ็นชื่อรับทราบข้อกล่าวหาในบันทึกจับกุม และใบตรวจวัดแอลกอฮอล์
เจ้าหน้าที่พยายามอธิบายถึงข้อกฎหมายให้ทราบนานกว่า 1 ชั่วโมงก่อนที่นายเรืองฤทธิ์ จะสงบสติอารมณ์และยินยอม โดยใช้เงินสด 20,000 บาท ในการประกันตัว ก่อนประสานญาติให้มารับตัวกลับบ้านไป
นายเรืองฤทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้โวยวายใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันเล็กน้อย และตนยอมรับว่าดื่มสุราในงานเลี้ยงสังสรรค์แห่งหนึ่ง ขณะขับรถยนต์เดินทางกลับบ้านพักย่านรามอินทรา ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและควบคุมตัวมาที่ สน.บางเขน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งนัดหมายนายเรืองฤทธิ์ ให้มาพบพนักงานสอบสวน เวลา 09.00 น.ของวันที่ 22 ธันวาคม 2566 เพื่อนำส่งฟ้องศาลมีนบุรี ในข้อหา “ขับรถขณะเมาสุรา” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ประเด็นที่น่าสนใจของข่าวนี้คือ
- ดารานักแสดงชื่อดังถูกจับเมาแล้วขับ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น
- ปริมาณแอลกอฮอล์ของนายเรืองฤทธิ์สูงมากถึง 235 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง
- นายเรืองฤทธิ์มีท่าทางไม่พอใจและโวยวายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์บานปลายได้
ทั้งนี้ การกระทำของนายเรืองฤทธิ์ถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม และควรระมัดระวังในการดื่มสุราและขับขี่ยานพาหนะ