เด็กช่างจิตนาการ
วันหนึ่งมีสองแม่ลูกคู่หนึ่งออกจากบ้านตนเอง ขับรถของตัวเองกันสองคนแม่ลูกและได้ไปเดินห้างกันที่ร้านขนมแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมืองหลวงกรุงเทพนั้นเอง และลงจากรถเดินเข้าไปในห้างตรงไปร้านขนม ทั้งคู่ได้เลือกซื้อขนมกันอยู่ในร้าน ฝ่ายลูกสาวเกิดความสงสัยว่าทำไมขนมชิ้นนี้ถึงมีสีเหมือนวัวจึงงง และถามผู้เป็นแม่ทันที
"แม่ทำไมวัวถึงได้ตัวเล็กจังเลยคะ" เด็กน้อยเกิดความสงสัยจึงกล่าวออกไป ผู้เป็นแม่จึงงงทันทีจึงถามกลับไปทันทีอย่างคิดหนัก
"ทำไมหนูถึงถามแบบนั้นละลูก"
"ก็นี้คือวัวไม่ใช่เหรอคะดูสิ" ว่าแล้วแม่หนูน้อยก็ชี้ไปทางขนมแยมโรลสีดำเหลืองคล้ายวัวทันที ฝ่ายผู้เป็นแม่จึงตอบออกไปทันที
"อ้อ...บังเอิญวัวมันถูกย่างจนเล็กลงนะจะ แล้วเค้าจึงทำมาเป็นขนมไงละจ้ะ" ผู้เป็นแม่โกหกออกไป เพราะขนมแยมโรลมันหลายบาท ไม่มีเงินซื้อให้ลูกสาวทานจึงหันไปทางขนมเอแครทันที ซึ่งถูกกว่า
"แม่ว่าหนูกินขนมนี้ดีกว่าไหม" ผู้เป็นแม่ถามทันที ฝ่ายลูกสาวเห็นขนมเอแครที่ผู้เป็นแม่ชวนทานก็ตอบทันทีว่า
"หนูไม่อยากกินขี้คะแม่" ผู้เป็นแม่ปวดหัวตุ้บกับจินตนการของลูกตนเองทันทีจึงหันไปชวนทานขนมปังฝรั่งเศสทันที
"งั้นอันนี้ลูกคงทานได้นะ" ผู้เป็นแม่ชี้ไปที่ขนมอีกครั้ง
"หนูไม่อยากกินไม้เบสบอลคะแม่" ฝ่ายผู้เป็นลูกก็บอกไปอีกครั้ง ผู้เป็นแม่จึงตัดสินใจถามทันที
"แล้วหนูอยากทานชิ้นไหนดีคะ" ผู้เป็นแม่กล่าวออกไป เด็กน้อยดูไปเรื่อยจนเห็นโดนัทใส่แยมสตอเบอรี่จึงกล่าวทันทีอย่างชอบใจ
"หนูอยากทานเลือดคะแม่ หนูอยากเป็นแวมไพร์" ฝ่ายลูกสาวชี้ไปทางโดนัทสอดไส้แยมสตอเบอรี่ ผู้เป็นแม่จึงได้ซื้อให้สองชิ้น ขากลับจากเที่ยวห้าง ผู้เป็นแม่ได้เตรียมทำอาหารให้ลูกสาวทาน ระหว่างนั้นจึงหยิบโดนัทมากินและให้ผู้เป็นแม่หนึ่งชิ้นทันที
"แม่คะมากินเลือดกันเถอะ" เด็กน้อยกินไปแยมสตอเบอรี่ก็เปอะปากเต็มไปหมด สรุปว่าสองแม่ลูกจึงนั่งกินด้วยกันและเล่นเป็นแวมไพร์ด้วยกันอย่างมีความสุข
เด็กน้อยก็ยังคงไม่รู้ต่อไปว่าอะไรเป็นอะไร เพราะมารดานั้นอยากให้เด็กลองใช้จินตนาการของเด็กเอง จนกว่าเด็กจะเข้าใจเมื่อพร้อมที่จะรับรู้ เพราะฝ่ายผู้เป็นแม่อยากให้เด็กได้เรียนรู้จากสิ่งรอบตัวด้วยตัวเองก่อนแล้วค่อยสอนทีหลังก็ยังไม่สาย