นักชีววิทยาตั้งสมมติฐาน เหตุใดมนุษย์มีอายุขัยสั้น?
สวัสดีค่าทุกคน
เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมมนุษย์ถึงเจ็บป่วยง่าย และมีอายุขัยเฉลี่ยสั้นอยู่แค่ในช่วงอายุ 65-75 ปี วันนี้เราจะพามาดูสมมติฐานที่ชื่อว่า “longevity bottleneck” หรือคอขวดของความมีอายุยืนยาว ที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร BioEssays โดย ดร.จัว เปโดร จี มากาเญส (João Pedro de Magalhães) นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมในสหราชอาณาจักร
นักจุลชีววิทยา กล่าวว่า “ในขณะที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงมนุษย์ มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความแก่ชราอย่างเห็นได้ชัด แต่สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำบางชนิดกลับแสดงการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความแก่ชราช้ามาก จนถึงขั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงของความแก่ชราเลย” ซึ่งเขาได้ทำการศึกษาต่อและได้ตั้งสมมติฐานขึ้น
- นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานว่าอายุขัยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอาจสั้นลง เนื่องจากการพยายามเอาชีวิตรอดในยุคไดโนเสาร์
ภาพประกอบที่ 1 ไดโนเสาร์
เขาเสนอเพิ่มเติมว่า “เป็นเวลากว่า 100 ล้านปีที่ไดโนเสาร์เป็นสัตว์นักล่าที่สำคัญ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโดยทั่วไปมีขนาดเล็ก ออกหากินเวลากลางคืน และมีอายุสั้น”
นักจุลชีววิทยา ตั้งสมมติฐานต่อไปว่า “ความกดดันทางวิวัฒนาการอันยาวนานต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคแรกเพื่อการสืบพันธุ์อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การสูญเสียหรือหยุดการทำงานของยีนและวิถีทางที่เกี่ยวข้องกับชีวิตที่ยืนยาว”
ภาพประกอบที่ 2 นักจุลชีววิทยา João Pedro de Magalhães
- การวิวัฒนาการจากบรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในช่วงการปกครองของไดโนเสาร์
ตามที่นักวิทยาศาสตร์ระบุ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในยุคแรก ๆ บางส่วนถูกบังคับให้มีชีวิตอยู่จนถึงจุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร และอาจใช้เวลาถึง 100 ล้านปีในช่วงอายุของไดโนเสาร์ที่พัฒนาเพื่อความอยู่รอดผ่านการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว
ภาพประกอบที่ 3 นักจุลชีววิทยา João Pedro de Magalhães กล่าวในรายการข่าว BBC
แม้ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะสามารถพัฒนาช่วงชีวิตที่ยืนยาวได้แต่พวกมันไม่เลือกทำเช่นนั้น เนื่องจากต้องรีบขยายเผ่าพันธุ์ในยุคไดโนเสาร์ เพื่อไม่ให้สูญพันธุ์ จึงทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโตไวเพื่อสืบพันธุ์ เป็นเหตุผลให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแก่เร็วด้วยเช่นกัน (โตไว แก่ไว อายุสั้น)
ภาพประกอบที่ 4 แผนภาพ “คอขวดของความมีอายุยืนยาว” ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ช่วงยุคจูราสสิกและครีเทเชียส
- เหตุผลที่มนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเจ็บปวดง่ายและอายุสั้น
นักวิทยาศาสตร์ เสนอว่า ในยุคไดโนเสาร์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีความกดดันด้านการวิวัฒนาการอันยาวนาน ซึ่งมีผลกระทบต่ออายุของมนุษย์
ผู้วิจัยได้ยกตัวอย่างทฤษฎีเพิ่มเติมของเขาเกี่ยวกับความสามารถของสัตว์บางชนิดในการซ่อมแซมและการฟื้นฟู ซึ่งเขาพบว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขาดยีนบางชนิดที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ที่ได้รับความเสียหาย และเมื่อเปรียบเทียบกับญาติของไดโนเสาร์อย่างสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่มียีนดังกล่าวอยู่ จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมทั้งมนุษย์แก่ชราได้ง่าย และนอกจากนี้ยังมีอัตราการป่วยเป็นโรคมะเร็งสูงกว่าสัตว์ชนิดอื่นอีกด้วย
- ความขัดแย้งของสมมติฐาน
สมมติฐานนี้อาจใช้ไม่ได้กับ “ตุ่นหนูไร้ขน” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีภูมิคุ้มกันต้านมะเร็ง และยังขัดแย้งกับความรู้ใหม่ ที่พบว่า ไดโนเสาร์เองก็มีอายุไม่ยืนยาวมากเท่าที่เคยคิดกัน และสังเกตว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดมีชีวิตอยู่ได้นานมาก เช่น วาฬหัวบาตร ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีอายุยืนที่สุด วาฬอาร์กติกและวาฬใต้อาร์กติก มีอายุยืนยาวกว่า 100 ปีอย่างสบาย และสามารถมีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 200 ปี แต่อย่างไรก็ตาม การติดตามพิสูจน์ความถูกต้องของสมมติฐานนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวิจัยเพื่อหาวิธีป้องกันรักษาโรคมะเร็งและยืดอายุขัยของมนุษย์ต่อไป
ภาพประกอบที่ 6 วาฬหัวบาตร
- ความคิดเห็นบางส่วนของผู้คนที่มีต่อสมมติฐานนี้
ผู้คนส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นต่อสมมติฐานนี้ไปทางเดียวกัน เช่น
คุณ Meredith กล่าวว่า "ใครจะอยากอยู่ถึง 200 ปี, ไม่ใช่ฉัน"
คุณ Derick กล่าวว่า "ทำไม? ถ้าฉันยังต้องจ่ายบิลและทำงานจนกระทั่งอายุ 110 ปี ฉันคิดว่าไดโนเสาร์ได้ช่วยเราแล้ว"
คุณ Matthew กล่าวว่า "ไดโนเสาร์ทำดีต่อเราแล้ว"
คุณ Francois กล่าวว่า "ไดโนเสาร์และมนุษย์คิดถึงกันมา 65 ล้านปีแล้ว, มาเร็ว"
ภาพประกอบที่ 7 ความคิดเห็นของชาวต่างชาติต่อสมมติฐานนี้
สรุปได้ว่า “longevity bottleneck” หรือคอขวดของความมีอายุยืนยาว เป็นสมมติฐานที่น่าสนใจ และมีความเป็นไปได้ จากทฤษฎีที่กล่าวว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขาดยีนบางชนิดที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ที่ได้รับความเสียหาย และความกดดันในยุคไดโนเสาร์ทำให้ต้องรีบขยายเผ่าพันธุ์ จึงเป็นเหตุผลที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงมนุษย์มีวิวัฒนาการแบบโตไว แก่ไว เจ็บป่วยง่าย และตายไว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความขัดแย้ง เนื่องจาก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดก็มีอายุยืนยาว เช่น ตุ๋นหนูไร้ขนและวาฬ จึงต้องทำการศึกษาและหาข้อสรุปต่อไป อย่างไรก็ตามสมมติฐานนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษาเรื่องยีนซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนางานวิจัย การหาวิธีรักษาโรคมะเร็งต่อไปได้ 
อ้างอิงจาก: BBC News, Science & Technology from boredpanda
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ดีลอาวุธยักษ์สหรัฐฯ–ไต้หวัน กับสัญญาณเตือนที่ส่งตรงถึงปักกิ่ง
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย












