ตอน : เข้าถ้ำเสือ
สะใภ้ขัดดอก
ตอน : คุณมันตัวร้าย
นิยายออนไลน์ จำหน่ายในรูปแบบ ebook
ลิงค์สำหรับโหลดซื้อ นิยาย(สะใภ้ขัดดอก) - https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6IjQ3NDE3Ijt9
ราคา ebook 159.-
ตอน...เข้าถ้ำเสือ
น่านพยัคฆ์เลือกจะขับรถขึ้นมาถึงเชียงใหม่ด้วยตัวของเขาเอง แทนการโดยสารเครื่องบินดั่งเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อยามที่เขาต้องขึ้นลงระหว่างกรุงเทพฯกับเชียงใหม่เพื่อติดต่อเรื่องธุรกิจ แต่การมาครั้งนี้ของเขามันแตกต่างออกไปดั่งเช่นทุกครั้ง เมื่อมันไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกิจใดๆของเขาเลย เขาจึงไม่เห็นความจำเป็นอันใด ที่จะต้องรีบร้อนในการเดินทาง และอีกประการสำคัญ ใจเขาเรียกร้อง ต้องการจะใช้เวลาใกล้ชิดกับแม่เนื้อหอมของเขาให้นานแสนนานต่างหากล่ะ...
การเดินทางกว่าหลายชั่วโมง ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มเบื่อหน่ายสักนิด ตรงกันข้าม กลับทำให้เขาสุขใจอย่างประหลาด เมื่อแม่ตุ๊กตาหน้ารถของเขา ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆให้ได้ชื่นใจมาตลอดทาง...
“จบอะไรมาล่ะ ถึงคิดจะมาดูแลคนป่วยที่เดินไม่ได้” น่านพยัคฆ์ที่เห็นอาการนั่งซึมมาเป็นระยะเวลาหนึ่งของนิดา เขาจึงปรับน้ำเสียงในการพูดให้ฟังดูเย็นลง หากเดาจากอาการเหงาหงอยของฝ่ายหญิง อาจเป็นเพราะนิดากำลังคิดถึงบ้านอยู่ก็ได้
น่านพยัคฆ์ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง นิดากับชาติชายมากนัก ชายหนุ่มยังหลงคิดว่านิดาอาศัยอยู่ในบ้านวนาสินธ์ในฐานะหลานสาวของเจ้าของบ้านไม่ใช่สาวใช้อย่างที่เข้าใจ
“จบมัธยมปลายมาค่ะ...” เมื่อเห็นคำถามของเขาไม่ใช่เป็นเรื่องเหน็บแนมอะไรให้เธอเจ็บใจขึ้นมาอีก นิดาจึงตอบคำถามของเขาออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หญิงสาวยอมเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวให้ชายหนุ่มได้ฟัง เมื่อเธอเห็นว่าอีกหน่อยเธอกับเขาก็ต้องทำงานที่เดียวกัน หากจะบอกเรื่องราวชีวิตกับเขาบ้างเล็กๆน้อยๆ ก็ดูจะไม่น่าเสียหายอะไรไม่ใช่หรือไง...
“ทำไมถึงไม่เรียนต่อ...จบแค่นี้จะไปหางานดีๆที่ไหนทำได้ หรือติดเที่ยวถึงเรียนไม่จบ...” น่านพยัคฆ์เหล่ปลายหางตามามองซีกหน้างาม นึกสงสัยขึ้นมา ทำไมนิดาถึงไม่เรียนให้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ฐานะทางบ้านของชาติชายถึงจะเป็นหนี้สินอยู่กับพ่อเขา แต่ก็ไม่น่าจะส่งเสียลูกหลานให้จบระดับแค่พื้นฐานนะ อย่างขั้นต่ำก็น่าจะปริญญาตรีขึ้นไป
“กำลังเก็บเงินอยู่ค่ะ คิดว่าปีหน้าจะลงเรียนต่อแต่พอดี...เอ่อ...” แต่พอดีเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน นิดาต่อประโยคขึ้นในใจ และใบหน้าหวานก็ดูเศร้าหมองลงจนน่านพยัคฆ์ใจกระตุก...
“ช่างเถอะ...” ชายหนุ่มที่จับถึงน้ำเสียงและสีหน้าอึดอัดของหญิงสาวได้ เขาจึงชิงพูดตัดบทขึ้นเสียก่อน เรื่องบางเรื่องเขาสืบเอาเองก็ได้
“แล้วคิดยังไงถึงจะไปดูแลคนป่วยที่เดินไม่ได้ รู้ไหมว่ามันงานหนักไม่ใช่เล่นๆเลยนะนั้นน่ะ และอีกอย่างประสบการณ์เธอก็ไม่มี แล้วแบบนี้จะทนทำได้สักกี่วันกันเชียว...”
“ไหวค่ะ...ขอแค่มีงานให้ทำ มีที่อยู่ให้อาศัย ต่อให้ลำบากแค่ไหนฉันก็ทนได้ค่ะ...” นิดารีบตอบรับเสียงหนักแน่น เพราะกลัวว่าทางไร่ราชพยัคฆ์จะเปลี่ยนใจ ไม่รับเธอเข้าทำงานเพียงเพราะวุฒการศึกษาของเธอน้อยนิด ไม่เหมาะหากจะต้องดูแลบิดาของเจ้าของไร่
“ไม่ใช่วางแผนจะไปจับคุณพยัคฆ์เขาหรอกนะ ผู้หญิงสมัยนี้มักคิดหวังจะรวยทางลัดกันทั้งนั้น...” น่านพยัคฆ์ลองหยั่งเชิง
“ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ได้มีแผนการอะไรทั้งนั้น ฉันไปเพื่อจะทำงานเก็บเงิน ถ้าคุณน่านสิงห์หายดี ฉันก็จะกลับกรุงเทพฯไปหางานอย่างอื่นทำต่อค่ะ...” นิดาชักสีหน้าไม่พอใจใส่ชายหนุ่มทันที หลงคิดว่าจะสนทนากับเขาได้นานกว่านี้ แต่นี่อะไร ทำไมเขาถึงได้ชอบพูดจาหาเรื่องกับเธอนัก ถ้าไม่ชอบหน้ากันก็ไม่ต้องมาชวนคุย เพราะเธอก็ใช่อยากจะคุยกับคนปากเสียอย่างเขาเหมือนกัน
“หึ...ก็ให้มันจริงอยากที่ปากเธอบอกก็แล้วกัน เอาไว้ฉันจะคอยจับตาดูเธอก็แล้วกัน จะทำอย่างที่ปากเธอปฏิเสธหรือเปล่า...” น้ำเสียงเยาะหยันนั้นยิ่งทำให้นิดาต้องเม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากันสนิท เธอหยุดการพูดจาตอบโต้กับเขาแล้วสะบัดหน้าหวานหันมองออกไปยังนอกรถแทน...
น่านพยัคฆ์ส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดู เมียเขาทำอะไรก็ดูน่ารักไปเสียหมด...ความรู้สึกดีกับใครสักคน บางครั้งอาจเกิดขึ้นมาโดยไม่ต้องใช้เวลาหรือคำพูด น่านพยัคฆ์รู้ ความรู้สึกระหว่างเขากับนิดา มันเกิดขึ้นตรงหน้าอกด้านซ้ายของเขาล้วนๆ ยิ่งเมื่อได้ครอบครองสาวเจ้าเป็นเมียด้วยแล้ว ไอ้ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งรัดรึงเขาเสียแน่นจนไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้ หรือถึงแม้จะดิ้นหลุดออกมาได้ เขาก็จะคว้าเอานิดาติดมือออกมาด้วยทุกครั้งไป เขาสัญญา...
ผ่านไปหลายชั่วโมง แต่ภายในรถยังปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน มีเพียงเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆเท่านั้นที่ทำให้บรรยากาศภายในรถไม่ดูวังเวงมากจนเกินไปนัก แววตาหลังกรอบแว่นหรูคอยแต่ชำเลืองมองร่างงามอยู่เป็นระยะ จนน่านพยัคฆ์เห็นศรีษะทุยได้รูปเอนเอียงลงพิงกับขอบประตูรถ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจจอดรถแอบเข้าข้างทาง เพราะยังเหลือเส้นทางอีกหลายร้อยกิโลกว่าจะถึงเส้นทางเข้าไร่ราชพยัคฆ์ เขาเป็นห่วงหญิงสาว กลัวเธอจะเมื่อยคอเอาเสียก่อนได้...
นิดาหลับคอพับคออ่อนอยู่ตรงเบาะรถ หลังจากพยายามฝืนตาเอาไว้ เธอไม่อยากปล่อยให้ชายหนุ่มขับรถเพียงลำพัง ถึงเขามักจะพูดจาร้ายกาจกับเธออยู่ตลอดทาง แต่นิดากลับไม่ถือสาหาความพยายามข่มใจเอาไว้ แม้บางครั้งคำพูดของเขาจะทำให้เธออยากจะตบปากเขาให้หายโมโหก็ตาม หากเธอกลับรู้สึกนึกสงสารและเห็นใจเขาเสียมากกว่า การขับรถทางไกลไม่ใช่เรื่องสบายเลยสักนิด แต่จนแล้วจนรอด เมื่อความเหนื่อยล้าเข้ามาเยือน นิดาจึงไม่อาจทนฝืนเปลือกตาอันหนักอึ้งไม่ให้ปิดสนิทลงได้อีกต่อไป...
เมื่อเห็นหญิงสาวหลับคอพับคออ่อน น่านพยัคฆ์จึงขยับกายใหญ่ของตัวเองเบี่ยงมาทางหญิงสาว ก่อนจะค่อยๆปรับเบาะนั่งของนิดาให้เอนลง เขาจัดท่าทางการนอนให้หญิงสาวได้สบายตัวมากยิ่งขึ้น น่านพยัคฆ์ถอดเสื้อยีนตัวโปรดของตัวเองออก ก่อนจะคลุมลงยังร่างงามด้วยความระมัดระวัง ทุกกิริยาการกระทำของชายหนุ่ม ช่างดูอบอุ่นและอ่อนโยน แตกต่างจากน่านพยัคฆ์คนเก่า คนที่ทั้งแสนจะโมโหร้ายและไม่เคยโอนอ่อนให้ใครเลยสักคนเดียว...
“ฮึ...จะหลับลึกอะไรขนาดนั้นนะแม่สาวขี้เซา” ชายหนุ่มถึงกับส่ายหน้าไปมาภายใต้แววตาเอื้อเอ็นดู
“แล้วฉันจะทำอย่างไรกับเธอต่อไปดี...นิดา...” ตอนนี้เขาไม่อาจมองอนาคตตรงหน้าจนถึงขั้นจะต้องแต่งงานกับนิดาได้ก็จริง แต่จะให้เขาทิ้งขวางเธอเลยเขาก็ยิ่งทำไม่ได้ไปกันใหญ่
น่านพยัคฆ์ต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เขาไม่อาจทิ้งขว้างนิดาได้ก็จริงอยู่ แต่เพราะปมที่มีอยู่ภายในใจของเขาตอนนี้ มันยังคงอัดแน่นจนฝั่งรากลึกจนเกินเยียวยาแก้ไข ถ้าหากเขายังไม่หาทางกำจัดมันออกไปให้พ้นๆ แล้วปล่อยให้มันติดฝั่งอยู่กับความรู้สึกนี้ของเขาตลอดกาล เขากลัวว่าสักวันในอนาคตข้างหน้า เขากับนิดาจะต้องมีปัญหากันอย่างแน่นอน...
ในตอนนี้เขาแค่อยากพิสูจน์อะไรบางอย่างในตัวของนิดาให้แน่ใจมากกว่านี้อีกสักหน่อยเท่านั้น ถ้าเขารู้สึกมั่นใจมากขึ้นแล้ว เขาสัญญาด้วยชีวิต เขาจะดูแลและปกป้องหญิงสาวผู้นี้ให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้หญิงสาวอันเป็นที่รักได้ ดวงตาดำสีสนิมเหล็กทอดมองดวงหน้าอ่อนหวานด้วยความรู้สึกหลากหลาย ริมฝีปากหนายกขึ้นขยับเรียกชื่อเมียรักอย่างอ่อนละมุน...
“นิดา...” ริมฝีปากหยักรำพึงเรียกชื่อของหญิงสาว ปลายนิ้วมือของน่านพยัคฆ์ค่อยๆแตะลงบนใบหน้าเรียวงาม ยามหญิงสาวพริ้มตาหลับไหล เธอช่างสวยงามเหมือนนางในเทพนิยายไม่ผิดเพี้ยน และในตอนนี้น่านพยัคฆ์เองดันมีความคิดบางอย่าง หากนิดาเป็นเจ้าหญิง เขาก็ต้องเป็นเจ้าชายสินะ เมื่อคิดเข้าข้างตัวเองได้ดังนั้น จมูกปลายโด่งของเจ้าชายจำแลงจึงค่อยๆกดลงบนแก้มนวล ก่อนจะสูดดมเอาความหอมนั้นเข้าปอดเสียจนเต็มรัก
“เฮ้อ! แบบนี้สิถึงค่อยมีแรงขับรถต่อไปหน่อย เธอนี่เปรียบเสมือนยาวิเศษให้ฉันได้เหมือนกันนะ...แม่เมียขัดดอกตัวหอม...” น่านพยัคฆ์เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม เขาต้องตัดใจจากร่างหอม ดึงตัวเองขึ้นมาประจำที่คนขับ ก่อนจะสตาร์ทรถขับต่อไปยังเส้นทางสู่ไร่ราชพยัคฆ์ ซึ่งเป็นไร่ของเขาเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม....
***********************
เปลือกตาบางค่อยๆขยับปรือขึ้นทีละน้อย เมื่อแสงแดดยามเช้า สาดส่องเข้ามาทางบานหน้าต่าง นิดาต้องย่นหัวคิ้วลงด้วยความสงสัย เมื่อเธอเหลียวใบหน้าหวานขึ้นมองผ้าม่านสีเขียวสะอาดตาด้วยความไม่คุ้นชินเอาเสียเลย ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆเพื่อขับไล่อาการง่วงงุนและเรียกสติให้กับตัวเองอีกครั้ง
ที่นี่ที่ไหนนะ?...
“ตื่นแล้วหรือคะคุณนิ...” เสียงเจื้อยแจ้วของสายบัวเอ่ยทักขึ้น หลังจากเก็บข้าวของเครื่องใช้กับเสื้อผ้าของนิดาเข้าตู้จนเสร็จเรียบร้อย พอหันกลับมาก็เห็นนางฟ้าของพี่มืดขยับตัวตื่นขึ้นมาพอดี
นิดาหันไปตามเสียงพูด ก็ยิ่งนึกแปลกใจเข้าไปกันใหญ่ แล้วสาวร่างเล็กคนนี้เป็นใครกัน ทำไมถึงได้รู้จักชื่อของเธอด้วย...
“หนูชื่อสายบัวนะคะ...เรียกหนูว่าบัวเฉยๆก็ได้ค่ะ คุณน่านพยัคฆ์ให้หนูมาคอยรับใช้คุณนิ...” สาวใช้วัยละอ่อนรายงานตัวทันทีด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นนายสาวขมวดคิ้วสงสัยและดูเหมือนยังมีอาการงุนงงอยู่
“คะ!...รับใช้ฉันหรือคะ?” นิดายิ่งงงหนักเข้าไปกันใหญ่ เธอมาที่นี้เพื่อมาทำงานคอยดูแลบิดาของท่านเจ้าของไร่แห่งนี้นะ แล้วทำไมต้องมีคนมาคอยรับใช้เธอต่ออีกด้วยเล่า นิดาไม่เข้าใจ ทุกอย่างชวนให้มึนงงกันไปหมดแล้ว
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะหย่อนขาเรียวงามลงมาจากบนเตียง เพื่อที่ตัวเองจะนั่งได้ถนัดถนี่มากยิ่งขึ้น มันต้องมีการเข้าใจผิดอะไรกันสักอย่างหนึ่งแล้วแบบนี้
“นี่ห้องใครกันคะ สวยจัง...” นิดาเอ่ยถาม ก่อนดวงตากลมโตจะกวาดมองสำรวจไปรอบๆห้องพักของตัวเองก็ยิ่งสงสัยหนักเข้าไปกันอีก ห้องนี้ถึงจะไม่ใหญโตมากขนาดเท่าห้องของสุดาพรรณ แต่ก็ดูหรูหราไม่เหมาะกับตำแหน่งงานของเธอเลยสักนิดเดียว
“ก็ห้องของคุณนิอย่างไรล่ะคะ...” สายบัวตอบยิ้มๆ
“ห้องของฉันนี่นะ!...”
“ใช่ค่ะ...” สายบัวพยักหน้าเพื่อยืนยัน ร่างเล็กจิ๋วตามวัยเดินเข้ามาทรุดกายลงนั่งอยู่ใกล้กับเตียงนอนของนายสาวคนสวย ใบหน้าจิ้มลิ้มเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายสาวคนใหม่ดวงตาใสแจ๋วด้วยความชื่นชม
“คุณนินี่สวยจังเลยนะคะ สวยเหมือนนางฟ้าอย่างที่พี่มืดบอกเอาไว้ไม่มีผิดเลย” เมื่อมาเห็นตัวจริงของนายหญิง คำบอกเล่าจากพี่มืดหลังกลับขึ้นมาจากกรุงเทพๆเมื่อคราวก่อน สายบัวขอยกมือสนับสนุนยืนยันด้วยอีกคน นายหญิงนี่สวยมากจริงๆ
นิดาเพียงยิ้มรับไม่ได้หลงระเริงไปกับคำชม ความสวยของคน บางครั้งก็เป็นเหมือนดาบสองคม และเป็นเพราะความสวยนี้ไม่ใช่หรือไง มักจะทำให้เธอต้องเจ็บตัวเพราะความอิจฉาริษยาของสุดาพรรณอยู่ตลอดเวลา
“พี่มืดมาโม้ให้สายบัวฟังถึงคุณนิว่าสวยอย่างนู้น สวยอย่างนี้...ฮ่า...ฮ่า...ตอนแรกสายบัวก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่หรอกนะคะ แต่พอมาเห็นตัวจริงของคุณนิแล้ว เอาไปสิบดาวเต็มเลยค่ะ สายบัวให้คะแนนคุณนิเต็มร้อยเลยค่ะ...” สายบัวยกนิ้วโป้งชูขึ้นประกอบคำพูด ความสดใสร่าเริงของเด็กสาวช่วยทำให้นิดารู้สึกสบายใจตามไปด้วย
“ขอบใจนะจ๊ะ ว่าแต่คนที่ชื่อมืดเนี่ย ใช่คนเดียวกับคนที่ขับรถไปรับฉันมาจากกรุงเทพๆหรือเปล่าคะ พอดีเขาไม่ได้บอกชื่อกับฉันเสียด้วยตอนที่ไปรับมา อยากจะไปขอบคุณเขาเสียหน่อย ขับรถมาตั้งไกลคงเมื่อยแย่เลย...” เมื่อนึกถึงผู้ชายตัวโตหน้ารกทีไร จิตใจของนิดาก็พาลจะสั่นทุกทีสิน่า ให้เดาก็พอจะรู้ ต้องเป็นเขาที่อุ้มเธอขึ้นมานอนบนห้องแห่งนี้แน่ๆ
“พี่มืดเป็นคนงานในไร่นี้ค่ะ เป็นคนสนิทของนายพยัคฆ์ด้วย และก็เป็นพี่ชายของสายบัว...” สายบัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนไปรับตัวนายหญิงมาที่ไร่จึงไม่ได้ปฏิเสธออกไป
“ตอนนี้พี่มืดอยู่ในไร่กับนายพยัคฆ์ค่ะ คงอีกสักครู่ พวกผู้ชายถึงจะกลับเข้ามาทานข้าวเช้ากัน แต่ก็ไม่แน่นอน บางทีถ้างานยุ่งมากๆพวกนั้นก็มักจะแวะทานข้าวกันในโรงครัวใหญ่เลยก็มีค่ะ...”
“อ้อ...แล้วนี่มันกี่โมงกันแล้วคะ...” นิดาหันหน้าหานาฬิกา เดาจากแสงแดดด้านนอกนั้น คงจะสายไม่ใช่เล่นแล้ว
“จะแปดโมงแล้วค่ะคุณนิ...” สายบัวชี้มือไปยังนาฬิกาแขวนข้างฝาห้อง
“ตายจริง!!! แล้วนี่คุณน่านสิงห์ท่านพักอยู่ห้องไหนหรือคะ ฉันนี่เสียมารยาทจังเลย มาทำงานเสียเปล่าแต่กลับนอนหลับตื่นสายไม่รู้เรื่องอะไรกลับเขาบ้างเลย...” นิดาอดรู้สึกเกรงใจเจ้าของบ้านไม่ได้ ยิ่งเมื่อนึกถึงคุณน้ำฟ้าภรรยาของคุณวรสิทธิ์แล้วนิดาก็ยิ่งเป็นกังวลมากยิ่งขึ้น คุณน้ำฟ้าอุตส่าห์ฝากงานนี้ให้เธอทำ วันแรกเธอก็เล่นตื่นสายไปทำงานช้าเสียแล้วสิ...
“อ้อนายใหญ่นะหรือคะ...ท่านพักอยู่อีกหลังนึงคะ เป็นบ้านใหญ่ ส่วนบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณน่านพยัคฆ์แยกออกมาปลูกเป็นส่วนตัวน่ะค่ะ สองคนพ่อลูกเขาไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ คุณน่านพยัคฆ์เธอจึงแยกตัวออกมาอยู่เพียงลำพัง แต่ก็ยังวนเวียนไปเยี่ยมนายใหญ่เกือบจะทุกวันแหละค่ะ... “ สายบัวอธิบายเสียงแจ๋ว รู้สึกถูกชะตากับนายหญิงตั้งแต่แรกเห็น ปากจึงพูดๆไปโดยไม่สนใจว่าเรื่องไหนสมควรพูดหรือไม่สมควรพูด
“อ้าวหรือจ๊ะ...ถ้างั้นแล้วทำไมไม่ให้ฉันพักอยู่บ้านหลังเดียวกับคุณสิงห์ท่านล่ะ ทำไมถึงให้มาพักคนล่ะหลังแบบนี้ แล้วฉันจะคอยดูแลคุณน่านสิงห์ท่านยังไงสะดวก ถ้าหากตอนกลางคืนท่านอยากได้อะไรขึ้นมา แล้วใครจะช่วยท่านได้...” นิดาเอ่ยถามด้วยความสงสัย เหตุใดถึงให้เธอมาพักบ้านของลูกชายแทนที่จะเป็นบ้านของคนป่วย
“เรื่องนั้นคุณนิไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะคะ นายใหญ่ท่านมีพยาบาลส่วนตัวมาคอยดูแลอีกคนหนึ่ง สายบัวไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะสายบัวไม่ค่อยชอบขี้หน้าคุณพยาบาลแกเลย...” ร่างเล็กค่อยๆขยับเข้าใกล้นิดามากยิ่งขึ้น ก่อนจะยกมือขึ้นป้องปากกระซิบเหมือนกลัวใครจะมาได้ยิน
“สายบัวไม่ชอบคุณพยาบาลเลย ก็เพราะเธอชอบทำหน้าที่เกินไปสักหน่อย... มาทำงานเป็นพยาบาลรับใช้นายใหญ่แท้ๆ แต่สายบัวเห็นทีไร ชอบเสนอหน้าไปรับใช้นายพยัคฆ์เสียทุกที” สายบัวถึงกับเบ้ปากขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าเชิดหยิ่งยามโฉมฉายมองมายังเธอ
“หรือคะ...” นิดาเพียงแต่ขานรับ เรื่องของเจ้านายเธอพึ่งมาใหม่ก็ไม่อยากจะพูดอะไรออกไป
“นายพยัคฆ์แกไม่เอาหรอก นายไม่ชอบผู้หญิงให้ท่า แล้วอีกอย่างนายมีคู่หมั้นคู่หมายสวยอย่างกับนางฟ้าแน่ะ...” ท้ายประโยคสายบัวช้อนตาขึ้นมองคู่หมั้นคู่หมายแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นิดาไม่พูดอะไรอีกทำเพียงแต่ระบายยิ้ม ก่อนจะขอตัวไปชำระร่างกาย เพื่อจะได้เริ่มงานของตัวเองเสียที....
***********************
เมื่อจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย นิดาจึงออกมาแต่งกายยังด้านนอกห้องอาบน้ำแทน เพราะไม่ได้เตรียมชุดเข้าไปผลัดเปลี่ยนยังด้านใน สายบัวยังคงนั่งหน้าแฉล้มอยู่ภายในห้องพักของนายสาว คอยอยู่รับใช้นายหญิงอย่างเคร่งครัด ตามคำสั่งของนายพยัคฆ์ไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยสักนิดเดียว
ฮึ...ก็ขืนลองขาดตกบกพร่องดูสักนิดสิ หัวอีสายบัวจะได้แบะออกประไร สาวใช้นึกแล้วก็ให้เสียวสันหลัววูบขึ้นมาเสียทุกที มีใครบ้างในไร่ราชพยัคฆ์แห่งนี้ ที่ไม่กลัวอารมณ์ร้ายเอาแต่ใจของนายพยัคฆ์กันบ้าง บางคนถึงขั้นสบตากับนายพยัคฆ์ก็ยังไม่กล้า ยามดีนายพยัคฆ์ก็ดีใจหาย แต่ถ้ายามร้ายก็ตัวใครตัวมันก็แล้วกันนะ สายบัวคนหนึ่งล่ะที่กลัวจนขี้ขึ้นสมองก็ว่าได้ ...
เมื่อนิดาเลื่อนบานตู้เสื้อผ้าออก สิ่งที่บรรจุอยู่ในตู้กลับทำให้หญิงสาวต้องขมวดคิ้วมุ่น นึกฉงนใจอยู่ไม่น้อยกับข้าวของเครื่องใช้ภายในตู้ใบนี้...
เพราะมันไม่มีเสื้อผ้าของเธอหลงเหลืออยู่ในตู้นี้ให้เธอเห็นแม้แต่ชิ้นเดียว แต่กลับเป็นเสื้อผ้าจากร้านระวีการ์โชว์แขวนอยู่เต็มไปหมด ถ้าหากเธอจำไม่ผิด เสื้อผ้าทุกชิ้นที่แขวนโชว์อยู่ในตู้ใบนี้ ล้วนเป็นเสื้อผ้าที่เธอหมายตาเอาไว้โดยการหยิบมันขึ้นมาดูแต่แรก แต่พอสายตาเหลือบเห็นราคาแพงหูฉีกแค่นั้น เธอก็นำมันไปแขวนกลับยังราวแขวนที่เดิมทันที ราคาของเสื้อผ้าร้านหรูแห่งนี้แพงจนเธอนึกกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะหยิบมันขึ้นมาลองดูอีก นิดาทำเพียงมองผ่านๆ โดยจะเน้นเลือกราคาไม่แพงมากออกมาไม่กี่ตัว และดูเหมือนจะไม่ใช่เพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ชิ้นอื่นๆ ก็ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่เธอเห็นนายมืดเลือกซื้อจากห้างดังแทบทั้งนั้นเลย...
“สายบัวจ๊ะ เห็นเสื้อผ้าของฉันบ้างหรือเปล่า นี่ไม่ใช่ของฉันเลยสักตัวเดียว สายบัวพอจะเห็นบ้างหรือเปล่าคะ คงยังอยู่ในกระเป๋าแน่ๆเลย...” นิดาเลื่อนบานตู้ปิดลง ก่อนจะหันหลังไปถามสาวใช้วัยแรกรุ่น ร้องถามหาชุดเสื้อผ้าของตัวเอง เธอไม่กล้าหยิบเอาเสื้อผ้าภายในตู้ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของใคร ออกมาสวมใส่โดยพลการ กลัวเจ้าของซึ่งอาจจะเป็นภรรยาของนายมืดไม่พอใจเอาได้
“ก็นี่ล่ะค่ะ เสื้อผ้าของคุณนิ...นายพยัคฆ์เป็นคนใช้ให้สายบัวเอาขึ้นมาเก็บไว้ในห้องนี้เมื่อตอนมาถึงน่ะค่ะ” สายบัวทำหน้างง พร้อมกับยืนยันเสียงแข็งขัน
“ไม่ใช่ของฉันหรอกนะสายบัว ของนายมืดเขาน่ะ สายบัวคงจะหยิบผิดใบมาแน่ๆเลย ของฉันเป็นกระเป๋าถือใบขนาดกลางๆสีจะเก่าๆหน่อย สายบัวพอจะเห็นบ้างหรือเปล่าจ๊ะ..” นิดาอธิบายลักษณะกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองให้สายบัวฟัง
“เสื้อผ้าในตู้พวกนี้เป็นของคุณนิร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ สายบัวยืนยันได้ ส่วนกระเป๋าที่คุณนิว่าน่ะ...เอ่อ...ดูเหมือนนายพยัคฆ์จะเป็นคนเก็บไปค่ะ น่าจะคงอยู่ในห้องของนายพยัคฆ์” สายบัวทำท่าขบคิด คงจะเป็นกระเป๋าใบนั้นแน่เลย เธอได้ยินนายพยัคฆ์สั่งให้พี่มืดเอาเข้าไปเก็บไว้ในห้องนอนของตัวเอง แถมยังสั่งกำชับนักกำชับหนา ให้พี่มืดถือกระเป๋าดีๆ ห้ามทำหล่นหรือห้ามเกิดการชำรุดใดๆทั้งสิ้น ถ้าไม่อย่างนั้น พี่มืดได้โดนเจือนทิ้งแน่...
“ตายจริง!!!” นิดาร้องอุทานเสียงเบา นึกสงสัยเข้าไปกันใหญ่ เจ้านายบ้านนี้จะเอากระเป๋าของเธอไปทำไมกัน ทำไมถึงไม่สั่งให้เอาเข้ามาเก็บไว้ในห้องนี้ หรือว่าเธอต้องย้ายไปพักยังห้องอื่นแทน แต่ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เมื่อเธอมองสำรวจความโอ่อ่าภายในห้องแล้วดูยังไงมันก็ดีเกินตำแหน่งงานของเธอที่ทำ...
เธอสมัครงานมาเป็นคนดูแลบิดาของเจ้าของไร่ เขาอาจจะให้เธอไปพักยังห้องใกล้ๆกันกับบิดาของเขาก็ได้ อย่างน้อยๆก็เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้แน่ๆ แต่ว่า...แล้วตอนนี้เธอจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่ดีล่ะ นิดานิ่งคิดสักครู่ก่อนจะร้องขอให้สายบัวช่วย
“สายบัวจ๊ะ ฉันอยากได้ของในกระเป๋าใบนั้นคืน สายบัวจะช่วยออกไปเอามาให้ฉันหน่อยจะได้หรือเปล่า ฉันจะออกไปเอาเองก็คงจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่" นิดาเอ่ยขอร้องสายบัวด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
สายบัวก็แสดงสีหน้าหนักใจขึ้นมา เมื่อนายหญิงขอให้เธอเข้าไปเอากระเป๋าในห้องนายพยัคฆ์ให้ ใช่ว่าใครจะเข้าออกห้องนายได้ตามอำเภอใจเสียเมื่อไหร่กัน หากนายไม่อนุญาตก็เข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ มีหวังถ้านายพยัคฆ์รู้เข้า หัวอีสายบัวคงได้แตกกันล่ะงานนี้...
"เอ่อ...งั้นนิขอเรียกแทนตัวเองว่านิก็แล้วกันนะ เพราะเราสองคนก็มีฐานะไม่ต่างกันหรอกจ้ะ...” นิดาก้มใบหน้างามลงด้วยรู้สึกกระดากอาย ไม่ทันไรก็ไปรบกวนคนอื่นให้ต้องมาลำบากเพราะตนเองเสียแล้ว กลัวเขาจะหาว่าเธอทำตัวยุ่งยาก พึ่งจะเข้ามาอยู่ใหม่แท้ๆ ยังกล้าทำตัววุ่นวาย ไปใช้เขาให้ไปเอาของให้เธออีก ยิ่งได้เห็นสีหน้าลำบากใจของสายบัว หญิงสาวก็ยิ่งเกรงใจหนักขึ้นไปอีกเท่าตัว
“ไม่ได้หรอกค่ะคุณนิ...” สายบัวถึงกับส่ายหน้าหวืออย่างแรง ปฏิเสธเสียงแข็งเป็นการด่วน ขนในกายสาวใช้พลันลุกซู่ เมื่ออยู่ดีๆ นายหญิงคนงามจะมายกฐานะสองคนให้เท่าเทียมกันเสียนี่ หึ...มีหวังอีสายบัวคงได้โดนนายพยัคฆ์ตีหัวกระบาลแบะเอาปะไร
“ใครว่ากันล่ะคะคุณนิขา เราสองคนฐานะต่างกันลิบลับเลยน่ะสิไม่ว่า คุณนินี่จะเอาเหามาใส่หัวให้อีสายบัวคนนี่เสียแล้วไหมล่ะคะคุณนิขา...” แม่สาวช่างจ้อบ่นอุบอิบ
“นิมาที่นี้ นิก็มาป็นคนรับจ้างเขาเหมือนกัน แล้วมันจะต่างกันได้อย่างไร นิมาดูแลคุณน่านสิงห์ ก็เท่ากับมาเป็นคนรับใช้เขาเหมือนกับสายบัวนั่นแหละ มันก็ไม่ต่างกันหรอกนะระหว่างเราสองคน...” นิดายิ้มให้สาวใช้รุ่นน้องด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ยามเมื่อเธออธิบายสิ่งที่ตัวเองเป็นให้ได้รับรู้ เธอกับสายบัวก็ถูกจ้างให้มาทำงานรับใช้เขาไม่แตกต่างกัน อาจจะต่างตรงหน้าที่ความรับผิดชอบ แต่โดยรวมก็กินเงินเดือนนายพยัคฆ์เหมือนกัน
“เอาเถอะค่ะ แต่ก่อนอื่นสายบัวว่านะ คุณนิก็ใส่เสื้อผ้าในตู้ใบนี้ไปก่อนเถอะค่ะ สายบัวไม่กล้าเข้าไปในห้องของนายพยัคฆ์โดยพลการหรอก เพราะเดี๋ยวสายบัวจะตายเอาโดยไม่รู้ตัวเสียก่อนจะโตเป็นสาว สายบัวยังอยากโตเป็นสาวแล้วก็สวยเหมือนคุณนิจังเลยค่ะ...” สายบัวป้องปากกระซิบบอก พอพูดจบแม่คนกลัวตายก่อนวัยอันควรก็ดีดตัวลุกขึ้นยืน เดินไปยังตู้เสื้อผ้าเจ้าปัญหา เมื่อเห็นนายสาวคนสวยยังทำท่าลังเลไม่ยอมเดินไปหยิบเสื้อผ้าภายในตู้ออกมาสวมใส่เสียที สายบัวกวาดสายตาหาชุดที่ดูทะมัดทะแมงพอจะสวมใส่เข้าไปในไร่ได้ออกมาหนึ่งชุด เพราะหลายชุดมันดูหรูเกินไปสำหรับจะให้นายสาวสวมเดินเล่นๆภายในไร่
“คุณนิใส่ตัวนี้นะคะ ดูมันโอเครกว่าตัวอื่นๆ" ก่อนจะยื่นให้นายสาวด้วยสายตาชื่นชม
นิดายื่นมือออกไปรับอย่างจำใจ เพราะไม่กล้าทำตัวเรื่องมากต่อหน้าคนอื่นอีก แต่ก็ยังอดรู้สึกเกรงใจเจ้าของเสื้อผ้าพวกนี้ไม่ได้ เอาไว้เธอจะไปขอบคุณภรรยาของนายมืดด้วยตัวเองก็แล้วกันนะ...
"ขอบใจนะสายบัว" นิดารับชุดมาถือไว้ในมือพร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณ ก่อนจะก้มมองเสื้อในมือด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย เย็นนี้เธอคงต้องไปขอกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองคืนจากน่านพยัคฆ์เสียแล้ว จะให้มาสวมใส่เสื้อผ้าของคนอื่นต่อไป คงดูไม่ดีสักเท่าไหร่นัก ในเมื่อนายมืดคงต้องการเลือกซื้อเสื้อผ้าพวกนี้มาให้เมียของตัวเอง ถ้าหากเขาเห็นเธอนำมาสวมใส่ก่อนคนเป็นเมียของตัวเองจะได้ใส่ ไม่รู้เขาจะต่อว่าคำร้ายกาจอะไรใส่เธออีกก็ไม่รู้ได้...
" งั้นเดี๋ยวสายบัวออกไปรอคุณนิด้านนอกห้องก็แล้วกันนะคะ วันนี้นายพยัคฆ์ มีคำสั่งให้สายบัวเป็นไกด์นำคุณนิสำรวจรอบบ้านนี้กับบ้านใหญ่ค่ะ วันนี้คุณนิยังไม่ต้องไปเริ่มงามดูแลนายใหญ่หรอกนะคะ ปล่อยให้คุณพยาบาลโฉมฉาย แกได้ทำหน้าที่ของแกบ้าง สายบัวกลัวแกจะลืมหน้าที่หลักของตัวเองไปแล้วนะสิ เห็นคอยวิ่งตามแต่นายพยัคฆ์..." เมื่อนึกถึงคุณพยาบาลประจำตัวของนายใหญ่ขึ้นมา สายบัวก็อดเบ้ปากออกด้วยอดหมั่นไส้ไม่ได้เสียที ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ คอยแต่จะวิ่งให้ท่าผู้ชายอยู่ตลอดเวลา
“อ้อ...เอ่อ...แล้วนิจะได้เจอคุณพยัคฆ์เขาตอนไหนล่ะ ตั้งแต่นิมาถึงไร่นี้ก็หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย นิยังไม่ได้ทำความรู้จักกับนายจ้างเลยด้วยซ้ำค่ะ หน้าตาเป็นยังไงก็ยังไม่เคยเห็น นินี่แย่มากๆเลยใช่ไหมคะ ยังไม่ทันไรก็ทำตัวน่าละอายเสียแล้ว...” นิดาสารภาพอย่างอายๆเมื่อเธอดันหลับสนิทจนไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่านายมืดขับรถพาเข้ามาถึงเขตไร่ตั้งแต่ตอนไหน
“น่าจะตอนเย็นๆนู่นเลยคุณนิ นายพยัคฆ์สั่งเอาไว้ว่าจะกลับมาทานข้าวเย็นด้วย คุณนิคงได้เจอนายตอนนั้นล่ะค่ะ นายของสายบัวหล่อระเบิดอย่างนี้เลยนะคะคุณนิขา...” สายบัวยกนิ้วโป้งขึ้นทำท่าทำทางประกอบ นิดาถึงกับยิ้มขำกับท่าทางของสาวใช้รุ่นน้อง
“หล่อขนาดนั้นเชียว...” นิดาแกล้งทำหน้าไม่เชื่อถือ
"หล่ออันดับหนึ่งของเมืองนี้เลยค่ะ สายบัวยืนยัน...”
“จ้ะหล่อก็หล่อ...งั้นนิขอแต่งตัวก่อนนะ เดี๋ยวนิตามออกไป”
“ค่ะ...ถ้าคุณนิแต่งตัวเสร็จแล้ว ออกไปเจอสายบัวด้านล่างเลยแล้วกันนะคะ สายบัวจะไปตั้งโต๊ะอาหารรอ"
"จ้ะสายบัว..." นิดาตอบรับ ก่อนจะนำชุดเดินเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ
หญิงสาวมองสำรวจตัวเองในกระจกอีกครั้ง ก่อนจะก้าวขาเดินออกจากห้องพัก เดินตามสายบัวไปยังที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ก่อนหน้า....
*********************************
หมายเหตุ...สามารถเข้าอ่านนิยายฉบับเต็มได้ตรงลิงค์ด้านล่าง
ลิงค์เข้าอ่านเนื้อหานิยาย(สะใภ้ขัดดอก) ต่อ (dek-d) - https://dekd.co/w/n/1439520