(นิยายป้ายยา) จะรักกันให้สุดหัวใจ
วางจำหน่ายในรูปแบบ ebook
นิยายเรื่อง จะรักกันให้สุดหัวใจ โดยนามปากกา...มาศอุไร
ทยกร ไตรวิชญ์สกุล หนุ่มหล่อฐานะดี ที่มีรักเดียวและมั่นคง
กันเกรา โอภาโพธิวัฒน์ สาวสวยฐานะธรรมดา ที่พร้อมจะเมินเฉยใส่ผู้ชายอย่าง...ทยกร
-----------------------------------------------------------------------
คำโปรย...
ทยกรไล้นิ้วมือมาหยุดป้วนเปี้ยนแถวกระดุมเสื้อ รีรอวนปลายนิ้วสั้นมนอยู่ตรงนั้นราวกับจงใจจะแกล้ง ยังไม่คิดจะปลดออกในคราเดียว ทั้งที่จริงใจเขาร้อนรุ่ม อยากกระชากไอ้ผ้าเก่าๆนี้ ออกจากตัวของกันเกราแทบแย่
สีหน้าเขาฉายออกถึงความพึงพอใจตลอดเวลา ก็ต้องพอใจสิ กว่าเขาจะได้ตัวกันเกรามาครอบครองอย่างสมใจ เขาต้องอดใจรอมาตั้งนาน
แล้วนิ้วมือเรียวสวยราวกับสตรีก็เริ่มขยับพร้อมกับการเต้นของหัวใจเสียงโครมคราม กันเกรารู้สึกร้อนรนราวกับคนเป็นไข้ สาปเสื้อเชิ้ตตัวโคล่งค่อยๆแยกตัวออกจากกัน หัวใจของกันเกราก็ยิ่งเต้นกระหน่ำรุนแรง
"สวย..."
ทยกรเอ่ยคำชื่นชมขึ้นอีกหน ดวงตาดำทมิฬหยาดเยิ้มจากไฟเสน่หาร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาปัดสาบเสื้อให้พ้นจากสายตา มันเกะกะจนอยากจะฉีกให้ขาดเสียเดี๋ยวนี้
ตรงหน้าเขาคือสิ่งสวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา...
ลิงค์สำหรับเข้าซื้อนิยาย (meb) - https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NjQ2NSI7fQ
Ebook ราคา 35 บาท
เนื้อหาตัวอย่างใน Epที่ 1 -
บทนำ
“คุณ...นั่งคอยตรงนี้ก่อนนะคะ หนูจะเข้าไปเรียนเจ้านายให้ท่านทราบว่าคุณมาถึงแล้ว”
“จ้ะ...ขอบใจมากนะ” กันเกรารับคำสาวใช้ แล้วนั่งลงรอชายคนนั้นด้วยท่าทางสงบ คงมีเพียงเสียงหัวใจของตัวเธอเอง มันเอาแต่คอยเต้นกระหน่ำอย่างคนกำลังเป็นทุกข์กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
‘อะไรนะคะ!นี่พ่อไปติดหนี้เขาไว้เป็นล้าน...แล้วเขาจะเอาคืนทั้งหมดพรุ่งนี้’
กรุณไม่ตอบคำถามลูกสาว เขาเอาแต่นั่งก้มหน้าซุกศีรษะลงกับหัวเข่า กลุ้มใจหนักว่าจะหาเงินจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนั้นมาจากทางไหนลำพังเฉพาะเงินเดือนคงไม่พอใช้หนี้ อย่าว่าจะเอามาใช้หนี้ก้อนนี้เลย ลำพังจะใช้ยาไส้กินให้ชนเดือนต่อเดือนยังยากลำบาก ถึงเขาจะได้ลูกสาวคนนี้คอยช่วยเหลือทุกอย่าง ทว่าผีพนันอย่างเขาก็ไม่เคยทำให้ครอบครัวอยู่อย่างสงบ
ตอนนี้กรุณมีอายุได้ห้าสิบกว่าปี เขามีอาชีพเป็นพนักงานขับรถให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เงินเดือนที่ได้รับแต่ละเดือนถึงขั้นหลักหมื่นบาทก็จริง ถ้ากรุณจะรู้จักเก็บรู้จักใช้ ไม่เอาไปละลายเล่นในบ่อนการพนันซะหมด ป่านนี้ครอบครัวของกรุณคงใช้ชีวิตกันอย่างแสนสุข ลูกสาวคนเดียว คงมีอนาคตและหน้าที่การงานที่ดีกว่านี้ เมียของเขาก็คงไม่ช้ำใจ ถึงขั้นตรอมใจตายหนีจากไปดั่งเช่นนี้หรอก กรุณรู้ว่าปัญหาทั้งหมดมันเกิดจากเขาคนเดียว เขาทำลายความสุขของครอบครัว ถึงเขาจะเคยคิดอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ อยากทำตัวเป็นพ่อที่ดีบ้าง แต่สุดท้ายแล้วกรุณก็ทำไม่สำเร็จ...
กันเกราสูดหายใจลึก เธอทอดสายตาสิ้นหวังมองพ่อของเธอ แล้วนั่งลงข้างๆท่าน
‘หนี้จากการเล่นการพนันอีกสินะคะ’ เธอถามเสียงสั่น แต่ไม่คิดจะรอคำตอบจากท่าน เพราะว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
กันเกราถึงกับน้ำตาล่วง เพราะหมดคำจะพูด พ่อของเธอไม่เคยเข็ด มีแต่จะหนักข้อขึ้นทุกที
แล้ววันรุ่งขึ้น ตรงรั้วหน้าบ้าน ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดดำ ท่าทางไม่น่าไว้วางใจราวสามคน มายืนส่งเสียงตะโกนโหวกเหวกเรียกชื่อพ่อของเธอลั่น เธอไม่ยอมให้พ่อออกมา บังคับให้ท่านหลบอยู่แต่ในห้อง ตอนแรกท่านไม่ยอมจนเธอต้องข่มขู่ว่าเธอจะทิ้งท่าน จะไม่ยอมอยู่กับท่านอีกแล้ว พ่อถึงได้ยอม ปล่อยให้เธอออกมารับหน้าคนกลุ่มนั้นลำพัง
และนั่นจึงเป็นสาเหตุโดยตรง ที่ทำให้กันเกราต้องตัดสินใจรับทำงานนี้ งานที่ต้องขายศักดิ์ศรีพร้อมเรือนร่างให้กับผู้ชายมักมากคนหนึ่ง
เขาคนนั้นมีชื่อว่า ทยกร ไตรวิชญ์สกุล
กันเกราทอดสายตาหม่นมัว มองกอบัวกลางบึง เธอเห็นตัวปลาสีส้มๆพากันแหวกว่ายรอบกอบัวอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน คงเป็นครอบครัวหรือญาติพี่น้องกันสินะ ริมฝีปากอิ่มขยับตัวเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น ให้รู้สึกสะท้อนใจ พอได้ย้อนกลับมามองตัวเอง ที่ผิดกันลิบลับ เธอไร้ญาติขาดมิตรมานาน เพียงเพราะว่าตัวเธอนั้นมีพ่อที่คอยสร้างแต่ปัญหา ก่อแต่เรื่องราวไม่เคยหยุดหย่อน ญาติพี่น้องคนไหนบ้าง เขาอยากจะคบค้าสมาคมให้ตัวเองต้องเดือดร้อนตามไปด้วยอีก เรื่องนี้กันเกราเข้าใจดี เธอจงไม่คิดน้อยอกน้อยใจกับใครทั้งนั้น พยายามเก็บตัวอยู่ในสวนกล้วยเงียบๆ กับสมบัติที่เหลือเพียงชิ้นเดียว ที่ยังไม่ถูกพ่อเอาไปขายในวงการพนัน
กันเกราพยายามกั้นน้ำตาไม่ให้มันไหล เพราะว่าต้องรักษาสวนกล้วย สมบัติชิ้นสุดท้ายที่จะทำให้เธอยังรู้สึกว่ายังอยู่ใกล้ๆกับแม่ เธอจึงต้องยอมแลกมันด้วยศักดิ์ศรีความเป็นคนกับความสุขชั่วครั้งชั่วคราวของผู้ชายมักมากคนหนึ่ง
เอาเถอะ...ยังไงเธอก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำ ส่วนผลลับหลังจากตรงนี้ จะเป็นเช่นไร เธอต้องยอมรับมันให้ได้
พอปลุกปลอบใจตัวเองให้สงบ กันเกราจึงรู้สึกดีขึ้นมาได้หน่อย เธอกวาดสายตามองไปรอบๆตัว ทว่าไม่ได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความหรูหราหรือความงดงามที่เธอมักได้ยินจากปากชาวบ้านละแวกนี้เอ่ยชมเป็นเสียงเดียวเลยสักนิด
เด็กรับใช้คนเมื่อตะกี้ พาเธอมานั่งคอยเจ้านายของที่นี่ตรงศาลาริมบึง บนพื้นกระเบื้องขัดมัน ข้างเก้าอี้ที่กันเกรานั่ง มีกระเป๋าเดินทางใบเล็กวางอยู่ ข้างในบรรจุเสื้อผ้าไม่กี่ชุดหรอก เพราะกันเกราต้องมาอยู่ที่นี่เพียงแค่ห้าวันเท่านั้น ถ้ากันเกราทำงานเสร็จ กันเกราจะรีบกลับบ้านทันที ถึงแม้ในเอกสารสัญญาจะอนุญาตให้กันเกราสามารถพักอยู่ได้ตามที่ต้องการ แต่กันเกราไม่เอา กันเกราเกลียดบ้านหลังนี้ เกลียดขี้หน้าเจ้าของบ้านหลังนี้ด้วย
บ้านของกันเกราที่ต้องใช้ความสาวแลกมา อยู่ไม่ห่างจากตึกหลังโอ่อ่าหลังนี้นัก
มันเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ถูกปลูกซ่อนสายตาอยู่ในสวนกล้วย ถ้าไม่หลงเดินเข้าไปก็จะไม่เห็นบ้านของเธอหรอก
ผิดกับบ้านหลังนี้ ที่ทั้งใหญ่โตและโดดเด่นสะดุดตา
กันเกรานั่งรอไม่นาน เด็กรับใช้คนเมื่อสักครู่ก็เดินกลับออกมาจากตึกใหญ่
“คุณคะ...คุณผู้ชายเชิญบนตึกใหญ่ค่ะ...”
“จ๊ะ...” กันเกรารับคำเสียงเบา ฝ่ามือทั้งสองข้างชื้นไปด้วยเหงื่อ เธอก้มจะหยิบกระเป๋าบนพื้น ก็ถูกสาวใช้ห้ามไว้
“กระเป๋าคุณ เดี๋ยวหนูยกไปให้เองค่ะ เชิญคุณทางนี้”
“ขอบใจนะ”
“หนูชื่อว่าบัวนะคะ มีหน้าที่คอยรับใช้คุณ” บัวเงยหน้าขึ้นมาแนะนำตัว เธอเป็นเด็กสาวตัวเล็กผิวพรรณออกมาทางสีน้ำผึ้งเข้มจัด
กันเกราทำหน้าไม่ถูก ไม่คิดว่าสถานะอย่างเธอจะต้องมีคนรับใช้กับเขาด้วย หรืออาจไม่แน่ว่า นายจ้างของเธอคงไม่คิดไหวใจ กลัวเธอจะหยิบจับหรือฉวยของมีค่าในบ้านของเขาเอาไปขาย จึงส่งเด็กสาวคนนี้มาคอยควบคุม ตามสอดส่องความประพฤติของเธอซะมากกว่า เขาคงไม่ใจดี ถึงขั้นอำนวยความสะดวกสบายให้กับอีแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องใช้ตัวแลกกับหนี้ก้อนโตหรอกกระมัง
กันเกราผ่อนหายใจออกยืดยาว เดินตัวลีบเล็กตามเด็กบัวขึ้นมาบนตึกใหญ่ด้วยอารมณ์จมดิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตากับคนงานในบ้าน และดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็คงรู้ เธอมาอาศัยที่นี่ในฐานะอะไร
พอเท้าแตะผ่านขอบประตูบานใหญ่เข้ามายืนภายในตัวตึกเท่านั้น กันเกราก็ดูเหมือนจะตัวเล็กลีบลงกว่าเดิม จนอดคิดเปรียบตัวเองกับเศษฝุ่นไม่ได้
ตอนนี้ ระหว่างเธอกับเศษฝุ่นคงไร้ค่า ไม่ต่างอะไรกันมากนักหรอก
“คุณผู้ชายรออยู่ชั้นบนค่ะ” บัวหันมาบอก คงเห็นเธอเดินช้าลง
“จ้ะ...”
กันเกรารับคำสั้นๆ ก้มหน้าเดินตามหลังเด็กบัว ขึ้นมายังชั้นบน หัวใจเธอยิ่งหดหู่ เจ็บหน่วงยิ่งขึ้นไปทุกที...
-----------------------------
*สามารถเข้าอ่านเนื้อหาต่อได้ที่ (ธัญวลัย) ตามลิงค์นี้เลยนะคะ - https://www.tunwalai.com/story/758859