ทำอย่างไรเมื่อตกอยู่ในภาวะ "ตกงาน"นานเกินไป
ทำอย่างไรเมื่อเราตกอยู่ในภาวะะตกงาน นานเกินไป!!?
เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่าน อาจตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน ที่เมื่อเราตัดสินใจลาออกจากงานเก่าแล้วด้วยเหตุผลหลายๆประการ และกำลังอยู่ในช่วงหางานใหม่ หรือเพิ่งเรียนจบใหม่และกำลังมองหางานที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดโอกาสเหล่านั้นก็ยังไม่เป็นของเราซะที จนบางครั้งทำให้เราเกิดอาการท้อถอย และส่งผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต ความสัมพันธ์กับเพื่อน ครอบครัวและการเข้าสังคม อยากจะบอกทุกคนนะคะว่า สิ่งแรกเลยที่เราสามารถทำได้ คือการตั้งสติ และวางแผนใช้ชีวิตในแต่ละวันเพื่อไม่ให้ตัวเราตึงเครียดจนเกินไป และมองด้านบวกเข้าไว้ เพราะพลังบวกนี่แหละค่ะ จะดึงดูดสิ่งที่เรามองหาเข้ามาหาเราได้เร็วขึ้น พลังบวกที่พูดถึงไม่ใช่การการละเลย ปล่อยจอยไปวันๆนะคะ แต่มันคือการบริหารความเครียดดีๆนี่เองให้อยู่ในขอบเขตและใช้ช่วงเวลาที่เรามีในช่วงว่างงานนี่แหละค่ะ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง?
1. อย่างแรกเลยนะคะ เราต้องแบ่งเวลาเป็นช่วงๆในแต่ละวัน อย่างเช่น เช้า- อัพเดตงานที่รับสมัคร ส่งใบสมัคร เช็คอีเมลล์ เพื่อไม่ให้งานที่เราสนใจหลุด เที่ยงบ่าย-ใช้เวลาทำงานบ้าน ออกไปพบปะสังสรรค์เพื่อนบ้าง เพื่อนที่เราสนิทอาจจะมีไอเดียใหม่แบ่งปันเราเสมอ เย็น- ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว สัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่กิจกรรมอดิเรกต่างๆที่เราอยากทำแต่ไม่เคยได้มีเวลาทำมาก่อน และอย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
2. วางแผนการสมัครงาน เชื่อว่าทุกคนคงทราบช่องทางหางานในสายเราอยู่แล้วในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเวปไซด์หางานต่างๆ >>www.jobsdb.com, www.indeed.th, linkedin หรือ เวปไซด์ เพจท้องถิ่นของจังหวัดนั้นๆ รวมทั้งทำเรซูเม่ให้น่าสนใจ กระชับ อ่านง่ายหรือ การเตรียมตัวเข้าสัมภาษณ์ สิ่งเหล่านี้เราสามารถฝึกฝนไปเรื่อยๆในช่วงนี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจค่ะ แต่จำไว้นะคะว่าเราไม่ควรเคร่งครัดทำสิ่งเหล่านี้ทั้งวัน เพื่อไม่ให้เราตึงเครียดจนเกินไปค่ะ
3. บริหารเงินออม เชื่อว่าเรื่องเครียดหลักในช่วงตกงานก็ไม่พ้นเรื่องเงิน เพราะด้วยภาระที่เรามีมากน้อยแตกต่างกัน ไม่ว่าเราตกงานด้วยเหตุผลอะไร สิ่งสำคัญคือต้องคิดไว้เสมอว่าเราต้องผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ บางคนอาจมีหนี้สิน มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ลองคำนวณล่วงหน้าไปสักหกเดือน จิตนาการว่าถ้าเราว่างงานไปถึงตอนนั้น เราจะมีวิธีการจัดการปัญหาเหล่านี้ยังไง บางคนอาจจะเกิดไอเดียใหม่ๆ เช่น งานเสริม งานค้าขาย งานพาร์ททาม หรือลองมองที่ตัวเราเองว่าเรามีความสามารถอะไรบ้าง ที่จะดึงออกมาใช้ในช่วงนี้เช่น บางคนอาจเย็บ ปัก ถักร้อยได้ บางคนอาจพูดเก่ง ก็ลองไปสมัครเป็นพิธีกรหรือนักพูดตามงานต่างๆ บางคนชอบทำอาหาร ก็ลองทำอาหารขายในแฟตฟอร์มต่างๆดูค่ะ สิ่งเหล่านี้จะใช้ต้นทุนน้อยที่สุดและพยุงการเงินช่วงนี้ของเราไปได้ค่ะ ไม่แน่นะคะ อาจจะกลายเป็นอาชีพหลักของเราในที่สุดก็เป็นได้
4. รักษาสุขภาพ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นในช่วงตกงาน คือการเจ็บไข้ได้ป่วย เพราะถึงแม้เราจะซื้อประกันไว้หรืออย่างไรก็ตาม ร่างกายที่อ่อนแอก็ทำให้เราถดถอยได้เหมือนกัน ขอให้ดูแลตัวเองให้มากๆ ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์และตรงต่อเวลา พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะเมื่อเราร่างกายแข็งแรง เราก็จะเหลือพละกำลังไว้ทำสิ่งต่างๆได้เยอะแยะในช่วงนี้เลยค่ะ
5. ไปเที่ยว ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องไปไกลๆ เพราะเราต้องบริหารเงินในช่วงนี้ แต่การออกไปจากสิ่งแวดล้อมที่จำเจทุกวัน ก็เป็นการเปิดโลกกว้างอีกทางหนึ่ง บางครั้งแค่ออกไปดูธรรมชาติ ดูผู้คนอื่นใช้ชีวิต ก็ทำให้เรามีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น จำไว้นะคะทุกคนในโลกนี้ไม่มีชีวิตใครที่เกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่าง ทุกชีวิตทุกคนก็ดิ้นรนกันไป ถ้าเราได้พบเจอคนที่ลำบากกว่าเรา ก็ให้ตระหนักว่าเราโชคดีแค่ใหนที่ยังเป็นเราทุกวันนี้ ถ้าเราเจอคนที่มั่งคั่งกว่าเรา ก็ให้ศึกษาจากเค้าเพื่อเป็นแนวทางให้เราพัฒนาตัวเองขึ้น บางทีบางครั้งการได้ออกไปเที่ยวซะบ้างก็อาจเกิดไอเดียใหม่ๆ มีทรรศคติใหม่ๆ และสิ่งเหล่านี้ก็คือพลังบวกนั่นเองค่ะ
สำคัญนะคะ เราต้องไม่ท้อ บอกตัวเองชมตัวเองทุกวันว่าเราทำดีที่สุดละ และถ้าหากมีโอกาสอะไรใหม่ๆในช่วงนี้ในเราได้ลองทำหรือเข้าร่วมไม่ว่าคอร์สพัฒนาตัวเอง การลงเรียนคอร์สฟรีต่างๆที่ทางรัฐจัด และแบ่งเวลาดูแลตัวเองและคนรอบตัวไปด้วย แค่นี้เราก็มีอะไรให้ทำทั้งวันและไม่เบื่อหน่ายกับชีวิตแน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังหางานทุกคนในช่วงนี้ค่ะ
**ภาพล่างไม่น่าเกี่ยวกับเนื้อหาอะไร แค่ขอให้ยิ้มไว้ค่ะ :)