หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องสั้น : อีกา

เนื้อหาโดย หนามดอกงิ้ว

เสียงกระแทกหูโทรศัพท์กับเครื่องดังจนทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้ตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าร้านมินิมาร์กหันมามองต้นเสียงทันที  แต่ก็ไม่กล้าสบตากับเด็กสาวที่รวบผมเป็นหางม้าคนนี้ เธอเพียงตวัดสายตามองคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ความขุ่นข้องในใจทำให้เธอไม่ใส่ใจว่าใครจะมองว่าเธอไร้กิริยาก็ตามที

"พ่อบ้า" เด็กสาวบ่นพึมพำก่อนพาเท้าก้าวเข้ามาในร้านมินิมาร์ทที่เธอรู้จักกับพนักงานเป็นอย่างดี

"หงุดหงิดอะไรจ๊ะหนูแทน " เสียงดัดจริตจากชายหนุ่มแต่งหน้าจัดจ้านยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ถามอย่างสนิทสนม

เด็กสาวไม่ตอบเพียงแต่เหยียดยิ้มที่มุมปาก เดินไปตรงตู้แช่เครื่องดื่มหยิบไวน์คลูเลอร์มาเปิดยกชดไม่แคร์สายตาที่จ้องมอง เธอเดินวนในร้านหาขนมเคี้ยว แล้วตรงมาจ่ายเงินเมื่อกระป๋องที่ยกซดไม่เหลือน้ำที่บรรจุอยู่ภายในแล้ว

"แหม ...หนูแทน เดี๋ยวกลับไม่ถึงบ้านหรอก นี่ๆเดี๋ยวนี้แถวบ้านเรามีข่าวผู้หญิงถูกฆ่าข่มขืนด้วยนะหนูแทน "

"แล้วไง พี่อ๊อดอยากเป็นคนโชคดีที่ถูกข่มขืนละซิ "

"ปากคอเราะร้ายใหญ่แล้วนะหนู อย่างพี่ไม่ต้องข่มขืนหรอก พี่จะอ้าขารับเลยจ๊ะ"

เสียงหัวเราะดัดจริตแบบหญิงดังขึ้น  เด็กสาวเพียงแต่ยิ้มบาง ๆ โบกมือลาและก้าวเท้าออกมาเงียบๆ ถนนสายเล็ก ๆในหมู่บ้านจัดสรรไม่เปลี่ยวนัก แต่หัวใจที่อ้างว้างก็วูบไหวแม้เพียงสายลมฤดูหนาวเริ่มแผ่วพัดมาทักทาย  เด็กสาววัยสิบแปดหวนคิดถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อครู่

"แต่...พ่อสัญญากับแทนแล้วนี่ว่าวันนี้จะพาไปกินข้าวนอกบ้าน "

"พ่อติดงานที่โรงพยาบาลนะลูก หมอนพลาหยุดกะทันหัน พ่อต้องดูแลคนไข้ "

"พ่อใจร้าย พ่อดูแลคนอื่น แต่พ่อลืมลูกตัวเอง "

"พ่อขอโทษ คราวหน้านะลูก คราวหน้าพ่อจะพาไปกินข้าวแถมไอติมที่ลูกชอบด้วยก็ได้รีบเข้าบ้านซะ ปิดประตูบ้านให้เรียบร้อย พ่ออาจจะกลับดึก "

"หรืออาจจะไม่กลับ !!! "

เด็กสาวจำได้ว่าตนเป็นฝ่ายกระแทกหูโทรศัพท์ใส่พ่อก่อน  แต่ระหว่างการสนทนานั้น เธอคล้ายได้ยินเสียง ผู้หญิงเรียกชื่อพ่ออย่างสนิทสนม

  ติดงานหรือ? . . ติดหญิงละไม่ว่า

ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพ่อเนื้อหอมขนาดไหน และนับวันพ่อจะยิ่งทิ้งลูกสาวคนนี้ให้อยู่บ้านคนเดียว บ้านที่ไม่มีใครแม้เพียงเงาและกลิ่นอายของแม่ก็ไม่เหลือแล้วในบ้านหลังนี้  เมื่อก่อนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ พ่อไม่เคยกลับบ้านผิดเวลา  เสียงหัวเราะหยอกล้อที่เย็นค่ำเป็นที่อิจฉาของเพื่อนบ้าน แต่อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้นเมื่อ 3 ปีก่อน  เพราะแม่ปกป้องแทนไว้ด้วยอ้อมกอดแนบแน่นของแม่ แต่ไม่มีใครปกป้องแม่ รถพังยับไปทั้งคันเพียงเพราะความประมาณของคู่กรณีที่ร่ำสุราอย่างหนัก

3 ปี แล้วที่แม่จากไป ...บ้านของที่เคยอบอุ่นด้วยไอรักถูกกลบกลืนด้วยรอยเศร้าหม่น ...3 ปีกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  น้ำใสๆ ปริ่มที่ขอบตา เด็กสาวพยายามกล้ำกลืนเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร

ทำไมทุกคนเหมือนตกอยู่ในห้วงความเศร้าโศกแต่หลงลืมไปว่า " แทน " ยังอยู่ เธอยังมีลมหายใจยังสัมผัสความรู้สึกที่ผ่านสายตาหลาย ๆ คู่ของคนอื่น  เด็กสาวรับรู้ถึงสายตาดูถูกและชิงชัง   ครอบครัวใหญ่ของพ่อไม่ค่อยชอบแม่สักเท่าไหร่  แม่เป็นเพียงหญิงสาวผู้รักงานศิลปะ พ่อพูดเสมอว่าแม่เป็นศิลปิน พ่อหลงรักความอ่อนโยนและอ่อนหวานของแม่  พ่อเคยพูดว่า... พ่อต่างหากที่เป็นผู้ชายผู้โชคดีที่ได้รับรักจากผู้หญิงที่แสนวิเศษอย่างแม่ เธอไม่รู้ว่าตนเองได้เสี้ยวไหนของพ่อและแม่มารวมกันทำให้ชอบทำตัวให้แปลกแยกกว่าคนอื่น ตั้งแต่วันที่บ้านนี้ไม่มีแม่

เด็กสาวก้าวเท้าไปเรื่อย ๆ จนผ่านบริเวณสวนสาธารณะของหมู่บ้าน เสียงนกร้องเสียงดังคล้ายเจ็บปวดเรียกสติเธอกลับคืน เด็กชายวันสิบกว่าขวบสามคนกำลังหัวเราะสนุกสนานกับการใช้หนังสติ๊กเเละปืนแก๊ปไล่ยิงนกสีดำตัวหนึ่ง  เด็กสาวไม่รอช้าเร่งเท้าก้าวเข้าไปดูใกล้ๆ

"มาทำอะไรเจ้ " เด็กหัวโจกคนหนึ่งเอ่ย

"มาดูคนทำบาป " เธอตอบแสร้งทำเสียงดุสีหน้าจริงจังหมายจะเอาเรื่อง

"แค่เล่นอะไรสนุก ๆ นะพี่สาว "

"งั้นลองเปลี่ยนมาไล่ยิงพวกเธอบ้างจะดีไหม ? "

"ว้า . . หมดสนุกแล้ว "    เด็ก ๆ เริ่มทำท่าขยาดขลาดกลัวกับท่าทีจริงจังของอีกฝ่าย

"ไปดีกว่า แค่อีกาตัวเดียวไม่อยากเอากลับบ้านหรอก เจ้าตัวโชคร้าย "

เด็ก ๆ ทั้งสามคนรีบวิ่งหลบไปไม่สนใจจะเหลียวกลับมามอง ทิ้งให้แทนมองหาร่างที่ส่งเสียงเจ็บปวด เธอก้าวเท้าไปที่พงหญ้าใกล้ต้นไม้ใหญ่ เมื่อกอหญ้าถูกแหวกออกเธอก็เห็นร่างของนกสีดำที่ปีกชุ่มด้วยเมือกเลือดสีเข้ม  เด็กสาวถึงกับผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่งนึกถึงภาพเลือดนองพื้นถนนขึ้นมาทันที  แต่เมื่อเธอสะบัดหัวไปมาไล่ภาพความทรงจำเก่าๆ นั้นทิ้งไป  เธอก็ทรุดตัวลงนั่งดูอาการของนกเคราะห์ร้ายก่อนที่จะอุ้มมันไว้ในวงแขนเล็ก ๆ.... 

ในวินาทีนั้นเธอไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องทุกกิริยาของเธอ

ตัวโชคร้าย ตัวอัปมงคล นำความตายมาเยือน

เสียงในความทรงจำเมื่อครั้งยังเยาว์วัยผุดขึ้นในสมอง บ่ายวันที่ย่าเจ็บปวดอาการหนัก เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้าบ้านมาพร้อมร่างของลูกแมวดำตัวหนึ่ง มันโดนรถเฉี่ยวจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างใจดำคันหนึ่ง  ในวันนั้นเธอไปเยี่ยมย่าที่พักอยู่ชานเมืองพร้อมกับพ่อและแม่   เด็กหญิงตัวน้อยตัวสั่นสะท้านไม่เข้าใจความโกลาหลในบ้านของวันนั้นและจบลงด้วยเสียงรถพยาบาลมารับร่างที่สงบนิ่งของย่าไป

"พ่อเป็นหมอรักษาคนนะลูกไม่ได้รักษาสัตว์"

เสียงของพ่อแว่วในความทรงจำของแทน เด็กสาวทำแผลให้อีกาอย่างเบามือพยายามไม่คิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา  รู้สึกว่าไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูเป็นเรื่องที่ผิดไปซะทุกอย่าง          จนไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น แทนมองดูร่างนกสีดำที่ยังนอนสงบนิ่งบนโต๊ะอาหารในห้องครัว  เธอก้มมองดูเสื้อที่เลอะคราบเลือดและเปื้อนโคลน

"ปีกไม่หักไม่เป็นไรหรอกนะ โชคร้ายหน่อยนะที่แกดันเกิดมาตัวดำ นั้นซินะ ตัวฉันก็ไม่ดำ ไม่รู้ใครมาป้ายสีดำบนตัวฉันถึงได้ทำอะไรก็ผิดไปซะทั้งหมด " เด็กสาวเอ่ยสนทนากับนกเคราะห์ร้ายราวกับจะสื่อสารกันรู้เรื่องก่อนเอานิ้วจิ้มเบาๆที่ตัวนกสีดำ

"ฉันจะไปอาบน้ำ แกห้ามกลายเป็นคนมาปล้ำฉันนะ"

ปัง!

แทนสะดุ้งสุดตัวเมื่อหน้าต่างกระแทกปิดเองอย่างแรงตามแรงลม  เธอมองไปด้านนอกหน้าต่างผ่านกระจกใสๆ เพิ่งรู้ว่าฝนปลายฤดูกำลังจะเทร่วงลงมาอีกครา  ลมเปลี่ยนฤดูมักจะพัดแรงอย่างนี้เสมอ แทนบอกกับตัวเองรู้สึกถึงความอ้างว้างที่เข้ามาอ้อมกอด  เด็กสาวพาร่างตัวเองผลุบหายไปในห้องอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคลของวันนี้และล้างความรู้สึกอับเฉาของตัวเองให้หมด

หยาดน้ำพร่างพรูหลั่งรินบนเนื้อกายขาวซีด  เด็กสาวยืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้หยดน้ำไหลรินสำรวจร่างกายแห่งวัยสาว ครู่หนึ่งเด็กสาวก็หยิบใยถูตัวเทสบู่เหลว  เริ่มขัดผิวตัวเองเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆคล้ายจะลบล้างบางสิ่งออกไป

"นังตัวอัปมงคล "

ใครมาป้ายสีดำบนตัวฉันถึงได้ทำอะไรก็ผิดไปซะทั้งหมด

เด็กสาวตะโกนใส่กระจก เสียงสะอึกสะอื้นปนกับเสียงน้ำไหลรินในห้องอาบน้ำ เนิ่นนานจนผิวขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงตามแรงถู ความเจ็บแสบทำให้สติเธอจึงกลับคืน  เด็กสาวรีบคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบกาย เพียงก้าวออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านดังระงมอยู่นานแล้ว

"ทำอะไรอยู่ลูกแทน ทำไมเพิ่งมารับโทรศัพท์ "

"พ่อ" เด็กสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ข้างโต๊ะที่วางโทรศัพท์

"พ่อเป็นห่วงกลัวลูกจะยังไม่เข้าบ้าน "

"แล้วพ่อล่ะ งานเยอะไม่ใช่เหรอ ทำไมยังมีเวลามาโทรศัพท์ได้ " เธอประชดผู้เป็นพ่อไม่ได้แต่ลึก ๆ ก็ยังดีใจที่พ่อคิดถึงและห่วงใยในตัวลูกคนนี้อยู่

"ก็พ่อบอกแล้วไงว่าพ่อเป็นห่วงลูก " เสียงพ่อหัวเราะ เพียงเท่านี้ เธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างประหลาดเจ้าความอ้างว้างขยับร่นถอยกายห่างไปหลายศอก

" พ่อ...แทน . . คือ...แทน " ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรได้จบประโยค เธอก็รับรู้ถึงบางสิ่งที่เคลื่อนไหวในความมืดมุมหนึ่งของบ้าน

"มีอะไรลูก "

" ไม่รู้ค่ะ เดี๋ยวแทนออกไปดู...ว๊าย !!! "

เสียงฟ้าร้องผ่าดังกึกก้องทำให้เด็กสาวเผลอร้องกรี๊ดไปดันลั่น ทุกอย่างอยู่ในความมืดไปชั่วขณะ แทนปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่งเธอวางโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นไปมองนอกหน้าต่างฝนตกหนักแต่ทำไมคนบ้านอื่นไม่เห็นไฟดับอย่างบ้านเธอ

“สงสัยฟิวส์ขาดแน่ๆ”  เด็กสาวกระชับผ้าขนหนูเป็นสิ่งเดียวที่ห่อหุ้มร่างกายอยู่ในขณะนี้ แทนเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อหาเทียนมาเพิ่มความสว่างในบ้าน

"อยู่ไหนน่ะ " แทนพึมพำกับตัวเองในขณะที่สองมือก็ควานเทียนเล่มน้อยที่เคยใช้จุดน้ำมันหอมอโรม่า

ทันใดนั้นเองแสงสว่างก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเธอ เงาดำที่ทอดทับเงาของเธอ  ทำให้เด็กสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เธอไม่ได้อยู่ในบ้านคนเดียวแล้วในเวลานี้ แทนทำท่าจะก้าวหนีแต่ร่างกายของเธอถูกรั้งเข้ามาปะทะแผงอกกว้างของผู้บุกรุกอย่างแรง เธอหน้านิ่วเพราะความเจ็บจากแรงบีบของมือคู่นั้นที่กดลงแขนเล็ก ๆ ของเธอ

"คุณเป็นใคร " เด็กสาวกลั้นใจถาม พยายามสะกดความกลัวไม่ให้เล็ดลอดออกมาให้อีกฝ่ายจับได้

อีกฝ่ายคลี่ยิ้มที่มุมปากในความสว่างริบหรี่ของแสงเทียน  เธอมองเห็นใบหน้าของใบหน้าคุมเข้มแต่ซีดเซียวราวคนป่วยไข้  ที่หางคิ้วขวามีผ้าพันแผลแปะอยู่มีรอยเลือดไหลซึมย้อยออกมาเป็นคราบ ต้นแขนขวามีผ้าพันไว้อีกแผลดูเหมือนจะมีเลือดซึมออกมาจนเห็นได้ชัด ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าสีดำ และเสื้อเชิ้ตไร้การกลัดกระดุม

"คุณเป็นใคร เข้ามาบ้านฉันได้ยังไง " แทนถามย้ำ แต่เขากลับขยับดันร่างของเธอหลังชิดผนังห้องจนไม่อาจดิ้นรนและหลบสายตาของเขาได้

"ผมก็แค่คนโชคร้าย ที่ถูกทาสีดำ "

ถ้อยคำของคนแปลกหน้าทำให้เธอนิ่งงัน นิ้วมือที่ผอมและหยาบคล้ายกิ่งไม้ค่อยไล้ลูบผิวกายเธอแผ่วเบา ก่อนก้มหน้าลงสูดดมกลิ่นผมเธอจมูกของอีกฝ่ายซุกซนอยู่ริมหู

แสงแปลบปลาบจากพายุฝนที่ผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามา  แทนเพ่งมองไปที่โต๊ะอาหารไร้ร่างอีกาที่เธอโอบอุ้มมาดูแลเธอมองเลยไปยังสิ่งที่พอจะเป็นอาวุธให้เธอได้

"ปล่อยนะ ปล่อย!!! " แทนพยายามดิ้นรนแต่ทนแรงอีกฝ่ายไม่ไหว

"ผมปล่อยคุณไม่ได้ ความเหงาร้ายนั้นมันกำลังกลืนกินคุณอยู่ คุณต้องการผม . . คุณไม่อยากอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ ?"

คนแปลกหน้าเริ่มบุกรุกพื้นที่ในร่างกายเธออย่างไม่เคยผู้ชายคนไหนเคยทำ เนื้อแนบเนื้อ กายแนบกาย มีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กที่พันกายอยู่ขั้นกลางระหว่างคนสองคน

"จะทำอะไร ปล่อยนะ "

แทนดิ้นรนมือไม้สะเปะสะปะไปเท่าที่พอจะทำได้ จนไปข่วนแผลที่ต้นแขนของอีกฝ่าย เป็นผลให้เธอหลุดพ้นจากวงแขน เด็กสาวรีบวิ่งออกมาจากห้องครัว แต่ไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกกระชากอย่างแรง และเหวี่ยงไปนอนหงายอยู่บนโซฟา ร่างสูงโปร่งของอีกฝ่ายขึ้นคร่อมใช้ขากดทับไม่ให้เด็กสาวขยับลุกหนีได้

"อย่าหนีเลยนะ...มาทำอะไรสนุกๆดีกว่าเด็กสาวๆอย่างเธอก็ต้องการแบบนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? " ใบหน้าที่ซุบตอบยิ้มบาง ๆแต่จ้องมองด้วยสายตาวาวโรจน์

"อย่าดิ้นเลยนะอีหนู นึกฉันรู้ไม่ทันแกเหรอ แกมันเลี้ยงร้องความสนใจอยู่ไม่ใช่เหรอ?   แกมันก็ต้องการผู้ชายเหมือนนังพวกนั้นแหละ ฉันช่วยสนองให้จะดีกว่า เอ้า!!! ดิ้นซิ ดิ้นเลย ฉันชอบ "

เด็กสาวรู้สึกถึงพละกำลังของอีกฝ่ายที่โถมเข้าใส่อย่างหืนกระหาย  แรงจากฝ่ามือที่กระทบใบหน้าแทนจนเป็นรอยแดงขึ้นรอยนิ้วหน้าชาไปทั้งซีกหน้า รู้สึกเค็มคาวที่มุมปากของตน ดวงตาเบิกโพลงด้วยความกลัวแต่ในสมองกลับมองเห็นภาพเลือดที่นองพื้นถนน

เสียงนกร้องโหวกแหวกเรียกสติให้ตื่นฟื้น ชายแปลกหน้าหันไปมองทางต้นเสียงแต่ไม่ทันที่เจ้าอีกาตัวดำใหญ่บินโฉบไปเฉี่ยวมาจิกตามเนื้อตัวของชายในชุดดำ

แทนได้สติขยับตัวออกคว้ากรอบรูปที่อยู่ใกล้มือคว้างใส่เป็นผลให้มันผงะหงาย แทนลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตูเป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูถูกเปิดออกร่างเธอเซซบอย่างแรง

"ลูกแทน!!! "

"พ่อ!!!" เด็กสาวเหมือนจะหายใจไม่ออก เข่าอ่อนแทบหมดแรงยืน ผู้เป็นพ่อรีบถอดเสื้อตัวนอกคลุมร่างลูกสาว

"อ๊าก!!! . . ตา . .ตากู ได้นกจัญไร "

แทนจะหันไปมองแต่มือของพ่อเอื้อมมาปิดตาลูกสาวไว้ก่อนที่จะมองเห็นภาพเลือดที่ไหลนองหน้าของผู้บุกรุก  มันวิ่งเตลิดออกไปข้างนอก เป็นจังหวะเดียวกับที่รถตำรวจมาถึงพอดี

" พอลูกแทนวางหูโทรศัพท์ พ่อก็รีบมา พอดีเจอสารวัตรที่มาดูอาการผู้หญิงที่ถูกข่มขืนก็เลยมาพร้อมกับพ่อด้วย "

"อีกาช่วยแทน " เด็กสาวพึมพำเบา ๆ 

"จ๊ะ . .มันช่วยลูกสาวของพ่อ สิ่งเดียวที่พ่อรักและหวงแหนที่สุดในชีวิต "

" แทน . .แทนรักพ่อ "

ผู้เป็นพ่อก้มมองดูลูกสาวที่สะอึกสะอื้นเป็นเด็กน้อย พ่อโอบกอดลูกสาวอย่างปลอบโยน น้ำตาที่เคยสะกดกลั้นไว้รินไหล  พ่อโยกหัวลูกสาวราวเด็กน้อยอย่างปลอบขวัญ  เธอรู้สึกปลอดภัยและสัมผัสถึงความอบอุ่นที่เคยคิดว่าพ่อได้หลงลืมที่จะมอบมันให้ลูกสาวคนนี้ไปแล้ว

 

เนื้อหาโดย: หนามดอกงิ้ว
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
หนามดอกงิ้ว's profile


โพสท์โดย: หนามดอกงิ้ว
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มต่างชาติสุดน่ารัก และอารมณ์ดี..พากันใส่ชุดไทยสตรีเดินชิลเที่ยววัดอรุณฯล่าสุดมีผู้ป่วยโควิดพุ่งวันละ 239 ราย อาการร้ายแรงกว่าปีที่ผ่านมาประเทศไทยเมื่อ 60 ปีที่แล้วเจอแบบนี้เซ็งเลย ไม่ตรงปกหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์ยกเท้าถีบรถชาวบ้านไปทั่วราคาโรงแรมแคปซูล ในโตเกียวพุ่งสูงขึ้นสาวรีวิว โควิดสายพันธ์ใหม่ ติดไว แทบไม่รู้ตัว ป่วยหนัก-หายช้าหนุ่มตุรกีแสบ แกล้งแฟนเก่า สั่งอาหาร 50 ออเดอร์ แถมเก็บเงินปลายทาง หลังจบกันไม่สวย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แอร์อินเวอร์เตอร์ VS แอร์ดั้งเดิม: เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เลือกแบบไหนดี?ล่าสุดมีผู้ป่วยโควิดพุ่งวันละ 239 ราย อาการร้ายแรงกว่าปีที่ผ่านมาราคาโรงแรมแคปซูล ในโตเกียวพุ่งสูงขึ้นวัดร่องขุ่น วัดสวยคู่เชียงราย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
หนุ่มตุรกีแสบ แกล้งแฟนเก่า สั่งอาหาร 50 ออเดอร์ แถมเก็บเงินปลายทาง หลังจบกันไม่สวยหอพักผมในวันหยุดเที่ยวตามรอย "พี่จอง-คัลแลน" เห็นหมีบุกเต็นท์..เกือบเผ่นไม่ทันแล้วพลิกชีวิตเด็กโดนบูลลี่..รวยเป็นเศรษฐีเพราะขนมถังแตก
ตั้งกระทู้ใหม่