ผักพื้นบ้านภาคกลาง ปลูกง่าย โตไว กินอร่อย สร้างรายได้เสริม
ผักพื้นบ้านภาคกลาง ปลูกง่าย โตไว กินอร่อย สร้างรายได้เสริม
ผักพื้นบ้าน หมายถึง พันธุ์พืชที่มนุษย์ในถิ่นต่าง ๆ บริโภคในรูปของผัก นั่นคือ เป็นส่วนผสมหลักในตำรับอาหาร พืชดังกล่าวยังไม่เคยผ่านกระบวนการผสมและปรับปรุงพันธุ์พืช อาจเป็นพืชที่เติบโต พบเห็นได้ทั่วไปในถิ่นนั้นหรือเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในต่างถิ่น แต่นำเข้ามาปลูกในถิ่นนั้น ๆ มานานจนปรับตัวเข้ากับท้องถิ่นนั้น และมนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ในรูปของผัก โดยให้รวมถึงผักที่ผ่านการพัฒนาพันธุ์แล้วเพื่อวัตถุประสงค์หนึ่ง เช่น เพื่อกินผล แต่เรากลับเก็บยอดหรือดอกมากินเป็นผักแทน ตัวอย่างเช่น ฟักทองที่ปลูกเพื่อกินผล แต่บางท้องถิ่นชาวบ้านกลับเก็บยอดและดอกมากินเป็นผัก ดังนั้นยอดและดอกของฟักทองจึงเป็นผักพื้นบ้านตามคำนิยามข้างต้น
ประเทศไทยเป็นดินแดนที่มีพืชพรรณหลากหลาย ผักพื้นบ้านก็เป็นหนึ่งในพืชพรรณที่พบเห็นได้ทั่วไปในภาคกลาง ผักพื้นบ้านเป็นผักที่ปลูกง่าย โตไว หาซื้อได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือให้คุณค่าทางอาหารสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
ผักพื้นบ้านภาคกลางที่ปลูกง่าย โตไว กินอร่อย
ผักพื้นบ้านภาคกลางที่ปลูกง่าย โตไว กินอร่อย มีดังนี้
-
ผักหวานบ้าน ไม้พุ่ม ต้นสูงได้ถึง 10 เมตร ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี มีแสงส่องครึ่งวัน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือเพาะเมล็ด ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดจะมีขนาดใหญ่กว่าต้นที่ปักชำกิ่ง ควรหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มให้สูงเพียง 1 เมตร จะสะดวกในการเก็บกินได้ตลอดปี ยอดอ่อนและผลอ่อนนำมาลวกหรือกินเป็นผักสดกับน้ำพริก อาหารรสจัดต่าง ๆ หรือนำมาประกอบอาหาร เช่น ผัดน้ำมัน แกงเลียง แกงปลาย่าง มีมากในฤดูฝน
-
มะระขี้นก ไม้เลื้อยล้มลุก ลำต้นเลื้อยพัน มีมือเกาะออกจากซอกก้านใบ ทุกส่วนของต้นมีขนปกคลุม ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดครึ่งวันหรือตลอดวัน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หยอดเมล็ดลงหลุมปลูก ประมาณ 7 วันจะงอกเป็นต้น เมื่อต้นเริ่มเลื้อยควรทำไม้ค้าง หลังปลูก 2-3 เดือนจึงเริ่มออกดอกติดผล ควรหมั่นเด็ดยอดไปกินอยู่เสมอ จะช่วยให้ต้นแตกใบและผลิดอกได้มาก ยอดอ่อนกินเป็นผักสดหรือนำมาลวกกินกับน้ำพริก บ้างก็นำมาผัดน้ำมัน ใส่ในแกงเลียง มีรสขม ส่วนผลอ่อนกินสดหรือต้มจิ้มน้ำพริก ผัดกับไข่ หรือใส่ในแกงอ่อม ถ้ากินสดจะมีรสขมน้อยกว่าต้มหรือนำมาประกอบอาหาร
-
มะแว้งเครือ ไม้เลื้อย อายุหลายปี ทุกส่วนของต้นมีหนามแหลม ผลกลมเมื่อสุกมีสีแดงสด ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดตลอดวัน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ยอดอ่อนและผลอ่อนกินสด อาจนำมาลวกหรือเผาไฟก่อน กินกับน้ำพริก บ้างก็ทุบใส่ในน้ำพริกหรือใส่ในแกงกะทิ มีรสขม เก็บกินได้ตลอดปี
-
ยอบ้าน ไม้ต้น สูงได้ถึง 10 เมตร ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดตลอดวัน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่งหรือเพาะเมล็ด เป็นไม้โตเร็ว ให้ร่มเงาได้ดี นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวน ปลูกเพียง 1 ปีก็เก็บยอดมากินเป็นผักได้ ยอดอ่อนนำมาต้มจิ้มน้ำพริก หรือปรุงอาหารได้หลายอย่าง เช่น รองห่อหมก ใส่ในแกงกะทิ แกงอ่อมใบยอ แต่ควรตัดเส้นกลางใบออกและลวกก่อนนำมาแกง จะช่วยลดความขมลงได้ ส่วนผลห่ามที่ยังเขียวอยู่ใช้ทำส้มตำแทนมะละกอ ทั้งยอดและผลมีให้กินตลอดปี
-
โสน ไม้ล้มลุก อายุสั้นเพียง 3-4 เดือน ต้นสูงได้ถึง 2 เมตร ชอบดินชุ่มชื้น มีน้ำขังตื้น ๆ แสงแดดตลอดวัน ยอดอ่อนและดอกถ้ากินดิบจะขม พอสุกมีรสหวาน นำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ต้มหรือลวกราดกะทิจิ้มน้ำพริก ผัดน้ำมัน ชุบไข่ทอดกินกับน้ำพริก ใส่ในแกงส้ม ทำเป็นขนมดอกโสน หรือดองเก็บไว้กินได้นาน มีให้กินช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูร้อน
-
ขจร ไม้เลื้อย อายุหลายปี ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดรำไรถึงแดดจัด นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง ทำเป็นซุ้มไม้ประดับให้ต้นเลื้อยพัน ควรหมั่นตัดแต่งอยู่เสมอเพื่อไม่ให้รกและแมลงศัตรูมาอาศัย ยอดอ่อนและช่อดอกนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น แกงส้ม แกงจืด แกงผักรวม ไข่ตุ๋น ยำ ชุบแป้งทอด ไข่เจียว ผัดน้ำมัน หรือต้มให้สุกจิ้มกินกับน้ำพริก ส่วนฝักอ่อนที่มีสีเขียวไม่แข็งนัก กินเป็นผักสดหรือนำมาเผา ต้มกินกับน้ำพริก มีให้กินตลอดปี แต่มีมากในฤดูฝน
ผักพื้นบ้านเป็นผักที่ปลูกง่าย โตไว หาซื้อได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือให้คุณค่าทางอาหารสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ผักพื้นบ้านแต่ละชนิดมีคุณค่าทางอาหารที่แตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วผักพื้นบ้านเป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย ดังนี้
-
วิตามิน ผักพื้นบ้านเป็นแหล่งวิตามินที่สำคัญ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 และวิตามินเค วิตามินเหล่านี้จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายระบบ เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร และระบบสายตา
-
แร่ธาตุ ผักพื้นบ้านเป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส และไอโอดีน แร่ธาตุเหล่านี้จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายระบบ เช่น ระบบกระดูกและฟัน ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และระบบเผาผลาญอาหาร
-
สารต้านอนุมูลอิสระ ผักพื้นบ้านมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอัลไซเมอร์
ประโยชน์ของผักพื้นบ้านต่อสุขภาพมีดังนี้
-
ช่วยบำรุงร่างกาย ผักพื้นบ้านเป็นแหล่งสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง สมบูรณ์
-
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผักพื้นบ้านมีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่
-
ช่วยระบบย่อยอาหาร ผักพื้นบ้านมีใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูก
-
ช่วยควบคุมน้ำหนัก ผักพื้นบ้านมีแคลอรีต่ำ ช่วยควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน
-
ช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง ผักพื้นบ้านมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอัลไซเมอร์
การปลูกผักพื้นบ้านเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับอาหาร ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผัก และช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ผักพื้นบ้านเป็นผักที่ปลูกง่าย โตไว หาซื้อได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือให้คุณค่าทางอาหารสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
อ้างอิงจาก:
เว็บไซต์ของกรมส่งเสริมการเกษตร
เว็บไซต์ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หนังสือ "ผักพื้นบ้านไทย" โดย ดร.สุริยา ศรีวิไล