"นิชคุณ" ตีแผ่วงการ K-POP กับสิ่งที่ไอดอลต่างชาติต้องเจอ

               หนุ่ม ‘นิชคุณ’ ได้ออกมาตีแผ่วงการ K-POP ถึงสิ่งที่ไอดอลชาวต่างชาติต้องเจอกันเกือบทุกคน  หนุ่มนิชคุณหรือ "นิชคุณ หรเวชกุล" หลายๆ คน ก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเขาก็คือ คนไทยคนแรก ที่ได้เดบิวต์ในวงการ K-POP เป็นสมาชิกวงบอยแบนด์ 2PM จากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง JYP Ent. (ซึ่งมีศิลปินมากมาย อาทิเช่น Twice, GOT7, Itzy, NMixx)

               นิชคุณได้สร้างชื่อเสียงจนโด่งดัง และยังได้รับฉายาจากประเทศเกาหลีใต้ว่า “เจ้าชายเมืองไทย” เพราะความหล่อเหลาแบบไม่ต้องเกรงใจใคร แต่ไม่เพียงเท่านั้น เขายังมีความสามารถอีกหลายด้าน ที่ทำอะไรก็ดูดีไปหมด จนได้ฉายา “Mr. Can Do” มาครอบครอง

               บรรดาติ่ง K-POP หลายๆ คน จะคงจะทราบกันดีแล้วว่า เกาหลีใต้ นั้นเป็นประเทศชาตินิยม แม้จะมีคนต่างชาติมาทำงานในวงการบันเทิงเกาหลีอย่างมากมาย แต่เราก็มักจะได้ยินเรื่องราวของความกดดันในฐานะศิลปินชาวต่างชาติอยู่เป็นประจำเสมอๆ

              ล่าสุดนั้น นิชคุณก็ได้พูดถึงประเด็นนี้ จากการให้สัมภาษณ์ในช่อง ARCHIVE-K ถึงการเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ซึ่งทางรายการก็ได้ถามว่า “ความยากในการเป็นสมาชิกชาวต่างชาติคืออะไร ?”

               หนุ่มนิชคุณ ก็ได้ตอบกลับมาว่า “ไม่รู้ว่าจะออกอากาศได้ไหมนะครับ คือ ต่างชาติทำได้แค่ 3 งานพร้อมกัน ถ้าอาทิตย์นี้ผมไปออก KBS, MBC, SBS (ช่องโทรทัศน์ของเกาหลี) ก็ไปงานอื่นไม่ได้แล้ว หรือถ้าไป 2 งาน ก็จะรับโฆษณาได้อีกแค่ 1 ชิ้น”

              “น่าจะยากสำหรับคนจัดตารางมากกว่าผม ผมต้องบินไป ๆ มา ๆ เพื่อต่อวีซ่าทุก 6 เดือน ค่อนข้างยากที่ต้องพูดเกาหลีออกอากาศ ผมอยากพูดอะไรเยอะมากแต่ก็พูดไม่ได้”  และบทสัมภาษณ์ท่อนนี้เองของ นิชคุณ ก็ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ เพื่อตอกย้ำถึงความจริงในวงการ K-POP กับสิ่งที่ชาวต่างชาติต้องเจอกันเกือบทุกคน

               เรื่องนี้ก็ทำเอาบรรดาแฟนๆ เคป๊อปทั้งหลายต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เพราะในปัจจุบันนี้ ก็มีคนไทยมากมายที่กำลังมีผลงานอยู่ตอนนี้ ทั้ง แบมแบม, ลิซ่า, ชิกิต้า, ภริตา, เตนล์, ยอร์ช,นัตตี้ และคนอื่น ๆ อีกมากมาย

               และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไอดอลชาวต่างชาติได้ออกมาพูดถึงความไม่เท่าเทียมกัน ด้าน สร อดีตสมาชิกวง CLC ก็ได้เคยออกมาพูดเช่นกันว่า สัญญาของสมาชิกชาวต่างชาติก็จะไม่เหมือนของคนเกาหลี รวมถึงในเรื่องรายได้อีกด้วย