มุมมอง ความคิด ความเป็นมนุษย์ในแบบพี่ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย
ธนญชัย ศรศรีวิชัย หรือ พี่ต่อ ฟีโนมีนา หลายคนคงรู้จักกันดีในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาที่ได้รับการยอมรับอันดับต้นๆของโลก ผลงานฝีมือกำกับของพี่ต่อเราคงคุ้นเคยกันดีในโฆษณาไทยประกันชีวิต และอีกมากมาย และพี่ต่อยังคงเป็นไอดอลของหลายๆคนในแง่มุมมอง รูปแบบการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ยึดติดค่านิยมทางวัตถุ
พี่ต่อเคยแบ่งปันประสบการณ์การตื่นรู้ ในรายการ New Heart New World เมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงแสดงถึงมุมมอง ความคิด และบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของพี่ต่อได้เป็นอย่างดี
พี่ต่อให้ความสำคัญกับการแสวงหาความรู้ การเรียนรู้หลายๆเรื่อง ไม่ปฏิเสธที่จะเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องที่ควรรู้ เรื่องใกล้ตัว กระทั่งภายในตัว “การตั้งคำถาม” จะนำไปสู่การรู้ เช่นพี่ต่อถามตนเองว่า
"ภาพยนตร์คืออะไร ชีวิตคืออะไร มนุษย์คืออะไร ทำงานแล้วได้รางวัล ทำไปเพื่ออะไร ทำไมเราต้องทำงาน ดีที่สุดของงานคืออะไร เงินคืออะไร เงินคือสิ่งที่มีค่า แล้วสิ่งที่มีค่ากว่าเงินคืออะไร พี่อยากมีชีวิตที่ดีที่สุด งั้นเราก็ต้องถามว่าชีวิตที่ดีที่สุดมันเป็นยังไง"
มองว่าพี่ต่อเป็นคนปล่อยวางตัวตน ไม่ยึดมั่นถือมั่นในโลกธรรม คือไม่ยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ พี่ต่อได้รับรางวัลจากการกำกับโฆษณามากมาย แม้เป็นถึงรางวัลสูงสุดด้านโฆษณาของโลก พี่เขาอาจยอมรับในตัวเอง และภูมิใจอยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่เคยขึ้นรับรางวัลด้วยตนเองเลย
พี่ต่อเป็นคนรักสิ่งแวดล้อม และชอบอยู่กับธรรมชาติ พี่ต่อเคยเป็นแรงบันดาลใจในโครงการ “ปลูกเลย” กิจกรรมปลูกป่า จังหวัดน่าน ที่เป็นกระแสเมื่อปี ๒๕๕๙ ทำให้คนตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และพี่ต่อเองทำบ้านไม้ พี่ต่อตั้งคำถามว่าบ้านที่ดีที่สุดควรเป็นยังไง
"บ้านที่ดีก็ควรจะเป็นบ้านที่เรียบร้อย ถ้าเรียบร้อยคนก็ต้องเรียบร้อย เรียบก็ต้องไม่สะสม มันก็ต้องมีน้อยๆ ถ้าจะมีก็ควรจะเป็นเรื่องความรู้ แค่นี้ก็ปลอดพวกขโมยแล้ว เพราะขโมยมันคงไม่เข้ามาขโมยหนังสือหรอก ถึงขโมยหนังสือก็ให้มันไปเถอะ"
จะเห็นว่าพี่ต่อเป็นคนสันโดษ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นสาระจริงๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญในวัตถุสิ่งของนอกกายนัก
พี่ต่อยังนำ “หลักสัทธรรม” มาปรับใช้ในการดำรงชีวิต อันได้แก่ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปริยัติ คือการเรียนรู้จากการอ่าน การเห็น การฟัง จนเกิดใจรักขึ้นมา แล้วลุกขึ้นมาปฏิบัติ (ลงมือทำ) ตัวพี่ต่อเองบอกว่า พี่เองก็มีแรงเสียดทานที่จะลุกขึ้นมาปฏิบัติ แต่พอลุกขึ้นมาปฏิบัติแล้วมันได้ผล พอมันได้ผลก็ติดใจทำบ่อยๆแล้วอยู่กับมัน อยู่กับมันเรียกว่าปฏิเวธ คือใช้ชีวิตเป็นอย่างนี้เลย
พี่ต่อสนใจในเรื่องแก่นสารของสิ่งต่างๆ ฝึกมองสิ่งต่างๆให้ทะลุถึงแก่นสารของมัน
"สมมุติว่าพอเราเห็นฝนตก เห็นน้ำที่ตกลงมาพื้นดิน เราเห็นว่าเป็นฤดูของมัน ประโยชน์สูงสุดของมันคืออะไร มันก็คือให้ต้นไม้ ถ้าเรามองฝนที่ตกลงมาว่ามันทำให้เราเปียก แสดงว่าเรายังมองไม่เห็นฝนแบบถึงแก่นสาร"
เป็นการใช้มุมมองที่มองเห็นถึงส่วนดี เห็นประโยชน์ และคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งต่างๆรอบตัว
พี่ต่อยังบอกอีกว่าเมื่อเราเข้าใจความจริง เราอยู่กับความจริง และเราเข้าใจแก่นสาร มันจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น ไม่สะทกสะท้านหวาดกลัวต่อสิ่งใด สายตาที่เวลาพี่ต่อมองนักธุรกิจจะหมื่นล้าน แสนล้าน ก็มองเห็นเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง มองเขาด้วยสายตาของความเป็นมนุษย์ คุยกับเขาด้วยท่าทางที่อ่อนน้อม เพราะว่าต้องเคารพในความเป็นมนุษย์ของเขา แต่เราจะไม่เกรงกลัวใคร เวลาจะพูดอะไรก็ต้องยืนยันในสิ่งที่มันเป็น “ความจริง” การมองคนของพี่ต่อถือว่าเป็นการมองไปที่ความจริงอันเป็นแก่นแท้ ไม่ได้มองแค่เปลือกนอก
ความเป็นมนุษย์ที่แท้ในความหมายที่ตกผลึกจากประสบการณ์ชีวิตของพี่ต่อ คือมนุษย์ที่มีความผิดพลาด เคยทำความผิดพลาด ยอมรับ แล้วพร้อมที่จะแก้ไข ทุกคนเคยมีความผิดพลาดด้วยกันทั้งสิ้นไม่เว้นแม้แต่พระพุทธเจ้า
พี่ต่อถือคติว่า
"ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ มันต้องทำได้ เดี๋ยวมันก็ทำได้"
ธนญชัย ศรศรีวิชัย
คำพูดนี้คงเป็นกำลังใจ และแรงผลักดันที่ดีให้กับคนที่กำลังคิดจะลงมือทำอะไรสักอย่างในชีวิต หวังว่าหลายคนคงได้มุมมอง แนวคิดที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตได้เป็นอย่างดี และมีมนุษย์แบบพี่ต่อเป็นแรงบันดาลใจ
ภาพประกอบ Instagram : thanonchai_sornsriwichai
New Heart New World ๒ : ธนญชัย ศรศรีวิชัย
อ้างอิงจาก: https://www.blockdit.com/posts/65619cab73f3c247aa372ba9
https://youtu.be/LBYeyA1Z2IE?si=PRcRzqOJCfNxK-Go