วิธีจัดการความเครียด คลายกังวลอย่างไรให้ได้ผลจริง

ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดจากภาวะทางด้านอารมณ์ เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์บางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถหาทางแก้ไขในตอนนั้นได้ หรือหาวิธีจัดการความเครียดนั้นไม่ได้ จนทำให้รู้สึกถึงความกดดัน ไม่สบายใจ กลัว วิตกกังวล รวมถึงมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป มือสั่น มือเย็น เหงื่อไหล ไม่สามารถยืนอยู่กับที่ได้ จะส่งผลทำให้ภาวะความสมดุลของร่างกาย อารมณ์ และจิตใจเสียไปเมื่อเกิดมีความเครียด ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดความเครียดขึ้นมาเราควรที่จะหาวิธีจัดการความเครียด เพื่อไม่ให้อาการ

เหล่านั้นทวีคูณความรุนแรงขึ้น 

ความเครียดเกิดจากสาเหตุใด

สาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด มีอยู่ด้วยกัน 3 อย่าง ดังนี้

1. ปัญหาทางร่างกาย จะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง การเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงเรื้อรัง และอุบัติเหตุที่มีอาการที่รุนแรง หรือไม่รุนแรง ส่งผลทำให้สภาพของจิตใจ และอารมณ์มีการเปลี่ยนแปลงเป็นด้านลบ เมื่อไม่สามารถหาวิธีจัดการความเครียดเหล่านั้นได้ 
2. ปัญหาทางจิตใจ ในบางคนอาจจะเป็นคนที่คิดมาก ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ชอบย้ำคิดย้ำทำอยู่ตลอดเวลา เมื่อต้องพบเจอกับปัญหาที่ไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้นได้ หรือในผู้ป่วยที่มีโรคซึมเศร้าที่มีสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุล มักจะเกิดความเครียดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ควรจัดการความเครียด โดยการพบแพทย์เพื่อหาวิธีจัดการความเครียดที่จะเกิดขึ้น
3. ปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ในยุคปัจจุบันไม่ว่าจะช่วงอายุเท่าไหรก็ตาม มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เช่น การสอบเข้าสถาบัน การทำงาน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดความเครียด และความขัดแย้งกับคนรอบข้าง คนในครอบครัว มีความรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง โดยมีวิธีกำจัดความเครียด เช่นไม่ควรคาดหวังมากจนเกินไป ไม่กดดันตัวเอง และไม่ใช้อารมณ์แก้ไขปัญหาต่าง ๆ

10 วิธีจัดการความเครียด มีอะไรบ้าง?

1.ปรับเปลี่ยนมุมมองในชีวิต

สำหรับวิธีจัดการความเครียด เมื่อเกิดภาวะความเครียดด้วยสาเหตุใดก็ตาม ให้คุณลองมองถึงปัญหาที่กำลังเป็นอยู่ ทำความเข้าใจว่าอะไรที่ทำให้คุณมีความรู้สึกเครียด โดยไม่โทษคนอื่น หรือไม่โทษตัวเอง และพยายามค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนแก้ไขกับปัญหาเหล่านั้น มองถึงปัญหาในแง่ดี ที่ทำให้คุณสามารถได้เรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยกำจัดความเครียดของคุณ และยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมอารมณ์เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อีกครั้ง

2.ฝึกนั่งสมาธิ หรือฝึกหายใจเข้า - หายใจออก

เป็นอีกหนึ่งวิธีจัดการความเครียด ถ้าหากคุณลองสังเกตตัวเองในตอนที่เกิดความเครียด ความรู้สึกในตอนนั้นจะมีความคิดที่อยู่ภายในหัวเต็มไปหมด คิดถึงเรื่องเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้เกิดความสับสนในตัวเอง หาทางการจัดการความเครียดไม่ได้ ซึ่งการฝึกนั่งสมาธิ หรือฝึกหายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออก เป็นวิธีที่จะทำให้สมาธิของคุณได้จดจ่ออยู่กับตัวเอง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด และเสริมสร้างความสงบภายในจิตใจ

3.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ความเครียดที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง ทั้งร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรมทุกครั้งที่เครียด อีกทั้งระดับฮอร์โมนภูมิคุ้มกัน และระบบประสาทจะทำงานแปรปรวน ซึ่งวิธีจัดการความเครียด ในการออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก เตะบอล บาสเกตบอล เป็นต้น หรือออกกำลังกายแบบบริหารตามสัดส่วน เช่น เล่นเวท ยกน้ำหนัก โยคะ และต่อยมวย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน หรือสารแห่งความสุขออกมา เป็นการจัดการอารมณ์และความเครียดที่เกิดขึ้นได้ ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายความเครียด สบายใจ และมีความสุขหลังจากออกกำลังกาย

4.ทำงานอดิเรก

วิธีจัดการความเครียดทำงานอดิเรก เช่น อ่านหนังสือเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความสามารถให้กับตัวเอง หรือจัดของภายในห้องพักจะช่วยให้คุณรู้สบายใจ มีความสุขเมื่อมองเห็นของที่อยู่ภายในห้องอยู่เป็นสัดส่วน เรียบร้อย และทำอาหารเมนูที่ชื่นชอบกินเอง ช่วยให้เราโฟกัสในมีสมาธิทำอาหาร เป็นต้น งานอดิเรกเป็นอีกหนึ่งวิธีการจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นได้

5.กินอาหารที่ช่วยลดความเครียด

วิธีจัดการความเครียดเมื่อเกิดความเครียดอวัยวะภายในร่างกายจะทำงานหนัก เช่นต่อมหมวกไตก็ยิ่งใช้วิตามินในร่างกายมากขึ้นจนอาจเกิดภาวะพร่องวิตามิน ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และท้องผูก ดังนั้นควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น 

• นมและโยเกิร์ต อุดมไปด้วยทริปโตเฟนที่เป็นสารตั้งต้นของการผลิตฮอร์โมน เชโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยทำให้รู้สึกอารมณ์ดี และทำให้จิตใจสงบลงช่วยจัดการกับความเครียด
• ผักขม หรือผักสีเขียว มีโฟเลท วิตามินบี แมกนีเซียม และเกลือแร่ โดยกรดโฟลิกจะมีส่วนช่วยเรื่องทำงานของเส้นประสาท ทำให้ระดับความเครียดลดลง จิตใจสงบมากขึ้น
• ปลาทูน่า แซลมอน และปลาน้ำจืด เป็นสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีโอเมก้า 3 และช่วยกระตุ้นหลั่งสารอะดรีนาลีน ป้องกันโรคหัวใจที่เกี่ยวข้องกับความเครียด 
• ผลไม้รสเปรี้ยว รับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี ส้ม และอีกหลายชนิดเป็นวิธีจัดการความเครียดได้ เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามินได้เอง คุณควรเลือกกินผลไม้ที่มีวิตามินให้กับร่างกายแทน เพื่อให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันมากพอ
• ดาร์กช็อกโกแลต เนื่องจากช็อกโกแลตมีสารFlavonols ที่ช่วยลดความดันโลหิต และมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยการจัดการกับอารมณ์และความเครียดให้ดีขึ้นได้ แต่ควรประทานในปริมาณที่พอเหมาะสม

6.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ

อีกหนึ่งวิธีจัดการความเครียดด้วยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอคือสิ่งสำคัญในการลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย พยายามนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง แต่ควรนอนก่อนเที่ยงคืน สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวิธีรับมือกับความเครียดหากทำเป็นประจำ ร่างกายจะได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ และสุขภาพก็จะดีขึ้นตาม

7.ออกไปเที่ยวตามธรรมชาติ

ซึ่งวิธีจัดการความเครียดออกไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นสิ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจ ความรู้สึก อีกทั้งยังทำให้จิตใจของคุณสงบ สบายใจ ร่างกาย และสมองสามารถรับรู้สึกความพักผ่อน ปลอดโปร่ง เมื่อได้มองเห็นสิ่งใหม่ ๆ 

8.บริหารจัดการเวลา

วิธีจัดการอารมณ์และความเครียด บริหารจัดการเวลาหมายถึงวางแผนชีวิต และใช้เวลาให้มีประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถทำกิจกรรมคลายเครียด ควรจัดสรรเวลาทำงาน หรือเวลาพักผ่อนอย่างชัดเจน ดังนั้นจะสามารถช่วยลดความเครียด และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

9.งดเครื่องแอลกอฮอล์ และสารเสพติดทุกชนิด

สำหรับวิธีจัดการความเครียด งดเครื่องแอลกอฮอล์ และสารเสพติดทุกชนิด เนื่องจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปในตอนที่คุณรู้สึกเครียด แอลกอฮอล์จะเป็นตัวลดการปล่อยฮอร์โมนคอร์ติโซลของร่างกายลง แต่จะยืดเวลาที่รู้สึกเครียดออกไปอีก จึงทำใครหลายคนอยากดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคติดสุราได้ ถึงอย่างนั้นควรงดเครื่องแอลกอฮอล์ และสารเสพติดทุกชนิดซึ่งเป็นวิธีจัดการกับความเครียดได้ดีกว่า

10.พบแพทย์ หรือนักจิตวิทยาเพื่อรักษาความเครียด

ในวิธีจัดการความเครียดนี้ เมื่อคุณได้ทำทุกวิธีที่มีอยู่แล้ว แต่ยังคงมีความเครียดอยู่ หรือความเครียดเพิ่มมากขึ้น จนรบกวนในชีวิตประจำวันของคุณ เริ่มส่งผลทางลบต่อสุขภาพร่างกายอย่างเห็นได้ชัด เช่น นอนไม่หลับติดต่อกันหลายวันจนรู้สึกอ่อนล้า รับประทานอาหารได้ลดน้อยลง และเริ่มมีมุมมองทุกอย่างในแง่ลบจนกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ดังนั้นควรรีบพบแพทย์ หรือนักจิตวิทยา เพื่อรักษาความเครียดที่เกิด เล่าถึงเรื่องราวในชีวิตที่ก่อให้เกิดความเครียดกับพบแพทย์ หรือนักจิตวิทยา จะช่วยหาสาเหตุของความเครียด และแก้ไขปรับมุมมองการใช้ชีวิตให้กับตัวของคุณกลับมาเป็นปกติอย่างมีความสุขอีกครั้ง ซึ่งเป็นวิธีกำจัดความเครียดได้อย่างถูกต้อง

ป้องกันความเครียดในชีวิตประจำวันได้อย่างไร

เมื่อคุณต้องพบเจอกับปัญหาต่าง ๆ เช่น ทำงาน หรือเรื่องเรียน ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้เกิดขึ้นได้ วิธีจัดการความเครียด ป้องกันเมื่อเกิดความเครียดขึ้น ควรที่จะจัดสรรเวลาพักผ่อนให้กับตัวเองเป็นสัดเป็นส่วนอย่างชัดเจน ออกกำลังกาย หรือพูดคุยระบายความในใจให้คนรอบข้างรับฟัง เพื่อระบายสิ่งที่เก็บภายในใจออกมา ซึ่งจะช่วยป้องกันกำจัดความเครียดสะสมที่เกิดขึ้นได้

สรุปวิธีจัดการความเครียด เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

ความเครียดเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าคุณจะสามารถหาวิธีจัดการความเครียดได้อย่างไร ซึ่งการจัดการความเครียดของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป ถ้าหากมีเครียดสะสมเป็นระยะเวลานานจะส่งผลทางลบต่อร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพฤติกรรมของคุณอย่างมาก เสี่ยงก่อเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาอีกหลายโรค ถึงอย่างนั้นหากคุณไม่สามารถจัดการความเครียดได้ด้วยตัวเอง ควรพบแพทย์ หรือนักจิตวิทยาเพื่อรักษา และควรอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ