วัดถ้ำเสือจังหวัดกระบี่ จุดเช็คอินที่สายบุญห้ามพลาด
วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ จุดเช็คอินที่สายบุญห้ามพลาดเพราะนอกจากมาทำบุญแล้ว ที่นี่ยังมี จุดชมวิวซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ประมาณ 600 เมตร โดยที่เราต้องเดินขึ้นบันไดถึง 1,260 ขั้น จึงสามารถมองเห็น ทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้รอบทิศแบบ 360 องศา ทั้งยังเป็นที่ ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทจำลอง พระธาตุเจดีย์ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ อีกด้วย
ที่นี่ไม่มีค่าเข้าชม แต่สามารถร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาเพราะวัดกำลังก่อสร้างเพิ่มเติมทั้งด้านล่างและบนยอดเขาค่ะ
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่มาไม่ไกลนัก ราวๆ 5-6 กิโลเมตรเป็นวัดที่มีความสวยและมีความสงบเงียบ ตัววัดตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีภูเขาและต้นไม้โอบล้อมโดยรอบ ชื่อของวัดถ้ำเสือนั้น สันนิษฐานว่า สมัยที่บริเวณที่ตั้งวัดถ้ำเสื้อยังยังคงเป็นป่ารกอยู่นั้น ชาวบ้านได้พบเห็นเสือโคร่งเดินเข้าออกแถบถ้ำเสือนี้อยู่เสมอ จึงได้เรียกกันว่า ถ้ำเสือ โดยภายในถ้ำยังมีหินที่มีรูปร่างคล้ายๆ กับอุ้งเท้าเสืออยู่ด้วย
ต่อมาพระอาจารย์จำเนียร สีลเสฎโฐ ได้มาบุกเบิกได้ทำเป็นสถานที่สำหรับวิปัสสนากรรมฐาน จนถึงปัจจุบันวัดยังคงเป็นสถานที่ประปฏิบัติธรรมสำหรับบพุทธศาสนิกชนและจะพบพระภิกษุและมาชีอยู่หลายท่านภายในวัด และมีพระภิกษุสงฆ์คอยผูกสายสิญจน์และรดน้ำมนต์ให้ญาติโยมที่มาเยี่ยมเยียน ภายในวัดยังมีสิ่งศักสิทธิ์ให้ได้สักการะอีกหลายจุด เดินไปด้านหลังจะเจอทางขึ้นไปจุดที่มีรอยเท้าเสือแต่จะอยู่หลังลูกกรงนะคะ ให้ได้ทดสอบความแม่นยำในการโยนเหรียญเสี่ยงทายกัน
เดินออกจากถ้ำเสือ เดินต่อมาข้างในตัววัดจะเจอตำหนักพระโพธิสัตว์กวนอิม สูง 5เมตร ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ให้ได้มาแวะสักการะขอพรกัน เนื่องจากเป็นทางที่เราจะเดินขึ้นเขาจะมีน้องลิงลงมาเดินเล่นให้เราได้เห็นความน่ารักกัน และจะมีร้านค้าจำหน่ายอาหารและน้ำรวมถึงห้องน้ำห้องทางวัดให้บริการ เราแนะนำให้ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยและอย่าลืมพกน้ำดื่มขึ้นไปด้วยนะคะ ยิ่งใครไม่เคยเดินทางไกลแนะนำให้วอมทร่างกายก่อนขึ้น เหนื่อยแน่ๆ มากน้อยตามความแข็งแรงของแต่ผู้เขียนพักทุก 200 ขั้นค่ะ 55555
จากนั้นเตรียมเข้าห้องน้ำให้พร้อมและพกน้ำดื่มก่อนเดินทางขึ้นเขากันค่ะ ทางเดินไม่ลำบากมากแค่ไกล จะมีสูงชันบ้างบางช่วง ไม่เยอะค่ะ เดินชิวๆไปเรื่อยๆก็โอค่ะ.....โอโห..เหนื่อยจัง
ผู้หญิงไม่ควรขึ้นคนเดียวยามเย็นเพราะนักท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมาก ระหว่างทางเป็นป่าธรรมชาติเดินคนเดียวตอนพระอาทิตย์ตกค่อนข้างน่ากลัวค่ะ ขนาดเราเดินกับแฟนช่วงบ่ายลงมาก็เย็นยังเงียบน่ากลัวตามแบบของป่าที่สมบูรณ์
เดินไปได้ไม่นาน ก็ต้องพักกันหน่อย จริงๆพักเยอะเลยค่ะ สัก 500 ขั้นนี่เริ่มคิดแล้วไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่เพื่อประสบการณ์ชีวิต สักครั้ง สู้ๆ ค่ะ เพื่อนๆที่มีแพลนจะไปก็เตรียมกำลังกายกำลังใจมาเลยค่ะ คุ้มเหนื่อยแน่นอน
ระหว่างทางจะมีเจดีย์สีทองถูกสร้างไว้ตลอดทาง บรรยากาศข้างทางสงบ ร่มรื่น มีพืชพันธุ์ไม้ให้ดูเรื่อยๆตามจุดพักเหนื่อยก็จะเริ่มเห็นวิวมุมสูงขึ้นและสวยขึ้นตามลำดับความสูง เป็นกำลังให้เราสู้ต่อค่ะ
ความสวยงามระหว่างทางก็เพลินดีนะคะ ตามเสาที่ราวบันไดจะมีบอกจำนวนขั้นที่เราเดินมาไว้ตลอดทาง ระหว่างทางจะมีห้องน้ำให้บริการอีกครั้งแต่เราไม่แน่ใจว่าประมาณขั้นที่เท่าไหร่นะคะ
ใกล้ละ ใกล้ละ ใกล้หมดลมละ
ใกล้ถึงจะเจอศาลของปู่ฤาษี มีลานให้นั่งพัก และมักมีนักท่องเที่ยวค่อยให้กำลังใจกันและกันตลอดการเดินทางขึ้นเขาเลย เราถือโอกาสพักเหนื่อยและชมวิวไปในตัวเพื่อรอขาหายสั่นก่อนเดินทางต่อ...อีกไม่ไกลแล้วค่ะ
และแล้วเราก็พิชิต 1,260 ขั้นได้สำเร็จ ด้านบนจะมีน้ำกรองให้เราได้กรอกดื่มฟรีค่ะมีแม่ชี คอยดูแลและทำความสะอาดสถานที่อยู่ด้านบน นั่งพักให้หายเหนื่อยและไปชมรางวัลของความพยายามของเรากันค่ะ
และนี่คือรางวัลยามเย็นของเรา หายเหนื่อยเลยค่ะ วิวสวยมาก ขึ้นมาแล้วไม่อยากลงเลย มองเห็นกระบี่ได้แบบ 360 องศา ความสวยงามของยอดเขาที่สลับซ้อนกันตัดกับสีของท้องฟ้า และตอนเราไปเป็นช่วงเย็น คนน้อย บรรยากาศสงบมาก ตีระฆังด้านบนนี่เสียงใสกังวาน สบายหู สบายตา สบายใจไปหมด เหมือนหลุดมาอีกโลกเหมาะกับคนที่อยากหนีความวุ่นวายมาพักกาย พักใจมากค่ะ
และถ้าใครเป็นคนตื่นเช้าจะมีทะเลหมอกแบบรอบทิศตัดยอดเขาหินปูนที่ซ้อนสลับดูสวยงามแปลกตา ช่วงที่มักจะเกิด คือ เดือนกันยายน-มกราคม แต่ถึงแม้ไม่ใช่ช่วงเวลาดังกล่าวทิวทัศน์ของยอดเข้าแก้วก็ยังคงงดงามจับตาไปชวนหลงไหลเช่นกัน
อย่าชมวิวเพลินจนลืมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านบนกันนะคะ มีทั้งรอยพระพุทธบาทจำลอง พระธาตุเจดีย์ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ พระพิฆเนศ พระพุทธโสธรและพระประจำวันเกิดอีกมากมายเลย
ก่อนขึ้นเขาอย่าลืมพกน้ำดื่มติดตัวและระวังความน่ารักผสมของซนของเหล่าฝูงลิงตามเส้นทางขึ้นและลงด้วย เราลงมาตอนเย็น เจอแก็งลิงเจ้าถิ่นดักทางด้วย นักท่องเที่ยวสองคู่ไม่กล้าผ่าน แฟนเรานำเดินไปช้าๆ เก็บของไว้กับตัวให้แน่น ระวังอย่าให้น้องลิงตกใจไม่นานก็ผ่านได้
นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องอาศัยความความอดทนและความพยายามกว่าจะพบกับความสวยงามบนยอดเขาแก้วแห่งนี้ แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับการเยี่ยมชมแน่นอนค่ะ