"จับขบวนการนมผงทิพย์" พบผู้เสียหายเพียบ สูญรวมกว่า 7 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ แถลงข่าวจับกุมขบวนการหลอกลวงขายนมผงทิพย์ โดยใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อ "เอนฟา Enfa smart club" ซึ่งตั้งชื่อให้คล้ายกับเพจจริงที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก
คนร้ายจะสร้างเพจขึ้นมาโดยใช้ชื่อเพจว่า "เอนฟา Enfa smart club" ซึ่งตั้งใจตั้งชื่อให้คล้ายกับเพจจริง ซึ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยัง copy ภาพจากเพจมาทั้งหมดจนเหมือนกันเกือบ 100% จากนั้นจะเสนอขายนมผงยี่ห้อดังและมีลิงก์ให้กดเข้าไปดูสินค้าต่างๆ พร้อมราคา และจะหลอกขายสินค้าประเภทต่างๆ นอกจากนี้ยังแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มซื้อขายสินค้าของใช้เด็กแรกเกิดทารกราคาถูก และโพสต์ขายสินค้าในราคาถูกกว่าท้องตลาดจนมีผู้เสียหายหลงเชื่อจำนวนมาก แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินค่าสินค้าให้พร้อมกับหลักฐานการโอนเงินคนร้ายก็จะปิดกั้นช่องทางการติดต่อดวงไม่ส่งสินค้าให้กลายเป็นสั่งของทิพย์
ผู้เสียหายส่วนใหญ่พบว่าเป็นกลุ่มแม่ลูกอ่อนที่ต้องการซื้อนมผงและของเกี่ยวกับเด็กอ่อนในราคาถูกกว่าท้องตลาด
จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความออนไลน์มากถึง 1,249 เรื่อง มีความเชื่อมโยงไปถึงผู้เสียหายทั่วประเทศมูลค่าความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท แต่พบเงินหมุนเวียนในเครือข่ายนี้รวมมากกว่า 70 ล้านบาท โดยมีการกระทำความผิดฉ้อโกงในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย อาทิ หลอกขายที่นอนยางพารา iPad และ notebook ทั้งยังพบความเชื่อมโยงกับแก๊ง call center ในประเทศเพื่อนบ้าน
ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพบผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด 26 รายจึงขอศาลออกหมายจับจนสามารถไปจับกุมผู้ต้องหาได้ 12 คน โดยเป็นกลุ่มบัญชีม้าและคนกดเงิน เป็นทั้งคนไทยและชาวประเทศเมียนมา ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวและขอหมายจับเพิ่มเติม
หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า เข้าไปเจอเพจดังกล่าวจากในโลกออนไลน์ซึ่งมีการทำเพจที่เหมือนของจริงมาก จึงหลงเชื่อและสั่งซื้อของกับเพจดังกล่าวก่อนจะโอนเงินไปให้ ซึ่งคนร้ายยังเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการให้เลขพัสดุ เมื่อติดต่อกลับไปก็พบว่าถูกตัดการติดต่อ
ประเด็นที่น่าสนใจ
- แก๊งหลอกลวงใช้เพจเฟซบุ๊กปลอมตั้งชื่อให้คล้ายกับเพจจริงที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- แก๊งหลอกลวงเสนอขายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาดเพื่อดึงดูดผู้เสียหาย
- แก๊งหลอกลวงใช้กลอุบายต่างๆ เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าสินค้า
- มูลค่าความเสียหายจากการกระทำความผิดของแก๊งนี้สูงถึง 70 ล้านบาท
บทเรียน
- ตรวจสอบข้อมูลของร้านค้าหรือผู้ขายอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์
- อย่าหลงเชื่อโปรโมชั่นหรือข้อเสนอที่เกินจริง
- ระมัดระวังการโอนเงินค่าสินค้าหรือบริการให้กับบุคคลที่ไม่รู้จักหรือมีประวัติการหลอกลวง