เกาะกระแสนางงาม พระแม่ธรณีเป็นใคร รู้ก่อนไปเชียร์แอนโทเนีย
9 โมงเช้าวันนี้แล้วสำหรับการประกวด Miss Universe รอบชุดประจำชาติที่เหล่าแฟน ๆ นางงามต่างตั้งตารอกันมาหลายวัน โดยในปีนี้ทางกองประกวดก็ได้เลือกชุดชุดเทวสตรีศรีอโยธยา
สร้างสรรค์ขึ้นโดยคุณกมลรส ทูลภิรมย์ ห้องเสื้อทรงเสน่ห์ผ้าลายอย่าง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทวรูปสัมฤทธิ์พระแม่ธรณีบีบมวยผม ในช่วงยุคสมัยอยุธยา ของอาณาจักรสยามที่มีอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 14 ถึง 18
"พระแม่ธรณี" เทวีแห่งโลกหรือพระแม่ธรณี ในประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในไทย ถูกนับถือเป็นอย่างสูงและได้รับการบูชาตลอดประวัติศาสตร์ชาติไทย "พระแม่ธรณี" มักถูกสร้างรูปแบบให้เป็นเทวรูปที่สวยงามมีผมยาวและมีน้ำศักดิ์สิทธ์เก็บไว้ในผม ซึ่งน้ำที่ไหลออกมานั้นในที่สุดจะบำรุงโลกมนุษย์ด้วยน้ำที่มั่นคง
ตามที่ "ธรณี" หมายถึง โลกหรือดิน นั้นกล่าวถึงความเชื่อว่าเธอสถิตย์อยู่ในดินที่เธอทรงประทานความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ซึ่งเธอเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติต่อมนุษย์ และแสดงถึงการปกป้องผืนแผ่นดินและความรุ่งเรือง ที่คนไทยจะให้ความเคารพบูชาเสมอมา
การแต่งกายและเครื่องประดับถูกสร้างให้เหมือนกับรูปปั้นจากอาณาจักรอยุธยา จิวเวลรีรวมกับการใช้เส้นลวดสอดดิ้นถักทอด้วยมือ และใช้หินสีและอัญมณีที่มีค่าเพื่อสอดคล้องกับข้อมูลทางธรณีวิทยา
และผ้าลายอย่างซึ่งเป็นผ้าที่มีบันทึกการใช้สวมใส่จริงมาตั้งแต่สมัยราชสำนักอยุธยาแต่กว่าจะมาเป็นพระแม่ธรณีในลุคของคุณแอนโทเนียนั้น พระแม่ธรณีท่านเป็นใคร เรามาทำความรู้จักกันดีกว่า
ธรณี धरती, ปฤธวี पृथ्वी, ภูมิ भूमि,
วสุธรา वसुंधरा เป็นเทวสตรีในพระเวทของฮินดู มีลักษณะเป็นสาวงาม มี 1 พักตร์ 2 กร กรหนึ่งถือตรีศูล อีกกรหนึ่งทำท่าประทานพร มีรูปโฉมงด งามสมเทพสตรีผู้เป็นมารดาแห่งโลก มีสะโพกที่พึ่งผาย เอวคอดเล็ก และต้นขากลมกลึง ส่วนน่องนั้นก็เรียวงาม ลำแขนนั้นกลมกลึง แต่ละนิ้วเรียวงามดั่งเทพปั้นแต่ง พระพักตร์นั้นเป็นรูปไข่ ดวงเนตรเรียวยาวอ่อนหวาน มีสีน้ำเงินเข้มราวกับกลีบดอกบัวหลวง พระเกศายาวสลวย พระอุระหรือทรวงอกกลมกลึงงดงามดั่งดอกบัว ส่วนพระฉวีหรือผิวนั้นเป็นสีเข้ม กล่าวได้ว่ารูปโฉมนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งสตรีเพศ เป็นที่กล่าวขานยกย่องว่างามแท้ในหมู่บรรดาเหล่าทวยเทพเทวะทั้งหลาย
ในคัมภีร์ของฮินดูนั้นไม่ได้มีบันทึกว่าพระแม่ธรณีนั้นกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร เพียงแต่บันทึกไว้ว่าพระแม่ธรณีนั้นเป็น องค์เทพเทวีที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง และบันทึกว่าก่อนที่จะมาเป็นมารดาแห่งมนุษย์โลก พระแม่ธรณีเดิมเป็นชายองค์หนึ่งในสี่องค์ของพระวิษณุมาก่อน ซึ่งชนวนเหตุที่ต้องแยกจากองค์พระวิษณุนั้นมาจากเทวีทั้งสี่นั้นทะเลาะเบาะแว้งระหองระแหงกันตลอดเวลาจนทำให้พระวิษณุรำคาญจึงจับแยกส่งให้ไปเป็นชายาของเทพองค์อื่น แต่พระแม่ธรณีนั้นยังไม่ทันจะถูกยกไปให้ใคร ด้วยความน้อยใจจึงหนีจากไวกูณฐ์โลกลงมาแทรกตัวในแผ่นดินของมนุษยโลก ทำหน้าที่คอยปกปักรักษาค้ำจุนแผ่นดินและโลก ให้ก่อเกิดชีวิตของคน สัตว์ และพืชพันธุ์ธัญญาหารต่าง ๆ
ซึ่งเทวะตำนานนี้เทียบเท่าได้กับตำนาน ภูมิเทวี หรือ วสุธรา ชายาของพระวราหวตาร อวตารปางที่ 3 ของพระวิษณุ จัดเป็นพระชายาในลำดับที่สองรองจากพระลักษมี लक्ष्मी และพระนิลาเทวี नीला देवी ด้วยเหตุที่พระวราหะอันเป็นอวตารของพระวิษณุได้ช่วยพระนางจากการคุกคามของหิรัณยากษะสูร พระองค์จึงได้เสกสมรสกับพระนางและเป็นหนึ่งในอนุเทพชายา พระนางยังเป็นมารดรของ นรกาสูร, พระมงคลเทพบุตร, และพระนางสีดาตามรามายณะปุรณะ
แต่บางตำนานนั้นก็กล่าวว่าแต่เดิมพระแม่ธรณีทรงเป็นชายาของพระวรุณเทพหรือเทพแห่งสายฝน ซึ่งตามตำนานนี้ก็ได้รับการยอมรับแพร่หลายมากกว่าตำนานอื่น
เทวะตำนานของพระแม่ธรณีนั้นมีปรากฎอยู่ในทั้งในเทวะตำนาฮินดูและปรากฎอยู่ในเรื่องราวพุทธประวัติอีกด้วย
ในคัมภีร์วิษณุปุรณะ กล่าวว่าพระองค์คือภูมิเทวี เป็นพระชายาของพระวราหวตารอย่างที่กล่าวไปในข้างต้น
ในคัมภีร์รามายณะปุรณะกล่าวว่าเมื่อครั้งเทวีลักษมีอวตารตามเสด็จพระวิษณุลงมายังโลกมนุษย์เพื่อมาเป็นนางสีดา ต้นเหตุแห่งการปราบราวณะ
พระองค์ได้จุติยังพระธรณี จนท้าวชนก เจ้ากรุงมิถิลามาทำพิธีแรกนาขวัญ แล้วพบทารกเพศหญิงอยู่ในรอยไถนั้นจึงนำมาชุบเลี้ยงเป็นพระธิดา ตั้งชื่อในว่า สีดา หรือ สิตา सीता
และหลังจากจบสึกลงกาพระรามเกิดความหึงหวงนางสีดา เป็นเหตุให้ทั้งสองผิดใจกัน นางสีดาได้ไปอาศัยอยู่กับฤๅษีวัชมฤค เมื่อพระรามทราบจึงไปตามง้อขอคืนดีแต่นางสีดาไม่ยอมคืนดีด้วย
พระนางจึงขอกลับคืนสู่อุทรของพระแม่ธรณีผู้ให้กำเนิด แล้วพระแม่ธรณีก็สูบพระนางกลับลงไป
ส่วนในพุทธประวัตินั้น เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่เจ้าชายสิทธัตถะจะบรรลุนิพพานเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเย็นวันนั้นหลังจากที่พระองค์ได้ทรงประทับนั่ง ณ บัลลังก์ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ และตั้งจิตอธิษฐานที่จะปฏิบัติธรรมให้เกิดความรู้แจ้งเห็นจริงให้สิ้นกิเลสภายในคืนนั้น พวกเทพดาและพรหมทุกชั้นทุกหมู่เหล่าก็มาประชุมกันแวดล้อมเพื่อจะปกป้องและทำสักการบูชาพระพุทธเจ้า ในเวลาเดียวกันนั้นเอง พญาสวัตตีมาร ที่ได้ติดตามหาโอกาสขัดขวางพระองค์มาตั้งแต่เสด็จออกผนวช เกรงว่าพระองค์จะพ้นจากอำนาจมารของตน พญามารได้เนรมิตแขนข้างละพันถืออาวุธครบทุกมือ ทรงช้างคีรีเมขละนำทัพมาโจมตี พร้อมพรรคพวกเสนามารอาวุธครบมือยกพลมายังใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ด้วยหมายจะขู่ให้พระโพธิสัตว์ตกพระทัยกลัวและลุกหนีไปเสียจากโพธิบัลลังก์ที่ประทับ
ขณะนั้นเทพยดาและพรหมที่มาประชุมแวดล้อมอยู่ต่างตกใจกลัวหนีไปคนละทิศคนละทางเหลือไว้แต่พระมหาบุรุษเพียงผู้เดียว ทรงระลึกบารมี 10 ทัศ ที่ทรงบำเพ็ญมาทุกชาติเป็นหลายแสนกัปป์และประทับนั่งสงบนิ่งมิได้หวั่นไหว พญามารได้สั่งให้เสนามารเข้ารุกไล่ซัดสาดสรรพอาวุธเข้าใส่ อาวุธเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นดอกไม้ เครื่องสักการบูชาไปทั้งหมด พญามารเห็นดังนั้นก็เข้าไปขู่ใช้วาจาสำทับให้พระมหาบุรุษลุกไป โดยอ้างว่าบัลลังก์นั้นเป็นของตน ซึ่งได้ยกเสนามารทั้งหลายเป็นพยานยืนยัน พระมหาบุรุษก็ยืนยันว่าบัลลังก์นั้นเป็นของพระองค์
ทรงได้อ้างนางธรณีเป็นพยาน โดยทรงชี้พระหัตถ์ลงพื้นพระแม่ธรณีจึงปรากฏกายขึ้นมา ทำการสักการะพระมหาสัตว์ แล้วคลี่มวยผมแล้วบีบน้ำออกจากมวยผมจนกลายเป็นท้องมหาสมุทรท่วมทัพพญามารและเสนาจนพ่ายแพ้ไป
จากตำนานในพุทธประวัตินี้จึงเกิดเป็นพระแม่ธรณีบีบมวยผมให้เราให้เห็นกันโดยทั่วไป
และนี่คือความภาคภูมิใจของชาติ สัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองทั้งในด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ เทวสตรีศรีอโยธยา เทพธิดาแห่งอยุธยา
Designer: @kamolrose
Makeup: @makeup_mario
Hair: @bank.soul.hair
Style director : @essboriwat
Video/Photography: @supasit.k @starthouse.official
Digital Art: @aomsin.jtt
SPECIAL THANKS
@puisankosik
@pookoop.kraiwat
@lachchanon_lastcost
@phuba_phubadin
@yoryiings
#HelloUniverse
#HelloUniverseChallenge
#72ndMissUniverse
#MissUniverseThailand2023
#TPNGLOBAL #หลานย่าโมGoจักรวาล
#MissUniverse✨ 👑