ฉีดฟิลเลอร์คางให้โครงหน้าของคุณดูมีความเรียลงาม
มีคนกล่าวเอาไว้ว่าเป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย เป็นที่แน่นอนสำหรับผู้หญิงทุกท่านกันอยู่แล้วว่าใคร ๆ ก็อยากมีโครงหน้าที่สวย ๆ กันทั้งนั้น แล้วการฉีดฟิลเลอร์คางก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้หญิงที่ต้องการปรับรูปโครงหน้า คาง อยากทำให้รูปโครงหน้าเรียวดูสวยงามได้รูป ช่วยแก้ปัญหาที่ผู้หญิงบางท่านอาจมีรูปโครงหน้าคางตัด คางเบี้ยว หรือคางไม่เท่ากัน ทำให้ไม่มั่นใจในรูปลักษณ์โครงหน้าของตนเอง การฉีดฟิลเลอร์คางจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ช่วยสร้างความมั่นใจในความสวยความงามของคุณผู้หญิงกลับมาอีกครั้ง
การฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์คางนั้น คือการฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่า Hyaluronic Acid ไปยังที่บริเวณคาง เพื่อแก้ปัญหารูปคางตัด คางเบี้ยว ทำให้ปรับโครงหน้าให้ดูเรียวสวยขึ้น หลังการฉีดฟิลเลอร์คางแล้วจะเห็นผลเร็วกว่าการผ่าตัด อาการบวมช้ำจะน้อยกว่า การฉีดฟิลเลอร์คางนี้เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อเลียนแบบตามธรรมชาติร่างกายของเรา สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติไม่ทิ้งสิ่งตกค้างทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงเป็นสารที่รองรับโดย อย. ทำให้มีความนิยมกันมากในขณะนี้
หลักการทำงานของการฉีดฟิลเลอร์คาง
หลักการฉีดฟิลเลอร์คาง คือจะฉีดสารเข้าไปที่บริเวณคางโดยที่สามารถปรับรูปทรงให้มีความเรียวหรือปรับความยาวได้ตามที่เราต้องการ โดยสารที่เลือกใช้ในการฉีดฟิลเลอร์กันนั้นจะใช้สาร Hyaluronic Acid ที่มีคุณสมบัติเป็นตัวช่วยกักเก็บของเหลวใต้ชั้นผิว ทำให้เติมเต็มส่วยช่องว่างของเซลล์ผิวหนัง เพื่อปรับรูปโครงใบหน้าให้ดูเรียว ดูสมส่วนมากขึ้น สารชนิดนี้สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ที่คางช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์คางนั้น จะนิยมฉีดกันเพื่อปรับรูปลักษณ์โครงหน้า ทำให้โครงหน้าดูเข้ารูปทรง ดูมีความกระชับ มีความเรียวที่สวยงาม หรือจะฉีดเพื่อแก้ปัญหาที่คางสั้น ดูหน้ากลม จึงต้องฉีดเพื่อให้หน้าดูเรียวสวยงามมากขึ้น หรือจะแก้ปัญหาที่คางไม่เท่ากัน จึงฉีดเพื่อให้คางมีสัดส่วนที่เหมาะสม
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการฉีดเพื่อให้เพิ่มความพึงพอใจแก่ตัวคุณเอง เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในความสวยงามของตนเอง ทำให้ไปไหนมาไหนได้อย่างมั่นใจ
อ่านบทความ : ฟิลเลอร์ใต้ตา ได้ที่นี่ !
ใครควรฉีดฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คางนั้น เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการ การผ่าตัดเสริมคาง หรือไม่อยากมีแผล และไม่สะดวกในการใช้เวลาพักฟื้น ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นไม่แตกต่างจากการผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์นั้นจึงเหมาะกับ
- ผู้ที่มีรูปคางสั้น คางตัด ทำให้ดูไม่มีมิติ
- ผู้ที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้น อยากเห็นผลเร็วๆ
- ผู้ที่ไม่อยากมีแผล หรืออาการบาดเจ็บ
- ผู้ที่ต้องการอยากให้รูปหน้าดูมีความเรียลสมส่วนมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
- คุณจะต้องศึกษาข้อมูลการฉีดฟิลเลอร์คางก่อน และหาข้อมูลของคลินิกโดยที่แพทย์ผู้ทำควรมีประสบการณ์
- ศึกษาหาข้อมูลของแบรนด์ฟิลเลอร์แต่ละตัวว่าตรงความต้องการของคุณมากน้อยเพียงใดมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
- ก่อนเข้ารับบริการการฉีดฟิลเลอร์ใด ๆ ให้คุณขอทำการตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่ได้มานั้นเป็นของแท้หรือไม่ เพื่อเป็นความปลอดภัยของตัวคุณเอง
- งดรับประทานอาหารเสริม วิตามินอี หรือยาแอสไพริน ก่อนเข้ารับบริการประมาณ 3-7 วัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนที่จะเข้ารับการบริการประมาณ 1 วัน หรือ 24 ชั่วโมง
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
ก่อนที่จะเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์คางนั้น ให้ทำการปรึกษาเพื่อพูดคุยถึงความต้องการของคุณก่อนว่าจะให้รูปโครงหน้า คางเป็นอย่างไร ต้องการให้ดูมีความสวยงามมากขึ้น หรือต้องการให้ปรับแก้ให้โครงหน้าให้มีความสมส่วนมากขึ้น ดูมีความเรียลยาวอย่างธรรมชาติ พร้อมให้แพทย์ประเมินว่าจะทำอย่างไร หลังจากทำการปรึกษาแล้ว แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์ไปยังที่คางบริเวณที่คุณต้องการ เมื่อทำการฉีดฟิลเลอร์แล้วอาการช้ำจะน้อยกว่าการผ่าตัด ทำให้ไม่ต้องรอเวลาพักฟื้น คุณสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้เลย
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
- ให้ประคบด้วยความเย็นทุกชั่วโมง ครั้งละ 10 นาที
- หลังฉีดฟิลเลอร์คางให้งดสัมผัสตรงบริเวณที่คาง เพราะอาจทำให้คุณเกิดความระคายเคืองได้หรืออาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับความร้อน เช่นการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
- ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- งดออกกำลังกายอย่างหนัก
ฉีดฟิลเลอร์ที่คางใช้กี่ CC
โดยตามปกติที่ผู้เข้ารับบริการจะมีการฉีดฟิลเลอร์คางโดยใช้กันประมาณ 1 CC อาจจะมีปริมาณแตกต่างกันไปตามโครงหน้าของแต่ละคนทำให้ใช้ CC ที่แตกต่างกัน เพื่อตามความต้องการของตนเอง อาจจะใช้ถึง 2 CC เพื่อต้องการปรับให้โครงหน้าคางมีความยาวมากขึ้น สำหรับคนที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด หรือคางบุ๋ม แต่หากใช้ในปริมาณที่มากไป หรือไม่เหมาะสมอาจทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้
วิธีการเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
ในการเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์คางนั้น จะต้องตรวจสอบให้รอบคอบ เช็คมาตรฐานของสถานที่จะเข้ารับบริการโดยสามารถตรวจสอบได้ดังนี้
- การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ต้องมีความน่าเชื่อถือ ดูรีวิวของลูกค้าที่เข้ามาใช้งานนั้นมีบริการที่ดีจริงหรือไม่ และผ่านรองรับมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความปลอดภัยของคุณ
- การเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการทำหัตถการด้านนี้โดยเฉพาะ จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาให้ตรงกับความต้องการของคุณ
- การเลือกผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพ และเป็นของแท้เท่านั้น หากสารที่ฉีดเข้าไปนั้นไม่ได้คุณภาพ อาจส่งผลเสียให้กับร่างกาย ทำให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ตามมา เช่นฟิลเลอร์แข็ง ฉีดไปแล้วคางผิดรูป
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
1. ฉีดฟิลเลอร์คางอันตรายไหม?
สารที่ใช้ในการฉีดนั้นเป็นสารที่เลียนแบบธรรมชาติตัวเดียวกับที่ร่างกายมีจึงมีความปลอดภัย สารฟิลเลอร์นั้นสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้าง ไม่เป็นก้อน และต้องเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือ และผลิตภัณฑ์ที่ดี ความอันตรายเกิดขึ้นได้น้อยมาก
2. ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมคาง ให้ผลลัพธ์เหมือนกันหรือเปล่า?
การฉีดฟิลเลอร์คาง
- เสริมคางด้วยฟิลเลอร์
- ไม่มีการผ่าตัด ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
- ปรับรูปหน้าคางดูมีความเรียลธรรมชาติ
- เห็นผลทันทีหลังทำ
- อยู่ได้ 1 - 2 ปี
- เมื่อฟิลเลอร์หมดสภาพสามารถเติมฟิลเลอร์คางใหม่ได้
การผ่าตัดเสริมคาง
- เสริมคางด้วยซิลิโคน
- ผ่าตัดมีแผล ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
- ปรับรูปหน้าคางดูไม่ค่อยธรรมชาติ
- เห็นผลหลังทำ 1 - 3 เดือน
- อยู่ได้นาน
- เมื่อต้องการแก้ไข ต้องทำการผ่าตัดเสริมคางใหม่
3. ฉีดฟิลเลอร์คางราคาเท่าไร?
ราคาของการฉีดฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไป ราคาจะขึ้นอยู่กับแบรนด์ของฟิลเลอร์ที่คุณเลือก ต้องเลือกดูราคาที่เหมาะสม ไม่แพงเกินไป และไม่ถูกจนเกินไป เพราะอาจทำให้ถูกหลอกจากการขายฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพ
สรุป
อาจจะเรียกได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์คางนั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญเลยของคุณผู้หญิงที่อยากจะเสริมสวย หรือแก้ไขปัญหาเรื่องรูปหน้าคางที่อาจส่งผลในการใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้น หรือไม่อยากเข้ารับการผ่าตัด ไม่อยากมีแผล การฉีดฟิลเลอร์นั้นจึงค่อนข้างนิยมกันในขณะนี้ เพราะด้วยการเสริมคางที่ดูมีความเรียลเป็นธรรมชาติออกมาดูสวยงาม อันตรายที่น้อยกว่าการเข้ารับการผ่าตัด อย่างไรก็ตามการเลือกคลินิก แพทย์ และสารฟิลเลอร์จากแบรนด์ที่มีมาตรฐานก็สำคัญเช่นกัน ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิก แพทย์ และแบรนด์ฟิลเลอร์ด้วย เพราะอาจทำให้เกิดความอันตรายต่อคุณได้