ใต้ตาดูดีขึ้นได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย เห็นผลลัพธ์ที่ไวและตรงจุดมากที่สุด เลยเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนสนใจที่จะทำเพราะการเติมฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจะทำให้ใบหน้าดูเด็กลง แต่สำหรับบางคนก็ยังมีความกังวลอยู่บ้างอาจจะเป็นเพราะเคยเจอปัญหาที่เกิดจากการไปเติมฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพมาเลยทำให้หมดความั่นใจของใบหน้าไปเลย
โดยวันนี้ทางเราจะมาแนะนำคลีนิกที่ดีมีคุณภาพและอธิบายเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ว่ามีข้อดีข้อจำกัดอย่างไร และการฉีดฟิลเลอร์นั้นเหมาะสมกับใครช่วยแก้ปัญหาในเรื่องอะไรบ้างเชิญเลื่อนลงมาศึกษาอ่านดูได้เลยค่ะ
ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Under eye filler) คือ การเติมสารกลุ่มที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการเลียนแบบสารธรรมชาติที่อยู่ในร่างกายหรือที่เรียกกันว่า สารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเรียกสั้นๆว่า HA โดยทำการฉีดสารนี้เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาในเรื่องของริ้วรอย รอบดวงตาหมองคล้ำ ปัญหาตาลึกโบ๋ ที่ทำให้หน้าดูโทรมลง เมื่อได้ทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเพื่อเป็นการฟื้นฟูบริเวณรอบดวงตาที่จะทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ สดชื่น และดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้วคนส่วนใหญ่ชื่นชอบในเรื่องของการเติมร่องแก้มเพราะจะทำให้ดูเด็กลง แต่การเติมร่องแก้มอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำให้หน้าดูละมุนได้มากขนาดนั้นเลยทำให้หน้าของคุณดูแข็ง แต่ถ้าหากได้ทำการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเข้ามาด้วยจะทำให้หน้าดูละมุนและเด็กลงมากกว่าการเติมร่องแก้มอย่างเดียว
ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุร่องใต้ตาที่เกิดจากส่วนTear Throughของภายในร่างกายที่อยู่บริเวณรอบๆดวงตาใกล้กับร่องน้ำตาและส่วนHollow Under Eyeที่อยู่ตรงเบ้าตา เกิดการยุบตัวลงเมื่อคุณมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งส่วนเดียวและสองส่วนแต่ถ้าหากจะทำการฉีดหรือเติมฟิลเลอร์ใต้ตาควรที่จะเข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้หมอทำการประเมินเกี่ยวกับปัญหาและสามารถแก้ได้อย่างตรงจุด
นอกจากจะเจอปัญหาเรื่องใต้ตาของคนที่อายุเพิ่มมากขึ้นแต่คนที่มีอายุน้อยก็สามารถมีปัญหาเรื่องใต้ตาด้วยเหมือนกัน โดยอาจจะมีสาเหตุมาจากคนที่มีโรคภูมิแพ้ พันธุกรรม หรือการเจริญเติบโตของบริเวณกระดูกช่วงเบ้าตาและใต้ตาไม่มีเท่าที่ควร ทำให้มีถุงใต้ตา ร่องใต้ตา และปัญหาของการใช้สายตาที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาหย่อนคล้อยและมีริ้วรอยก่อนวัย
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง
การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับใบหน้าบริเวณรอบดวงตาที่หมองคล้ำ หย่อนยาน หรือคนที่มีถุงใต้ตาตั้งแต่อายุยังน้อยได้ และปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมฟิลเลอร์โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมีดังนี้
1. ปัญหาของใต้ตาคล้ำหรือมีขอบตาที่ดำ
- โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเข้าไปทำการเติมเต็มผิวบริเวณใต้ตาได้ทำให้ใต้ตาดูอิ่มฟูมากขึ้น แสงสามารถกระทบผิวได้มากขึ้น บริเวณใต้ตาดูสว่างขึ้น รวมไปถึงชั้นผิวจะดูหนาขึ้นเมื่อได้ทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทำให้ใบหน้าของคุณจะเห็นสีของกล้ามเนื้อและสีของเส้นเลือดที่ลดลง
2. ปัญหาใต้ตาลึก เบาตาลึก และมีตาที่โหล
- โดยปัญหาใต้ตาลึก เบาตาลึก และมีตาที่โหลทางแพทย์จะทำการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเข้าไปที่ช่วยให้มีเบ้าตาที่ตื้นขึ้นและดูดีมากขึ้น
3. ปัญหาถุงใต้ตาหรือใต้ตาหย่อนคล้อย
- โดยการแก้ปัญหาของคนที่มีถุงใต้ตาหรือคนที่มีใต้ตาที่หย่อนคล้อย การฉีดฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมชั้นที่ลึกขอบรอบดวงตาและเข้าไปช่วยพยุงบวกกับการเสริมโครงสร้างผิวที่อ่อนแรง จะส่งผลให้ผิวบริเวณใต้ตาดูกระชับขึ้น
4. ปัญหาของริ้วรอยใต้ตาและผิวที่เหี่ยวย่น
- ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) โดยมันเป็นสารที่มีความอุ้มน้ำ จึงทำให้ผิวของผู้ที่มาเติมฟิลเลอร์ดูอิ่มน้ำมากขึ้น ริ้วรอยใต้ตาจึงดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง
การที่จะเข้ามาทำการรักษาบริเวณรอบดวงตาที่มีปัญหาเกี่ยวกับตาดำ ตาโหล ถุงใต้ตา การทำฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าตอบโจทย์แต่ก็ต้องปรึกษาแพทย์และดูด้วยว่าคุณเหมาะกับการทำฟิลเลอร์ใต้ตาหรือไม่ โดยคนที่เหมาะกับการทำฟิลเลอร์ใต้ตามีดังนี้
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่มีปัญหาที่เกี่ยวกับริ้วรอยใต้ตา หย่อนคล้อย ถุงใต้ตา ขอบตาดำ ตาลึก ตาโหล
- เหมาะกับคนที่ไม่อยากจะเจ็บตัวและไม่อยากผ่าตัด
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการพักฟื้นนานๆและต้องการผลลัพธ์ที่เห็นผลรวดเร็ว
- คนที่ต้องการที่จะแก้ไขปัญหาใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกและเนื้อ จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- คนที่มีปัญหาเรื่องใต้ตามาตั้งแต่กำเนิดโดยเกิดจากลักษณะทางพันธุกรรม ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตาลึก ตาโหล ตาดำ
ฟิลเลอร์ใต้ตา เติมไขมัน และร้อยไหมแตกต่างกันอย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีวิธีการทำที่ง่ายเพียงแค่ทำการฉีดเข้าไปบริเวณรอบดวงตา และการฉีดฟิลเลอร์นั้นทางแพทย์คิดว่ามันเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากตัวสารที่อยู่ฟิลเลอร์ได้ทำการถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาในแต่ละชั้นผิว โดยถ้าหากฉีดได้ตรงจุดและเลือกฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผลลัพธ์ที่ออกมาจะดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่ถ้าหากคนไข้ไม่พอใจหลังจากทำเสร็จก็สามารถฉีดสลายออกไปได้
การเติมไขมันนั้นจะเป็นสารที่อยู่ในร่างกายของเราเอง ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีอาการแพ้ใดๆเน้นไปในด้านของการฉีดเพื่อเข้าไปเติมเต็มแต่ไม่สามารถยกกระชับได้เหมือนฟิลเลอร์ เซลล์ของไขมันจะมีคุณสมบัติที่เป็น stem cell จึงทำให้ผิวบริเวณนั้นมีสุขภาพที่ดีด้วย แต่ถ้าหากคนไข้ไม่พอใจหรือมีปัญหาเกิดขึ้นจะไม่สามารถฉีดสลายออกไปได้เหมือนฟิลเลอร์และปริมาณที่ได้ทำการเติมเข้าไปในช่วงแรกจำเป็นที่จะต้องเติมเข้าไปให้เยอะเพราะจะมีเซลล์ไขมันติดเพียงแค่ 30% และจะต้องรอเข้าที่ประมาณ 1 เดือน
การร้อยไหมหรือเส้นไหมจะเป็นการทำในรูปแบบเส้นจึงทำให้ไม่สามารถเติมเต็มได้เรียบเนียนเท่าการฉีดฟิลเลอร์หรือการเติมไขมัน และกับคนไข้บางรายอาจทำให้เกิดพังผืดใต้ผิวในบริเวณที่ได้ทำการร้อยเส้นไหมเข้าไป โดยทางแพทย์จะไม่ค่อยแนะนำวิธีนี้ให้กับคนไข้เพราะเห็นผลได้ไม่คงที่และไม่นานแถมยังไม่เป็นธรรมชาติอีกด้วย
ฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อดี และ ข้อจำกัด อะไรบ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นบริเวณดวงตาได้ แต่การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่คุณควรรู้ก่อนได้ทำการเข้าไปฉีด โดยข้อดีและข้อจำกัดมีดังนี้
ข้อดีของฟิลเลอร์ใต้ตา
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลทันทีหลังทำเพราะสารที่อยู่ฟิลเลอร์ที่เรียกว่า HA จะมีความคงตัวหากคนไข้รู้สึกไม่พอใจก็สามารถบอกแพทย์ให้ทำการเติมฟิลเลอร์หรือทำการสามารถสลายฟิลเลอร์ออกได้เช่นกัน
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่จำเป็นจะต้องพักฟื้นหลังจากที่คนไข้ได้ฉีดฟิลเลอร์แล้วสามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตของตัวเองได้เลยโดยที่คนไข้ไม่ต้องกังวลเรื่องของผลข้างเคียงเลย
- ในเรื่องของการแก้ปัญหาของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีคุณภาพและเป็นของแท้ ไม่จำเป็นจะต้องผ่าตัดใหญ่เพื่อทำการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ไม่มีการเจ็บตัวใดๆ และไม่จำเป็นจะต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงหลังทำการผ่าตัดอีกด้วย
ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ใต้ตา
- การฉีดฟิลเลอร์จะไม่สามารถคงอยู่ได้ถาวร โดยส่วนใหญ่แล้วคนได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ไปจะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 18 เดือนหลังจากนั้นฟิลเลอร์จะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูงเพราะสารที่อยู่ในตัวฟิลเลอร์นั้นเป็นสารที่อยู่ได้เพียงแค่ชั่วคราวและสลายได้เองจึงทำให้บริเวณที่ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปจะกลับสู่สภาพเดิม
- การฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่มีคุณภาพเพราะในปัจจุบันนี้มีฟิลเลอร์ปลอมอยู่ทั่วไปกระจายอยู่ตามท้องตลาด หากได้ทำการหลงเชื่อและฉีดเข้าไปอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางร่างกาย อาจทำให้สารที่อยู่ในฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันในเส้นเลือดและเป็นอันตรายได้โดยเฉพาะบริเวณดวงตาที่มีความบอบบาง หากไม่มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์มากพอและได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไปก็อาจทำให้คนไข้ตาบอดได้
- คนไข้จะมีอาการข้างเคียงหลังจากได้ทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันบริเวณที่ได้ทำการฉีดเล็กน้อยถือว่าเป็นเรื่องปกติ ให้คนไข้ทำการหลีกเลี่ยงการสัมผัส การแตะ การเกา การนวดในจุดนั้น และอาการต่างๆที่เกิดขึ้นก็จะดีขึ้นได้ภายใน 2-3 วันหากมีอาการเหล่านี้เกิน 3 วันให้รีบเข้าไปพบแพทย์ทันที
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดก่อนเข้ารับการรักษา โดยจะต้องเตรียมตัวดังนี้
- งดอาหารเสริม วิตามินหรือยาบางชนิดที่เกี่ยวกับการทำให้เลือกแข็งตัว อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาสมุนไพร เช่น น้ำมันตับปลา แปะก๊วย และโสม
- คนไข้ควรศึกษาข้อมูลให้มากๆก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกายที่หนักหรือหักโหมมากเกินไป หรือการออกกำลังกายที่ทำให้สูบฉีดเลือด
- ควรแจ้งประวัติการใช้ยาหรือการทานยาโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ก็จำเป็นที่จะต้องรู้ขั้นตอนต่างๆในการทำว่าเป็นอย่างไร ปลอดภัยหรือไม่ โดยจะมีขั้นตอนที่คุณควรรู้ดังนี้
- ปรึกษาแพทย์เพื่อเป็นการประเมินปัญหาที่เกิดขึ้นและสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน จากนั้นทำการเลือกชนิดของฟิลเลอร์
- คนไข้สามารถทำการแต่งหน้ามาได้แต่ทางคลินิกจะทำการเช็ดบริเวณใต้ตาหรือจุดที่จะทำการฉีดออก
- แพทย์จะทำการแปะยาชา
- จากนั้นแพทย์จะลงมือในการฉีดฟิลเลอร์ลงในบริเวณที่ต้องการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา
- แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในท่าที่ให้คนไข้นั่งหรือนอนเอียงโดยจะมีระดับของหัวอยู่สูงกว่าระดับของหัวใจเพื่อเป็นการไม่ทำให้เลือกออกมามากขึ้น
ขั้นตอนการเตรียมตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังจากได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเช่นกันโดยจะต้องปฏิบัติตามดังนี้
- งดการดื่มแอลกอฮอล์หลังทำการฉีดมา 24 ชั่วโมง
- งดหรือหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกายกลางแจ้งหรือกิจกรรมที่สร้างความร้อนภายในร่างกาย เช่น การซาวหน้า การเลเซอร์เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
- งดการนวดบริเวณใบหน้า 48 ชั่วโมง
- ควรดื่มน้ำให้มากๆ และต้องทำการประคบเย็นเบาๆเพื่อลดอาการบวม
- หากคนไข้มีอาการปวดก็สามารถทานยาแก้ปวดได้
- ควรอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นและหลีกเลี่ยงที่ที่มีแดดจัดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
ผลลัพธ์ที่คาดหวังของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยลดริ้วรอยต่างๆหรือรอยตีนกาที่มีลักษณะที่เหี่ยวย่นบริเวณใต้ตาและรอบๆดวงตาจึงทำให้หน้าดูมีอายุ และยังช่วยเรื่องของถุงใต้ตา ใต้ตาที่หย่อนคล้อย ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ เป็นวงๆบริเวณรอบดวงตาจะเห็นได้ชัดบริเวณรอบดวงตาจึงทำให้หน้าตาดูอ่อนล้า แต่หลังจากที่ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผลลัพธ์ที่จะได้ตามมาคือบริเวณรอบดวงตาของคุณจะดูเต็มขึ้นทำให้หน้าดูเด็กลง ทำให้หน้าดูสดใส และทำให้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ที่ทันตาและชัดเจนมากที่สุดแต่ก็ยังมีเรื่องของผลข้างเคียงที่ตามมากับคนไข้แต่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ก็สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นมีดังนี้
- รอยเขียวช้ำที่เกิดจากการที่แพทย์จิ้มเข็มเข้าไปในบริเวณที่ฉีด และจะหายได้เอง 1-2 สัปดาห์แต่ถ้าหากบริเวณที่เขี้ยวช้ำมีสีที่ซีดเหมือนขาดเลือดและมีอาการเจ็บร่วมด้วยแนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน
- อาจมีการเกิดอาการบวมขึ้นเพราะการฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ดังนั้นช่วงแรกอาจจะมีอาการอักเสบเกิดขึ้นได้
- เนื่องจากมีการอักเสบเกิดขึ้นจึงทำให้มีอาการระบมตามมาด้วยในช่วงสัปดาห์แรกหลังได้ทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป รวมไปถึงเข็มที่ใช้ในการฉีดเลยทำให้เนื้อเยื่อเกิดการบาดเจ็บเล็กเลยจึงทำให้มีอาการระบมเกิดขึ้น
อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองตามธรรมชาติโดยจะมีระยะเวลา 7-14 วันแต่ถ้าหากมีอาการเจ็บที่มากขึ้นกว่าเดิมควรรีบไปหาแพทย์ทันที
ข้อห้ามหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังจากได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จเรียบร้อยแล้วแพทย์จะทำการติดปลาสเตอร์ตามรอยเข็มเมื่อครบ 1 ชั่วโมงจึงจะสามารถทำการแกะออกได้ ส่วนข้อห้ามต่างๆที่คนไข้มักจะสงสัย เช่นสามารถแต่งหน้าได้มั้ย ห้ามล้างหน้าหรือห้ามทาครีมต่างๆหรือไม่ ในส่วนนี้ทางเราจะมาอธิบายให้คนไข้ฟัง
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติแต่ต้องหลังจากทำการฉีดมาแล้ว 24 ชั่วโมง
- คนไข้สามารถล้างหน้าได้ด้วยการใช้สบู่อ่อนๆแต่โดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที
- ขณะที่ทำการล้างหน้าไม่ควรที่จะนวดหน้าหรือขัดหน้า
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน หรือ 24 ชั่วโมง
- งดทำทรีตเมนต์หรือซาวหน้าอย่างน้อย 14 วัน
- แนะนำให้อยู่ในอากาศเย็นเพื่อเป็นการลดอาการบวม
- ในคนไข้บางคนจะมีอาการเจ็บหรือระบมบริเวณที่โดนเข็มจิ้มในคืนแรกสามารถทานยาแก้ปวดได้
วิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หากคนไข้ยังไม่รู้ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ควรศึกษาหาข้อมูลให้มากๆและควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานหากไม่อยากผิดหวังกับการฉีดฟิลเลอร์ คนไข้ควรเลือกจากสถานที่ที่เชื่อถือได้และจำเป็นจะต้องพิจารณาจาก ปัจจัยต่างๆดังนี้
- คลินิกที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขที่มีความน่าเชื่อถือและตรวจสอบได้จริง
- ทางคลินิกจะต้องมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์แล้วเท่านั้น และยังต้องนำชื่อ-นามสกุลของแพทย์ไปตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์ที่ชำนาญจริงๆ
- ทางคลินิกจะต้องใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น
- มีรีวิวจากคนที่เคยเข้ามาทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากทางคลินิกหรือสื่อต่างๆ เช่นFacebook Fanpage
- ทางคลินิกจะต้องมีการติดตามผลของคนไข้และแนะนำข้อปฏิบัติต่างๆหลังจากที่ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว และจะต้องมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก เช่นเบอร์โทร Line@ Facebook Messenger หากมีข้อสงสัยต่างๆก็สามารถสอบถามได้ทันที
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีและจะต้องเลือกอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าเป็นบริเวณที่บอบบางและจำเป็นจะต้องพิถีพิถันในการฉีดเป็นอย่างมาก โดยทางแพทย์จะแบ่งชั้นของผิวเป็นชั้นตื้นกับชั้นลึก โดยเฉพาะการฉีดชั้นตื้นจำเป็นที่จะต้องระวังเป็นอย่างมากเพราะมีผิวที่บอบบางควรที่จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็จะมีความแตกต่างกันวันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 10 ยี่ห้อมีดังนี้
- Juvederm Voluma จะมีเนื้อที่แข็ง มีความฟูปานกลาง แต่มีความยืดหยุ่นสูงสามารถอุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ
- Juvederm Volite มีเนื้อที่ละเอียด ส่วนใหญ่นำมาใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนที่มีผิวบางแต่ไม่มากเกินไป
- Juvederm Volux มีเนื้อแข็งแต่มีความยืดหยุ่นที่คงตัวเหมาะสำหรับใช้ฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
- Restylane Defyne มีเนื้อเป็นเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและสามารถอุ้มน้ำได้ดี
- Restylane Vital Light มีเนื้อที่ละเอียดมากที่สุดในบรรดาที่แนะนำมา ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับคนที่มีผิวบาง
- Restylane Vital มีเนื้อละเอียด เกลี่ยง่ายกว่าอันอื่นๆ เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียดต่างๆและให้ผลเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ
- Restylane Perlane Lyft มีเนื้อสัมผัสแข็งแต่มีความคงตัวสูง ไม่ฟูมากจนเกินไปและสามารถคงรูปได้ดีที่สุด
- Restylane Classic มีเนื้อแข็งช่วยเก็บรายละเอียดต่างๆบริเวณใต้ตาในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับคนผิวบาง
- Belotero Volume มีเนื้อสัมผัสที่แข็งแต่มีความยืดหยุ่นและคงตัวซึ่งเหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
- Belotero Soft เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะมากสำหรับฉีดใต้ตาโดยเฉพาะ เพราะให้ผลเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ
คำถามที่พบบ่อย
1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีโอกาสตาบอดไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถทำให้ตาบอดได้จริงๆแต่จะเกิดขึ้นได้ยากมากๆโดยมีสาเหตุมาจากคนไข้ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไป ฉีดกับหมอเถื่อนที่เราเรียกกันว่าหมอกระเป๋า หรือเป็นข้อผิดพลาดในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเข้าไปในหลอดเลือดทำให้เกิดการอุดตัน
2. ฟิลเลอร์ใต้ตาทำไมตาบวม?
อาการบวมหลังจากได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้น หากได้ใช้ฟิลเลอร์แท้และฉีดกับหมอในคลินิกที่ได้มาตรฐานจะไม่ค่อยเกิดอาการบวมแดง สาเหตุเกิดจากเข็มที่เข้าไปในผิวและฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ดี คนไข้จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์และอาการจะดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์3. หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากินอะไรได้บ้าง?
อาหารที่สามารถทานได้หลังจากที่ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาคือ อาหารที่มีจำพวกวิตามินเอและวิตามินซีสูงเช่นสับปะรด แครอท มันฝรั่งหวาน กีวี่ สตอเบอร์รี่ หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว และควรดื่มน้ำให้มากๆ
3. หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาห้ามกินอะไร?
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาคือ แอลกอฮอล์ อาหารหมักดองต่างๆ อาหารที่มีรสชาติจัด อาหารเสริมหรือยาบางชนิด เป็นต้น
4. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน?
ระยะเวลาของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือนแต่ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์โดยส่วนใหญ่แล้วมาตรฐานของฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับปริมาณความเข้มข้นของสารไฮยาลูรอนิค แอซิดที่อยู่ในฟิลเลอร์เป็นสารที่ทำมาเพื่อเป็นการเลียนแบบสารธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายไปเองได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับ Romrawin Clinic
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานอกจากจะช่วยในเรื่องของถุงใต้ตา ความคล้ำ ขอบตาดำ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องทำการตรวจสอบความเหมาะสมของฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้นด้วยว่าเหมาะกับบริเวณที่จะทำการเติมหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้แพทย์จะทำการประเมินเอง หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ฟิลเลอร์ของแท้
วันนี้ทางเราขอแนะนำ Romrawin Clinic มีสาขามากมายสามารถเข้าไปสอบถามรายละเอียดต่างๆได้ทางเว็บไซต์ https://www.romrawinclinic.com และถ้าหากต้องการจองคิวสามารถติดต่อได้ทางLine@romrawinclinic หรือFB:Romrawin Clinicและเบอร์โทร: 080-153-9000 หรือ 080-154-9000 เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 11.00-21.00 น.