ทำไมจึงเป็นตำนาน!!? กระซิบรักบันลือโลก"ปู่ม่านย่าม่าน"
หากจะมาให้ถึงจังหวัดน่านแล้วละก็ ต้องไม่พลาด เยี่ยมชมวัดภูมินทร์ และชมภาพจิตกรรมฝาผนังอันโด่งดัง ที่ถูกวาดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2410-2417 โดยหนานบัวผัน ศิลปินชาวไทลื้อ ซึ่งวาดขึ้นในวาระที่ทางวัดได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ
คำว่า “ปู่ม่านย่าม่าน” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงบุคคลในภาพวาด อยู่มานานจนแก่เป็นปู่หรือเป็นย่า แต่จริง ๆ แล้วคือชายชาวพม่าเมื่อเข้าสู่วัยที่เป็นผู้ใหญ่จะเรียกกันว่า “ปู่” ส่วนผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่จะเรียกกันว่า “ย่า” และคำว่า “ม่าน” นั้นก็หมายถึง “พม่า” ซึ่งเป็นคำเรียกที่คนไทยในสมัยก่อนใช้เรียกชาวพม่า
ส่วนองค์ประกอบของรูปภาพ ฝ่ายหญิงแต่งตัวเต็มยศใส่เสื้อแบบหญิงพม่าโบราณ ส่วนฝ่ายชายถอดเสื้อสักยันต์ตั้งแต่พุงลงมาถึงต้นขา ที่ท้องสักเป็นลายคาดสีดำเรียกว่า “สักลาวพุงดำ” สักสีแดงเป็นรูปคนวิ่งบริเวณหน้าอก เรียกว่าการ “สักฝาง” สักเพื่อประดับประดาตนเอง และสื่อความหมายว่า ในบ้านของชายผู้นี้มีข้าทาสบริวารจำนวนเท่าไร ซึ่งเชื่อได้ว่าชายในภาพนี้เป็นผู้มีอันจะกินมากพอสมควร ถึงได้มีบริวารอยู่มากขนาดนี้ ซึ่งคู่รักใด ๆ ก็ตามที่มาบอกรักขอพรต่อหน้า “ปู่ม่านย่าม่าน” นอกจากจะหวังพรที่จะมีความรักยืนยงยาวนานแล้ว ยังหวังถึงความมั่นคงมั่งคั่งในชีวิตรักหรือชีวิตสมรสอีกด้วย
อย่างไรก็ตามการขอพรนั้นไม่ใช่อยู่ ๆ จะขอพรกันอย่างง่าย ๆ คู่รักโดยเฉพาะฝ่ายชาย จักต้องจำประโยคบอกรักที่สำคัญ ซึ่งแต่งและแปลโดยอาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม เป็นภาษาถิ่นพายัพ (ภาษาเหนือ) อันสละสลวย ไปพูดกระซิบบอกคนรักต่อหน้า “ปู่ม่านย่าม่าน” ความว่า
“คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไปก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…
ภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน” เป็นหนึ่งในภาพที่มีชื่อเสียงของงานจิตรกรรมฝาผนัง ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดทั้งด้านองค์ประกอบและอารมณ์การรังสรรค์ ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่แปลกแยกจากรูปอื่น ๆ
การแต่งคำกลอนภาษาคำเมือง ที่แต่งขึ้นมาสำหรับภาพปูม่าน ย่าม่านนี้ ว่าไว้ว่า
"กำฮักน้องกูปี้จั๊กเอาไว้ในน้ำก็กั๋วหนาว
จั๊กเอาไว้ปื้นอากาศกลางหาว
ก็กั๋วหมอกเหมยซ่อนดาวลงมาขะลุ้ม
จั๊กเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม
ก็กั๋วเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวจายปี้นี้
จั๊กหื้อมันไห้ อะฮิ อะฮี้
ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา"
คำแปล “ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น”
ถือกันว่าเป็น ภาพแห่งความรักที่เป็นตัวบ่งบอกได้ดีที่สุดว่า “ความรักนั้นอยู่เหนือกาลเวลา”
เที่ยวกันสักครั้ง ที่น่านนะคะ